นางไม่คิดจะอธิบายเรื่องที่ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตกอับให้คนแปลกหน้าฟังแต่อย่างใด นอกจากรีบเดินตรงไปยังสระอาบน้ำ แล้วคุกเข่าลง
เมื่อคุกเข่าลงด้านข้างของสระอาบน้ำ ซึ่งห่างจากหั้นตั้นแสนสวยไม่ไกลมากนัก ประสาทสัมผัสทั้งห้าบนใบหน้าที่งดงามของนางไม่เป็นสองรองใครมาก ริมฝีปากแดงบางราวกับกลีบดอกไม้
ผิวกายละเอียด ไหล่ผึ่ง ผมยาวที่เปียกชุ่มพาดอยู่บนแผ่นหลัง หน้าอกบาดลึก นำมาซึ่งความรู้สึกลึกลับและซุกซน ราวกับสวมใส่เสื้อคลุมอาบน้ำสีดำตัวหนึ่ง ทําให้คนที่พบเห็นอดที่จะจินตนาการไปไม่ได้
เมื่อมาสำรวจอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ก็ได้เห็นถึงความ งดงามงามอย่างแท้จริง คังเสว่มี่ทอดถอนใจอีกครั้ง
หลังจากนั้นผ่านไปชั่วประเดี๋ยวเดียว ในสมองก็ปรากฏสถานการณ์ที่ตกอับที่ตัวเองกำลัง เผชิญขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สายตาเบนเบี่ยงไปด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จึงได้พูดเรื่องที่อยู่ในสมองออกมา
“หั้นตั้น ดีใจที่ได้พบกับเจ้าอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าจะกะทันภายใต้สถานการณ์นี้ก็ตาม แต่มีเรื่องผิดพลาดเล็กน้อย มีคนจะมาจับข้า ข้าอยากจะเปลี่ยนชุด เจ้ามีเสื้อผ้าให้ข้าใส่สักชุดไหม?”
หั้นตั้นส่ายหน้า “ไม่มี!"
“แล้วเจ้ามาอาบน้ำได้อย่างไร โดยไม่มีเสื้อผ้าหนึ่งถึงสองชุดอยู่ที่นี่เลยล่ะ” คังเสว่มี่ทอดถอนใจ เปลี่ยนชุดก็ไม่ได้ งั้นก็คงต้องเปลี่ยนวิธี
นางเม้มริมฝีปากสีชมพู พร้อมกับขมวเคิ้ว “งั้นเอาแบบนี้ ข้าจะขอยืมสระอาบน้ำของเจ้าหลบซ่อนตัวสักหน่อย เดี๋ยวพวกเขาไป ข้าก็ค่อยออกมา ได้หรือไม่?”
บางทีเมื่อครั้งอยู่ในร้านอาหารจุ้ยเซียนอาจจะสร้าง ความประทับใจแรกให้แก่นางไม่เลวเลยทีเดียวก็เป็นได้ บวกกับนางยังช่วยตัวเองพูดชมเชยองค์ชายหกอีก คังเสว่มี่จึงค่อนข้างเชื่อมั่นในทัศนคติของนาง
แน่นอนว่า
นางเองก็ไม่เชื่อคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกทั้งหมดอย่าง แน่นอน เพียงแต่ว่าเมื่อพบเจอกับคนเหล่านี้ ก็รู้สึกถูกคอกัน
นั้นตั้นจ้องเขม็งไปทางคังเสว่มี่ตลอดเวลา เมื่อเห็นนางพูดไปพลาง เดินเข้าไปในสระอาบน้ำไปพลาง ดวงตาดุจลูกท้อก็ฉายแววลึกซึ้งออกมาในทันที
หลังจากนั้นก็หัวเราะเสียงต่ำออกมา
เสียงที่แผ่ไปด้วยความอบอุ่นก็ได้ลอยเข้ามาในหู ท่ามกลางไอน้ำ
"ในเมื่อได้เจอเจ้าในสถานการณ์นี้ข้าจะช่วยเจ้าอีกสักครั้ง ไม่ว่ายังไง เจ้าก็เรียกข้าว่าพี่สาวอยู่ดี”
คังเสว่มี่พูดไปพลาง ฟังเสียงฝีเท้าที่ดังมาจากด้านหน้าไปพลาง ถึงแม้จะรู้สึกว่าคำพูดของนั้นตั้นจะฟังดูแปลกก็ตาม แต่ในเวลานี้นางกลับไม่คิดอะไรมากอีกแล้ว
“ได้ ขอบคุณ......"
