ตอนที่ 255 เงื่อนไขเบื้องต้น
“ เงียบ ! ”
ปาลีเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่กระพริบของจาริณีอย่างรุนแรง และพูดคำต่อคำว่า : “ อย่าพยายามโกหกหนู แม่ อย่าคิดที่จะโกหกหนูอีก ! ตอนนี้ ถ้าหากว่าแม่ไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่ไปกว่านี้ล่ะก็ รีบโทรหาขวัญชีวี หนูจะคุยกับน้อง ”
จาริณีถูกปาลีทำให้ตกใจ ตั้งแต่เล็กจนโต ปาลียังไม่เคยใช้น้ำเสียงที่ไม่สุภาพเช่นนี้คุยกับเธอ ทันใดนั้น เธอก็โกรธและจ้องตาขวางกลับไปที่ปาลี แต่ เธอรู้ว่าในตอนนี้ เธอไม่สามารถโกรธปาลีได้ ทำได้เพียงกัดฟันและพูดว่า : “ เธอรอเดี๋ยว แม่เข้าไปหยิบโทรศัพท์ในห้อง ”
พูดจบ ก็หันกลับไป และหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับโทรหาขวัญชีวี
ในตอนนั้น โทรศัพท์เครื่องนี้ของเธอก็เป็นเงินเดือนทั้งเดือนของปาลีที่ซื้อให้ น่าเสียดาย ที่เธอไม่เคยเห็นความดีของปาลีเลย ในใจจำได้ก็แค่เพียงขวัญชีวีลูกแท้ๆของตัวเธอเอง
ทันทีที่โทรติด ก็มีเสียงที่หงุดหงิดของขวัญชีวีดังออกมาทันที : “ แม่ โทรมามีเรื่องอะไรอีก หนูเพิ่งจะโอนเงินหนึ่งแสนเข้าบัญชีแม่ไปแล้ว ถ้าจะเอาอีกหนูไม่มีแล้ว อย่าคิดว่าชีวิตหนูที่นี่จะดี มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีเงินเยอะขนาดนั้น ”
ปาลีคว้าโทรศัพท์มาจากมือของจาริณี และพูดอย่างเย็นชาว่า : “มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีเงินเยอะขนาดนั้น โดยเฉพาะคนที่ปลอมเป็นคนอื่น ”
เมื่อได้ยินเสียงของปาลีดังนั้น ทุกส่วนในร่างกายของขวัญชีวีก็สั่นในทันที จากนั้น ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาว่า : “ ปา….ลี ทำไมเธอถึงอยู่กับแม่ ? เธอกลับบ้านแล้ว ? เธอคิดจะทำอะไร ? ”
“ เธอไม่ต้องกังวล ฉันก็แค่กลับมาถามอะไรนิดหน่อย ”
ปาลีหัวยิ้มเยาะอย่างเรียบๆ จากนั้น ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอปล้นทุกอย่างไปจากฉัน ไม่คิดเลยว่า ในวันนี้แม้แต่ชีวิตฉันเธอก็เอาไป แต่ก็ ไม่เป็นไร ครั้งนี้ ฉันยังยอมให้เธอ ฉันสามารถปิดปากเงียบ และให้เธอเป็นเศรษฐีนีของเธอต่อไป แต่เงื่อนไขก็คือ เธอจะต้องทำตามข้อตกลงของฉันหนึ่งข้อ ”
จาริณีและขวัญชีวีที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ไม่คาดคิดเลยว่า ปฏิกิริยาของปาลีหลังจากที่ได้รู้ความจริงแล้วนั้นกลับกลายเป็นเงียบสงบ แล้วยังมาพูดเรื่องข้อเสนออย่างเรียบเฉย ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองก็กังวลว่าข้อตกลงนี้ของปาลีคืออะไรกันแน่ ?
