ตอนที่372 พบเห็นเรื่องฉาว
โสรจถอยลงมาห้องโถง แล้วตะโกนอย่างโมโห“ใครเอาของของฉันมาทิ้งตรงนี้ ออกมา”
เธอตั้งใจทำการเคลื่อนไหวแบบนี้เพื่อให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอเพิ่งกลับมา ส่วนในห้องนั้นจักรกฤษและขวัญชีวีใครจะชนะเธอก็ไม่สนใจหรอก สิ่งที่สำคัญคือเธอได้รู้ข่าวสำคัญข่าวหนึ่งที่สามารถไปล้างแค้นได้แล้ว พอนึกแบบนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะไปวางแผนแล้ว
บนห้อง เมื่อจักรกฤษและขวัญชีวีได้ยินเสียงอขงโสรจ ทั้งสองสีหน้าก็เปลี่ยนทันที ต่อมาจักรกฤษก็พูดด้วยเสียงที่เยือกเย็น“โลกนี้ยังไม่มีใครมาขู่ฉัน ถ้าแกยังไม่ทำตัวดีๆแล้วก็ ฉันมีวิธีเป็นร้อยเป็นพันที่จะทำให้แกหายไปจากโลกนี้ ไม่เชื่อแกก็ลองดู”
พูดจบเขาก็ไม่มองขวัญชีวีที่ใบหน้าซีดขาวอีก เปิดประตูแล้วก็เดินออกไป เมื่อสงบอารมณ์และสีหน้าจนได้เขาก็เดินลงไปอย่างเฉยเมย มองไปยังโสรจ เห็นสภาพเธเหมือนเพิ่งกลับมาจากข้างนอกจึงรู้สึกโล่งใจขึ้จมา
“ทำไมของของฉันดดนทิ้งอยู่นี่ เป็นนายทำหรือวิสาข์ทำ”โสรจมองจักรกฤษที่เดินเข้ามาหาเธอด้วยความโกรธ
ในบ้านหลังนี้ คนที่กล้ามาแตะต้องของของเธอนอกจากวิสาข์ก็เหลือแต่จักรกฤษแล้ว
จักรกฤษเดินผ่านโสรจแล้วนั่งลงบนโซฟาอย่างสงบนิ่ง แล้วค่อยๆพูดขึ้น“ฉันเอง”
“นี่นายหมายความว่าไง”
โสรจหัวใจสั่นไปเล็กน้อย เดิมทีเธอคิดว่าเป็นความหมายของวิสาข์ คาดไม่ถึงเป็นของจักรกฤษ
ถ้าเป็นวิสาข์จะไล่เธอออกไปเธอก็ยังทำหน้าด้านไปอยู่ต่อได้ แต่ถ้าเป็นจักรกฤษงั้นเรื่องมันก็ลำบากขึ้นแล้ว เพราะเธอเข้าใจดูว่าแม้น้องชายต่างแม่ของเธอคนนี้ภายนอกจะดูเกเร แต่ถ้าเขาเอาจริงขึ้นมาจะไม่ใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย
“ก็อย่างที่เธอเห็นนั่นแหล่ะ ฉันต้องการให้เธอย้ายออกจากบ้านหลังนี้เดี๋ยวนี้ และต่อไปห้ามเหยียบเข้ามาบ้านหลังนี้แม้แต่ก้าวเดียว”สายตาของโสรจเย็นชา แม้น้ำเสียงก็เยือกเย็นไปด้วย
ตลอดมาแม้เขาก็เกลียดโสรจมากแต่ไม่เคยลงมือหนักกับเธอเป็นเพียงเพราะว่าเธอมีสายเลือดของตระกูลกาฬดิษย์ หลังจากที่ปาลีเตือนแล้วเขาก็รู้ว่าตนเองจะใจอ่อนอีกไม่ได้ ถึงคนภายนอกจะนินทาเขาว่าเขาใจดำไล่พี่สาวออกจากบ้านก็ตามเขาก็จะทำอย่างนี้ เพราะบนโลกนี้สิ่งที่เขาทนไม่ได้ก็ความมีความคุมครามความปลอดภายของแม่เขา
เมื่อได้ยินดังนั้น โสรจโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แม้สภาพนี้เธอก็สามารถเดาออกได้แต่โดนจักรกฤษไล่ออกไปโดยไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิดทำให้เธอรับไม่ไหว แต่มองดูใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของจักรกฤษ โสรจรู้ว่ายังไงวันนี้เธอก็ต้องไปแล้ว
“ได้ ฉันไป โสรจ นายต้องเสียใจที่ทำแบบนี้กับฉันในวันนี้แน่”พูดจบ โสรจก็ลากกระเป๋าตนเองแล้วออกไปจากบ้านตระกูลกาฬดิษย์
โสรจที่ออกจากบ้านตระกูลกาฬดิษย์ไม่ได้รู้สึกเสียใจสักเท่าไหร่ เพราะเธอรู้แล้วว่าไม่ช้าก็เร็วตนเองต้องถูกไล่ออกจากบ้าน แต่ได้รู้ข่าวใหญ่นี้ก่อนโดนไล่ออกมาจะมีอะไรน่าเศร้าอีกล่ะ อีกทั้งเธอก็ไม่ได้ขาดเงิน พอออกจากบ้านตระกูลกาฬดิษย์เธอก็ไปพักที่โรงแรมห้าดาวแล้ว
คำคืนที่อยู่แค่คนเดียวมันดูเงียบเหงามาก แต่โสรจกลับอามรมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอเปิดไวน์ขวดหนึ่งในตนเอง ใส่ชุดนอนที่เซ็กซี่ เปิดเพลงที่ไพเราะ พลางดื่มพลางเต้นรำตามอำเภอใจ แล้วในสมองกลับคิดถึงความลับที่ได้ยินจากขวัญชีวี
“ปาลีนะปาลี ดนุพลนะดนุพล คาดไม่ถึงเลยพวกแกสองคนเป็นพี่น้องกัน เหอะๆ เรื่องมันยิ่งสนุกขึ้นมากแล้ว ฉันควรทำอย่างไรถึงจะทำให้พวกแกสองคนเหม็นฉ่าวถึงที่สุดเลย”
โสรจพูดพึพำ ในสมองก็คิดแผนชั่วแต่งๆที่ทำให้ปาลีและดนุพลเสียทุกอย่างไป
ทันใดนั้นเธอก็เหลือบเห็นนิ้วมือทั้งห้าของตนเองที่จับแก้วไวน์อยู่ แล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เพราะเธอรู้สึกว่านิ้วมือตนเองดูขี้เหร่มาก โดยเฉพาะปลายนิ้วดูบวมใหญ่มาก“นี่ฉันไม่ทายาทาเล็บมานานแล้ว ทำไมปลายนิ้มยังบวมอยู่อะ”ยิ่งดูโสรจก็ยิ่งรู้สึกมันขี้เหร่ จู่ๆเธอก็รู้สึกกรัวนกระวายใจขึ้นมาตลอดมาเธอคิดว่าตนเองทายาทาเล็บที่มีพิษเลยทำให้ปลายนิ้วบวม ดังตอนหลายเดือนก่อนที่นัฐพงษ์เตือนความผิดผกติของเธอ เธอเลยไม่ได้ใส่ใจมาก แต่ผ่านไปหลายเดือนแล้วนิ้วมือเธอไม่เพียงแต่ยังไม่หายดี แถมยังบวมอีกกว่าเดิม ทันใดนั้นเธอรู้สึกกลังทันที
copy right hot novel pub