ตอนที่ 414 เสียบรรยากาศ
“ บาดเจ็บมากน้อยขนาดไหนฉันก็ไม่ค่อยแน่ชัด แจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ล้มทับสองขาของเธอ กระดูกของเด็กนั้นอ่อนแอคงจะต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวันอยู่ แต่ยังไงก็มีนัฐพงษ์คุณสบายใจได้ นัฐพงษ์คนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีมาก แต่ทักษะการแพทย์ของเขานั้นไม่แย่เลย เขาจะไม่ปล่อยให้ไอริณเป็นอะไรเด็ดขาด ”
ปาลีเข้าใจความรู้สึกของดนุพล เห็นๆว่าเป็นห่วงไอริณ แต่กลับไม่ได้แสดงออกมา ความรู้สึกแบบนี้มันทรมานมาก สักพัก ปาลีจึงพูดขึ้นต่อว่า : “ หรือไม่ คราวหลังคุณก็ไปเยี่ยมไอริณที่โรงพยาบาลสักหน่อยสิ ”
ดนุพลส่ายหัวและพูดขึ้นว่า : “ ไม่ต้องหรอก ผมก็ไม่ใช่หมอไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยประโยชน์อะไร ”
สำหรับเขาแล้วนั้น ไอริณเป็นสิ่งที่วุ่นวาย เนื่องจากวันนั้นเขาได้ให้ไอริณกับนัฐพงษ์ไปแล้ว ก็ตัดสินใจแล้วว่าจากนั้นจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก ตอนนี้ เขาแค่อยากที่จะอยู่กับปาลีและนิวิฐอย่างมีความสุข
เมื่อกลับถึงบ้าน ธนัทก็ได้กลับถึงบ้านแล้วเหมือนปกติทุกวัน และนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่โซฟาตรงห้องโถง จากนั้นก็มองไปยังดนุพลที่มือหนึ่งกำลังอุ้มนิวิฐที่หลับอยู่ และอีกมือหนึ่งก็กุมมือปาลีกลับมาจากข้างนอก ฉากนั้นมันอบอุ่นและสวยงามมาก
ปาลีเงยหน้ามองไปที่ธนัท ดวงตาทั้งสองสบกัน โดยที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
ดนุพลรู้สึกได้เองถึงหลายวันมานี้ว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างปาลีกับธนัท เขาจึงอุ้มนิวิฐไปไว้ที่เตียงใหญ่ในห้องนอนชั้นสอง และก็ส่งต่อให้กับปาลี จากนั้นเขาก็ลงไปที่ห้องโถงชั้นหนึ่งและนั่งตรงข้ามกับธนัท
“ พ่อ ช่วงนี้……พ่อมีเรื่องกังวลในใจ ? ”
ดนุพลถามด้วยความอ่อนโยน
ธนัทพยายามยิ้มและพูดขึ้นว่า : “ ยังดี ที่นายรู้ ตำแหน่งที่ยิ่งสูง มันก็จะยิ่งเกิดเรื่องยุ่งยากมากขึ้นเป็นธรรมดา ”
เขาหยุดสักพัก ก็พูดขึ้นอีกว่า : “ นายกับปาลี …… ตัดสินใจจะแต่งงานกันไหม ? ”
“ แน่นอนสิ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุยกันไว้ตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ ? ”
ดนุพลมองออกไป “ ตอนนี้ผมกำลังเตรียมงานแล้ว ”
ถ้าหากว่าในตอนนี้ธนัทยังคิดที่จะห้ามอีก ถึงแม้ว่าจะเป็นพ่อของตัวเองก็ตาม เขาก็จะสู้กลับไม่ถอยอย่างไม่หยุดยั้ง
เขากับปาลี ตลอดทางมาจนถึงวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และเขาจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นอีก
ใบหน้าของธนัทนั้นแข็งทื่อ จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงและเริ่มสูบบุหรี่ในมืออีกครั้ง แต่ทว่ากลับสูบเข้าไปเฮือกใหญ่มาก และทันใดนั้นเขาก็ไออย่างรุนแรงและไม่สามารถหยุดยั้งได้
“ พ่อ สูบบุหรี่ให้น้อยๆหน่อย ”
ดนุพลยื่นแก้วน้ำอุ่นส่งให้เขา ดูแล้วตอนที่ธนัทไอนั้นร่างกายก็โค้งงอ ทันใดนั้นดนุพลจึงสังเหตุเห็นว่าพ่อของเขาแก่ลงแล้ว จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเอง ที่เมื่อกี้นั้นก้าวร้านกับเขามากเกินไป