ขวัญชีวีกำโทรศัพท์แน่น และกัดฟันพูดว่า : “ ตกลง พูดมาเธอต้องการอะไร ถ้าหากว่าอยากได้เงินก็อย่าขอมากเกินไป เธอก็รู้ ว่าถ้าฉันถอนเงินจำนวนมากในทันที มันจะทำให้พวกเขาสงสัย ”
ปาลีพูดอย่างเด็ดขาดว่า : “ ฉันไม่ต้องการเงิน ฉันต้องการเพียงแค่หุ้น 5% นั้นของบริษัทเอวีร่าที่เธอถืออยู่ ! ”
ตั้งแต่ที่กำลังเดินทางกลับบ้านนั้น ปาลีเธอก็คิดเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนนี้ขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เมื่อเรื่องราวได้รับการยืนยันแล้ว ปาลีก็เริ่มวางแผนอย่างใจเย็น
เมื่อขวัญชีวีได้ยินความต้องการนั้น เธอก็สับสนในทันที จากนั้น ก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า : “ เธอจะเอาหุ้นของบริษัทพี่เขยไปทำไม เธอยังคิดที่จะเข้าไปยุ่งกับพี่เขยหรอ ? ”
ถึงแม้ว่าปาลีกับรฐาจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันนานแล้ว แต่ขวัญชีวีเองก็มาถึงจุดที่เธอสามารถพูดคุยเรื่องการแต่งงานกับกับรฐาได้แล้ว แต่ขวัญชีวีกลับไม่ได้เปลี่ยนสรรพนามที่ต้องเรียก ยังคงเรียกรฐาว่า ——พี่เขย
หรือแม้แต่ขวัญชีวีเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเธอเองนั้นมีความหลงใหลในทางที่ผิดกับชื่อนี้
และรฐาก็ชอบที่เธอเรียกเขาว่าพี่เขยอย่างนี้ พี่เขย พี่เขย ทุกครั้งที่ได้ยิน ในใจก็มีความสุขเสมอ
แต่ชื่อที่เรียกออกมาจากปากของขวัญชีวีอย่างนี้ พอปาลีได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกน่าขำ และเธอก็ไม่ต้องการแม้แต่ที่จะอธิบายหรือพูดจาไร้สาระกับขวัญชีวี เธอพูดเพียงแค่ว่า : “ เศรษฐีนี เธอเลือกได้เพียงทางเลือกเดียว เธอยังมีเวลาอีกครึ่งวันที่จะคิดเกี่ยวกับมัน คืนนี้ก่อนสองทุ่มฉันจะกลับเข้าเมือง คิดได้แล้วก็มาหาฉันที่โรงแรมยี่ลิน และถ้าหากว่าเธอไม่มา ผลที่ตามมามันจะเป็นยังไง ฉันไม่ต้องบอก เธอก็น่าจะรู้ ”
พูดจบ ปาลีก็วางสายจากขวัญชีวี
ในตอนนี้ ขวัญชีวีโกรธจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ทว่ากลับไม่รู้จะทำอย่างไร
ปาลีคืนโทรศัพท์ให้กับจาริณี จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปที่ห้อง
จาริณีก็รีบคว้าเธอไว้ในทันที และพูดว่า : “ เธอจะทำอะไร ? ”
ปาลีเลิกคิ้วขึ้นเบาๆพร้อมกับพูดว่า : “ ไม่ต้องห่วง หนูไม่ปลุกพ่อแล้วคุยอะไรกับเขาหรอก หนูแค่เพียง…..อยากจะเห็นพ่อ ”
ไม่ได้เจอสี่ปี เธอคิดถึงพ่อมาก คิดถึง คิดถึง คิดถึงมาก
แต่จาริณีไม่เชื่อ “ มีอะไรน่าดู ยังไม่แก่ขนาดนั้นหรอก เมื่อกี้ก็คุยกับน้องขวัญแล้ว อย่าพูดเรื่องไร้สาระอีก ”
ปาลีไม่สามารถอดกลั้นอารมณ์โกรธได้ ตั้งแต่เล็กจนโต จาริณีเป็นแบบนี้มาโดยตลอด เรื่องอะไรก็ปกป้องแต่ขวัญชีวี เมื่อก่อนเธอเคยอิจฉาบวกกับริษยานิดหน่อย แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกเพียงขยะแขยง
ปาลีผลักจาริณีออก เธอเหนื่อยที่จะเถียงกับจาริณีแล้วจาริณีไม่คิดว่าปาลีจะแรงเยอะขนาดนี้ ผลักเธอจนถอยหลังไปหลายเมตรกว่าจะทรงตัวกลับมาได้ และตอนเธอกำลังที่จะหยุดปาลีนั้น ปาลีก็เดินเข้าห้องไปแล้ว ทันใดนั้นจาริณีก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรอีก กลัวที่จะปลุกธามตื่นปาลีค่อยๆเดินไปที่ข้างๆเตียงของธาม เธอยืนอยู่อย่างเงียบๆและมองธามที่กำลังนอนอยู่ไม่ได้เจอสี่ปี ผมสองข้างขมับของธามหงอกแล้ว เธอมองดูเขาที่แก่ลงไปมาก ดูเหมือนว่าที่เธอจากไปสองปีมานี้ ชีวิตของธามนั้นไม่ดีเลยปาลีมองไปพลางก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีเสียง เห็นพ่อแก่ลงไปมาก ใจเธอก็เจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก ความทรงจำในวัยเด็กนั้น พ่อเป็นเหมือนดั่งภูเขาสูง แข็งแกร่ง ทรงพลัง ถ้อยคำชัดเจนและรอยยิ้มสดใสเสมอ เพียงแค่พริบตา กลับแก่ลงไปมากเวลา ช่างเป็นอะไรที่โหดร้ายเหลือเกิน !
copy right hot novel pub