ตอนที่392 ไม่เหลืออะไรอีก
ปาลีส่ายหัวอย่างจนใจ ความหวาดระแวงของจิรนาถยิ่งบ้าคลั่งเกินกว่าที่เธอคิด แม้ตอนนี้ยังแค้นเธอไปด้วย แต่สิ่งที่เธอไม่ควรทำก็คือแค้นดนุพลไปด้วย
“จิรนาถ เธออย่าบีบให้ฉันต้องมาเป็นศัตรูของเธอ”
มองจิรนาถที่หายอยู่ในความมืด สีหน้าของปาลียิ่งเย็นชาขึ้น ไม่ว่าใครหน้าไหนกล้ามาทำลายดนุพล เธอจะไม่ปล่อยมันแน่....
วันถัดมา
เนื่องจากจิรเมธต้องไปรักษาที่เมืองS เช้านี้คนตระกูลกันตพัฒน์เลยมาพร้อมหน้าพร้อมตาที่ห้องนั่งเล่น เตรียมจะส่งจิรเมธ
แต่ก็อย่างที่ปาลีคิดไว้ การส่งครั้งนี้ยังไม่ได้เริ่มก็เกิดเรื่องแล้ว
เมื่อจิรนาถเข็นจิรเมธออกมาจากห้อง สีหน้าของจิรเมธก็ดูโกรธแกร้วและเศร้าโศกที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาไม่ได้พูดอะไร หยีบแก้วชาบนโต๊ะแล้วก็โยนไปยังธนัท
ธนัทต้องไม่ยืนนิ่งๆแน่นอน เขาเอียงตัวแล้วหลบแก้วที่โยนมาไปง่ายๆ แต่ทำให้ทวิติยา ดนุพล ปาลี ภาสวรและอิงดาวที่นั่งอยู่ข้างๆล้วนตกใจไปหมด และล้วนหันมามองจิรเมธที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่
“พ่อ พ่อนี่ทำอะไรอะ”
ธนัทมองจิรเมธอย่างไม่กล้าเชื่อ แม้ในใจก็โกรธที่จิรเมธไม่ไว้หน้าเขาต่อหน้าเมียและลูกของเขา แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะถามเสียงดังมาก เลยมีแต่ขมวดคิ้ว
“ลูกกรรม แกคุกเข่าลงมาเดี๋ยวนี้”
ได้ยินดังนั้น ธนัทก็โกรธจนหน้าแดง เขาเอาแก้วชามาโยนตนเองแล้วยังให้ตนเองคุกเข่าต่หน้าเมียและลูกอีก แม้คนที่เขาต้องคุกเข่านั้นเป็นพ่อของเขา แต่ธนัทยังคงอดทนไม่ไหว
“พ่อ นี่พ่เป็นอะไรไป ใครหาเรื่องพ่อแล้ว ถ้ามีอะไรพ่อก็พูดให้ชัดเจน ตอนนี้เราอยู่กันทุกคน”
ที่เขาพูดแบบนี้ก็หมายความว่าเขาจะไม่คุกเข่าแน่นอน
แม้หลายปีนี้เขาไม่เคยขาดอาหารการกินและของการใช้ของจิรเมธ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อฐานะเขายิ่งสูง อำนาจขอเขายิ่งใหญ่ขึ้น ฐานะจิรเมธที่เป็รชนพ่อในใจของเขาก็ยิ่งต่ำลงเรื่อยๆ ที่เขาทำเป็นกตัญญูก็แค่อยากได้มีเชื่อเสียงที่ดีเท่านั้น และในใจเขามองจิรเมธที่วัยแก่เป็นภาระมานานแล้ว ไม่งั้นสองปีก่อนเขาก็จะไม่ทำให้จิรเมธและจิรนาถต้องจากกันไปโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของจิรเมธ สุดท้ายจนทำให้จิรเมธโกรธจนเป็นโรคหลอดเลือดสมองจนอำมพาต