ธนัทรับแก้วน้ำของดนุพลมาจิบ จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องและพูดว่า : “ นายลงมาคงจะมีเรื่องคุยกับพ่อใช่ไหม ? ”
ดนุพลพยักหน้ารับ และพูดขึ้นด้วยความเย็นชาว่า : “ โสรจกลับมาแล้ว ”
น้ำเสียงของธนัทเย็นชา ในแววตาส่องประกาย “ เธอยังกล้ามีหน้ากลับมาอีก ? ”
ทันทีที่คิดขึ้นว่าโสรจเอาไอริณมาปลอมเป็นหลานสาวของตระกูลกันต์พัฒน์ของเขานั้น ทำให้เขาเป็นเป็นคนโง่มาหลายปี เขาก็เกลียดจนอยากที่จะฉีกผู้หญิงเลวคนนี้ขึ้นมาทันที
เมื่อมองเห็นสีหน้าของธนัทแล้ว ดนุพลก็รู้ว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากอีก เดิมทีสำหรับโสรจนั้น ดนุพลไม่เคยคิดที่จะทำยังไงกับเธอ และก็ยิ่งไม่อยากให้ธนัททำอะไรด้วย เพราะเขารู้จักพ่อของเขาดี แต่ครั้งนี้โสรจทำเกินไปแล้วจริงๆ คงจะไม่สามารถให้เขายอมอภัยให้ได้
แต่ครั้งนี้โสรจนั้นดูเหมือนเกือบจะฉลาดขึ้นเล็กน้อย เธอไม่ได้กลับบ้านตระกูลกาฬดิษย์ไปหาวิสาข์กับจักรกฤษ และก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนทุกคนที่เคยอยู่เมือง A เลย ธนัทและดนุพลคิดที่จะพาเธอออกไปจากเมือง A มันไม่ใช่เรื่องที่จำทำได้สำเร็จภายในหนึ่งหรือสองวันเวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็ผ่านไปสิบวันแล้ว
เพื่อความปลอดภัยของปาลีและนิวิฐนั้น ดนุพลได้ส่งบอดี้การ์ดมืออาชีพสองคนให้คอยตามดูและพวกเขาสองคน
เมื่อเห็นว่าโรงเรียนอนุบาลนั้นใกล้ปิดเทอมแล้ว ปาลีก็เก็บเอกสารบนโต๊ะทำงานของเธอ แล้วออกจากบริษัทไป ด้านหลังเธอก็ตามติดไปด้วยบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำสองคน
ตอนที่ปาลีกำลังเปิดประตูและขึ้นรถไปนั้น ทันใดนั้นด้านหลังก็มีเสียงเรียกที่หยาบคายส่งมา : “ ปาลีสาวน้อย ”เมื่อปาลีได้ยินดังนั้น คิ้วเธอจึงขมวดติดกัน เสียงนี้เคยได้ยินเมื่อสิบปีก่อน ทันทีที่เธอได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร เธอค่อยๆหันกลับไป และก็เห็นจาริณีกำลังโบกมือและวิ่งมาทางเธอเพียงแต่ยังไม่ทันที่จาริณีจะได้เข้ามาใกล้เธอ ก็ถูกบอดี้การ์ดสองคนที่สีหน้าไร้อารมณ์นั้นกันเอาไว้“ ปาลีสาวน้อย ไม่คิดเลยว่าเธอจะอยู่ที่นี่จริงๆ ตอนที่น้องขวัญให้ที่อยู่กับฉันมาฉันยังไม่เชื่อ เธอกลับมีบริษัทของตัวเอง และยังมีบอดี้การ์ดอยู่ข้างๆ มันน่าทึ่งจริงๆเลย ทำไม ประสบความสำเร็จแล้วก็จำแม่คนนี้ไม่ได้เลยหรอ ? ”เป็นดังเช่นเคย ทันทีที่จาริณีเจอปาลีก็ไม่ได้มีคำพูดที่ดีสักคำ น้ำเสียงนั้นก็แย่มากด้วยวันนี้จาริณีสวมใส่เสื้อคลุมสีแดงขนาดใหญ่ หากมองดูที่เนื้อผ้าดีๆแล้วจะรู้เลยว่าราคามันนั้นอย่างน้อยก็สี่หลัก แต่ส่วนล่างของเธอนั้นกลับใส่กางเกงหัวผักกาดสีเขียวลายดอกไม้ และรองเท้าสีดำสำหรับคนสูงอายุคู่หนึ่ง ประกอบกับที่เธอเป็นคนเตี้ยและอ้วน ทำให้ดูแล้วเหมือนมันอึดอัด ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะลำบากขนาดไหน ทำให้คนที่มองมานั้นรู้สึกทรมานสายตาของตัวเองอย่างรวดเร็ว
copy right hot novel pub