เมื่อพูดจบ ก็จมหายไปในน้ำ เพื่อหลบหลีกไม่ให้ถูกพบว่ามีคนอยู่ใต้น้ำ นางพยายามอยู่ใกล้หั้นตั้นให้มากที่สุด
ใช้ร่างกายของหั้นตั้นและมุมของสระน้ำ เพื่อซ่อนเงาของนาง
อยู่ในน้ำมีความดันน้ำนั้นสูงมาก
หู ตา ถูกน้ำกดไว้จนพร่าไปหมด คลื่นกระเพื่อมไปเป็นชั้น ๆ นางทำได้ยินเพียงแค่ได้ยินเสียงอันเลือนรางจากด้าน นอกเท่านั้น ราวกับว่ามีคนถลันเข้ามา แล้วกำลังพูดคุยอยู่กับนั้นสั้น
หั้นตั้นสาวผู้งดงาม หลังจากที่ถูกคนถลันเข้ามาในขณะที่ที่ร่างกายดูไม่ ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก แต่นางกลับไม่ส่งเสียงร้อง และก็ไม่ดึงผ้ามาปิดบังอำพลางแต่อย่างใด
จนกระทั่งคังเสว่มี่สัมผัสได้ว่าหั้นตั้นได้กางแขนทั้งสองข้างออกอย่างสบาย นั่งอยู่บนสระ ด้วยอากัปกิริยางดงามราวกับกำลังนั่งดื่มเหล้ากับคนที่อยู่ด้านนอกอ่างอย่างนั้น
สัมผัสไม่ถึงความตึงเครียดหรือเขินอายแต่อย่างใด
นึกไม่ถึงเลย นึกไม่ถึง ว่าในยุคสมัยนี้จะพบเจอกับหญิงสาวกล้าได้กล้าเสีย เช่นนี้
มิน่าละเหล่าบุรุษเจ้าชู้ถึงได้หลงนักหลงหนา ความรู้สึกนี้ไม่ใช่ว่าหญิงสาวธรรมดาจะมีได้ง่ายๆนะ!
ถึงแม้ว่าหั้นตั้นจะเต็มไปด้วยงดงามก็ตาม แต่คังเสวมี่ยังรู้สึกเลื่อมใสอยู่ไม่น้อย
น้ำที่อยู่รอบตัวนี้เป็นน้ำอุ่น ที่ปะปนไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่หอมจรุงใจ ผิวน้ำด้านบนมีกลีบดอกไม้หลายกลีบลอยวนไปมา สัมผัสได้ถึงความรู้สึกละมุนใจ
ในสภาพแวดล้อมที่ให้ควารู้สึกเช่นนี้ นางจึงไม่มีกระจิตกระใจชื่นชมแต่อย่างใด
เพราะอากาศในปอดค่อยๆลดน้อยลงเรื่อย ๆ นางอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นก็จิ้มไปบนเอวอันละเอียดของหั้นตั้น เพื่อกระตุ้นให้นางไล่พวกเขาไปให้เร็วขึ้นหน่อย
เมื่อหั้นตั้นถูกนางจิ้มเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะไม่แสดงปฏิกิริยาตอบรับแต่อย่างใด เพียงแค่ขยับเอวเล็กน้อย หลังจากนั้นก็พูดคุยกับคนเหล่านั้นต่อ!
คังเสว่มี่รู้สึกว่านางนั้นกำลังจะตายเพราะการกลั้นลมหายใจนี่แหละ!