มองดูใบหน้าที่ดุดันและหมดความอดทนของธนัท จิรเมธโกรธจนหายใจแรงๆ มือที่สั่นชี้ไปยังธนัทนานๆแต่พูดอะไรไม่ได้ออกมาสักคำ
เขาเองก็เคยเป็นคนที่มีเชื่อเสียงดังและอำนาจสูง และลูกใจของตนเองเป็นคนยังไงไม่มีใครรู้ชัดเจนกว่าจิรเมธอีก และเขาจะไม่เข้าใจได้ไงว่าธนัทไม่ได้เคารพนับถือเขาอีกแล้ว แต่รู้แล้วมันจะยังไง
ตอนนี้เขาไม่ใช่แม่ทัพที่แค่กระโดดเท้าก็สามารถทำให้ทุกคนหวาดกลัวอีกแล้ว เพราะบาดเจ็บที่ได้รับจากการสู้รบมามากมายจนค่อยๆสะสมเป็นป่วยหนัก ดังนั้นเขาที่ยังไม่ถึงการเกษียณอายุ ขาสองข้างของเขาก็หมดความรู้สึกไปแล้วจนต้งนั่งรถเข็น สุดท้ายเลยต้องมอบอำนาจในมือออกไป กลับมารักษาที่บ้าน ตอนนี้เขาเป็นแค่ตาแก่ที่ถูกประเทศชาติทอดทิ้ง ไม่มีเงินไม่มีอำนาจ แม้อยากให่ฐานะของผู้หญิงที่ตนเองรักก็ไม่สามารถทำได้
เรื่องเหล่านี้เขาก็ทดได้หมด เพราะคนนั้นเป็นลูกชายของเขา ลูกชายคนเดียวของเขา มองดูเขาค่อยๆได้เลื่อนไปตำแหน่งที่สูง จิรเมธรูสึกภูมิใจมาก ถึงลูกชายคนนี้จะไม่เคารพเขาอีกแล้วก็ตาม
แต่วันนี้เขาจะเงียบสงัดต่อไม่ได้อีก เพราทุกคนล้วนมีขีดจำกัด สิงโตที่นอนหลับมานาน ถึงเขาจะแก่แล้วต่ความสง่าผ่าเผยของเขาก็ไม่อาจมองข้ามได้
“ดีๆๆ ตอนนี้แกปีกแข็งแล้วสามารถบินเองได้ ก็เลยไม่เอาผมที่เป็นพ่อวางเข้าสายตาอีก แต่แกเคยคิดบ้างไหม คนเราก็มีวันแก่ วันหนึ่งแกก็แก่เหมือนผมและเสียทุกอย่างไป วันนี้แกทำแบบนี้กับพ่อตนเอง และอนาคต ลูกของแกก็อาจทำแบบนี้กับแกได้เหมือนกัน”จิรเมธส่ายหัวอย่างปวดใจ หลังโกรธถึงสุดขีด เขากลับพูดจาได้คล่องมาก ใครๆก็สามารถมองออกได้ว่าคนแก่คนนี้ผิดหวังและเจ็บใจแค่ไหนสีหน้าของธนัทยิ่งไม่น่าดูขึ้น เขาหันตัวพูดกับทวิติยา ดนุพล ปาลี ภาสวรและอิงดาวที่นั่งบนโซฟาว่า“พวกเธอกลับไปห้องตนเองก่อน ฉันมีเรื่องบางอย่างต้องคุยกับปู่ก่อน และคนรับใช้ทั้งหมดก็ออกไปก่อน....”“คนรับใช้ออกไปได้ แต่คนของตระกูลกันตพัฒน์ล้วนห้ามไป”ยังไม่ทันให้ธนัทพูดเสร็จ จิรเมธก็ออกคำสั่งทันที แล้วสุดท้ายก็พูดว่า“จิรนาถก็อยู่ที่นี่ด้วย วันนี้มีเรื่องหนึ่งฉันต้องสืบให้ละเอียดให้ได้ ใครไม่อยากร่วมมือก็ใสหัวออกจากบ้านตระกูลกันตพัฒน์”
copy right hot novel pub