นางขาดออกซิเจน และเริ่มวิงเวียนศีรษะ
เท้าก็เริ่มลอยไปลอยมาเบาๆ ปลายเท้าเริ่มอ่อนแอลง ร่างกายก็เริ่มยืนไม่มั่นคง นางจึงได้ยื่นมือไปคว้าด้านข้าง และจับไปบนสิ่งของที่นูนออกมา
ยังดี ยังดี ที่ไม่ลื่นไหลลงไป ไม่อย่างนั้นน้ำที่มีกลีบดอกไม้นี้คงได้กระจายตัวอย่าง แน่นอน และทำให้คนเห็นว่ามีคนอยู่ใต้น้ำ
แต่
ทำไมนางถึงได้รู้สึกว่าตัวเองจับได้บางสิ่งบางอย่างที่ แปลกประหลาดล่ะ
เหมือนกับแขนของเด็กทารกอย่างไรอย่างนั้น นุ่มๆ และก็ยังยืดหยุ่นอีกด้วย
หรือว่าในยุคสมัยนี้มีการประดิษฐ์ด้ามจับยางแล้ว?
ในตอนที่นางจับ “ด้ามจับ” นั้น ร่างกายของหั้นตั้นก็ตื่นตกใจขึ้นมาในทันที แข็งทื่อขยับเขยื้อนไม่ได้ราวกับร่างทั้งร่างถูกฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น
คังเสว่มี่กระพริบตาเล็กน้อย จากนั้นก็พ่นฟองอากาศออกมา เจ้ายังไม่ไล่คนเหล่านั้นกลับไปอีกหรือ หรือว่าจะให้นางออกไปสู้กับคนเหล่านั้นตรงๆแล้ว!
ไม่ได้ ไม่ได้ นางต้องออกไป นางไม่อยากกลายเป็นคนที่ต้องตายลงเพราะกลั้น หายใจอยู่ใต้น้ำหรอก!
เพื่อจะได้ยืนหยัดอีกต่อไป คังเสวีมี่จึงได้จับ “ด้ามจับ” อีกครั้ง
ครั้งนี้หั้นตั้นอดส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้ ดูเหมือนเสียงนั้นจะแฝงไปด้วยความโกรธเคืองด้วย
ดูเหมือนว่าอุณหภูมิในน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย “ด้ามจับ” ที่ถูกดึงก็แข็งทื่อขึ้นมา และร้อนขึ้นมาทันใด
“ด้ามจับ” แปลกประหลาด ได้ปรับให้อุณหภูมิของน้ำอุ่นขึ้น รอให้ออกไปก่อนก็น่าจะรู้ว่ามันคืออะไรแต่ในตอนที่นางทนไม่ไหวแล้วนั้น ก็ได้ยินเสียงเปิดปิดของประตูขึ้นมากระชั้นชิดไม่สนใจแล้ว ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะยังไม่ออกไป นางต้องออกไปแล้ว อากาศในหน้าอกกลังจะหมดลง คังเสวมี่แยกเท้าทั้งสอง แล้วกระเพื่อมขึ้นมาจากในน้ำ จมูกโผล่พ้นผิวน้ำ เริ่มหายใจหอบหืดเฮือกใหญ่!แต่คนกลับไม่ได้ตื่นตกใจเพราะมีคนโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ แต่อย่างใด เมื่อขึ้นมาได้แล้วนางก็มองไปรอบๆด้าน“หั้นตั้น หากเจ้าไม่ให้พวกเขาออกไป ข้าได้กลั้นหายใจตายอยู่ในน้ำนี่แน่!"หลังจากที่สูดอากาศเข้าไปสองสามครั้งแล้ว คังเสว่มีก็ยกมือข้างหนึ่งเช็ดหยดน้ำที่อยู่บนใบหน้า จากนั้นก็หันไปมองนั้นตั้นด้วยความอนิจจังสิ่งแรกที่สะท้อนเข้ามาในม่านตาของนาง ก็ยังคงเป็นใบหน้าที่สวยสดงดงามของหั้นตั้น ดวงตาดุจลูกท้อสีดำดั่งยามราตรีในเวลานี้ได้ฉายแวว กระสับกระส่ายบางอย่างออกมาใบหน้าดุจหยกนั้นไม่แสดงอาการใดๆออกมา ดวงตาดุจลูกท้อหรี่ลงเล็กน้อย ให้ความรู้สึกที่ยากจะพรรณนาออกมาได้ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความ กลัดกลุ้มใจว่า:“เจ้ายังไม่ปล่อยมืออีกหรือ?” ปล่อยมือ? ปล่อยมืออะไร?คังเสวมี่เกิดความสงสัย จากนั้นก็มองไปทางใบหน้าของนั้นต้นด้วยความสงสัย
copy right hot novel pub