ตอนที่430 ขัดแย้งกัน
น่าเสียดาย ธามพยายามหาทางออกให้พวกเธอ แต่จาริณีกลับไม่รู้ดีรู้ชั่ว ชี้ไปยังธามแล้วพูดว่า“กลับบ้านเฮี่ยอะไร บ้านเน่าๆนั้นมีแต่แกแหล่ะที่อยากอยู่ มันไม่ง่ายเลยที่ขวัญชีวีได้มีชีวิตวันนี้ แกอย่ามาก่อกวนอีก ตั้งแต่เล็กจนโตแกก็ลำเอียงปาลี ไม่ใช่คนในหมู่บ้านบอกว่าวิสาข์ไปท้องจากข้างนอกกลับมาฉันก็สงสัยว่าปาลีเป็นลูกของแกกับวิสาข์ ฉันบอกนะวันนี้ถ้าแกไม่หยุด ต่อไปแกกับปาลีก็อย่าคิดมีชีวิตที่ดี”
เพิ่งพูดจบ จาริณีถึงรู้ว่าตนเองพูดผิดแล้ว นี่เธอไม่ใช่ยอมรับว่าปาลีต่างหากที่เป็นลูกสาวของตระกูลกาฬดิษย์หรอ เธออยากตบปากตนเองจริงๆ ทันใดนั้นจาริณีหวาดกลัวทันที แล้วมองไปขอความช่วยเหลือจากขวัญชีวีอย่างไม่รู้ตัว
ขวัญชีวีก็รู้อยู่แล้วว่าจาริณีต้องช่วยอะไรเธอไม่ได้ เลยไม่ได้คาดหวังกับจาริณีมาก ตอนนี้เห็นจาริณีได้เปิดเผยความจริงออกมาแล้ว เธอก็เดินตามแผนของตนเองต่อ แสร้งทำน่าสงสารและไร้เดียงสาต่อไป
“แม่ ที่แท้ที่พ่อบอกมามันเป็นเรื่องจริง ในเมื่อหนูเป็นลูกสาวแท้ๆของแม่ ทำไมแม่ยังเอาหนูไปส่งให้คนอื่นเป็นลูกสาว แม่จะทำแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้ความจริงโดนเปิดเผยออกมาแล้ว ลูกจะเอาหน้าที่ไหนมาอยู่ต่ออีกเล่า”ขวัญชีวีมองจาริณีด้วยใบหน้าที่เศร้าโศก แต่เธอกลับแอบส่งสายตาให้จาริณี หวังอยากเธอร่วมมือกับตนเอง
แต่จาริณีกลับอึ้งไปทั้งคน มองขวัญชีวีอย่างตกตะลึงแล้วเบิกตาโตอย่างไม่กล้าเชื่อ“ขวัญ นี่แกหมายความว่าไงนะ เรื่องทั้งหมดนี้แกก็......”เพียงแต่เธอยังพูดไม่เสร็จ ก็ได้เห็นขวัญชีวีส่งสายตาให้เธอตลอด จาริณีเลยกลืนคำที่จะพูดออกมาลงในลำคอ
ถ้าจะตกใจที่ขวัญชีวีเอาความรับผิดชอบทั้งหมดโยนมาให้ตนเอง แต่จาริณีก็ยังคิดอยู่ว่าเป็นขวัญชีวีหาได้ทางออกแล้ว เลยต้องให้เธอให้ความร่วมมือ
ตอนที่จาริณีกำลังลังเลอยู่ว่าจะคว้าความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่ตนเอง ข้างหลังก็มีเสียงตบมือดังขึ้นมาดังๆ
จาริณีตกใจหันกลับไปมอง ก็เห็นจักรกฤษตบมือแล้วยิ้มแบบเยาะเย้ย
แต่เมื่อขวัญชีวีเห็นจักรกฤษ สีหน้าก็ซีดขาวเหมือนคนตาย ใช่แล้ว เธอลืมไปได้ไง แม้เธอจะหลอกจาริณีและแขกทั้งหลายได้ แต่จักรกฤษและวิสาข์ที่รู้ความจริง ยังไงเธอก็หลอกไม่ได้
จักรกฤษยิ้มมองขวัญชีวีที่ทำตัวไม่ถูกแล้วพูดว่า“ใบโลกนี้ทำไมถึงได้มีผู้หญิงจอมเสแสร้งอย่างเธอได้ ทั้งๆที่ตนเองรู้เรื่องทั้งหมด แม้เรื่องบางอย่างเธอยังเป็นคนที่ตั้งใจคิดแผนเอง ตอนนี้โดนเปิดเผยออกมาแล้วกลับลากแม่ของตนเองมาเป็นแพะรับบาป โลกนี้มีใครร้ายกาจเท่าเธออีกป๊ะ”
พลางพูด เขาก็หันไปพูดกับจาริณีว่า“มีลูกสาวที่จอมเสแสร้งก็มีแม่ที่โง่เขลา โดนลูกสาวตนเองขายไปแล้วแต่ก็ยังไม่รู้ตัวอีก เธอรู้ไหมตอนนี้การกระทำของขวัญชีวีนับเป็นอาชญากรรมการทุจริตแล้วเธอยอมรับทั้งหมดไป มีความผิดทางอาญา ถ้าเธอยอมรับเรื่องทั้งหมดไปเกรงว่าชีวิตที่เหลือของเธอต้องใช้อยู่ในคุกแน่ เธอเตรียมใจได้รึยัง”
คำพูดของจักรกฤษพูดถึงใจความพอดี มันเหมือนมีดที่แหลมคมแทงไปจาริณีและขวัญชีวี
จาริณีได้ยินดังนั้นก็เหมือนโดนระเบิด เธอชี้ไปยังขวัญชีวีอย่างตกใจ“นี่แก...แก..ที่เขาพูดมันจริงไหม แกกล้าเอาแม่มาทำเป็นแพะรับบาปหรอ แกช่างเป็นลูกสาวที่ดีจังเลย ฉันเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก พอมีของดีอะไรฉันล้วนคิดถึงเธอเป็นคนแรก แต่แกหล่ะ พอมีเรื่องอะไรก็คิดถึงแต่ตอนเอง ในเมื่อแกไร้หัวใจก็อย่าโทษฉันเลย ตอนนั้นเรื่องที่มาเป็นตำแหน่งคุณหนูรองตระกูลกาฬดิษย์แทนปาลีฉันได้ขอความคิดเห็นของเธอแล้ว เป็นเธอเองที่ตอบรับไป แถมยังวางแผนเหล่านั้นออกมา”พอได้ยินสิ่งที่จาริณีพูด แขกทั้งหลายล้วนมองขวัญชีวีด้วยความดูถูก และไม่มีใครรู้สึกสงสารเธออีก
“เหลวไหล...นี่แกหุบปากซะ”เผชิญกับการนินทาของแขกทั้งหลาย ขวัญชีวีเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา ความหวังสุดท้ายของเธอไปจบสิ้นไปแล้ว แต่จาริณียังคงด่าทอเธออยู่ ด้วยความโกรธ เธอเลยพุ่งเข้าไปตบหน้าจาริณีแรงๆ
เพี่ย เสียงตบดังๆทำให้ห้องโถงนี้เงียบสงัดลง
ลูกสาวตบหน้าแม่แรงๆคนทั้งหมดอึ้งไปกับการกระทำของขวัญชีวี หลังอึ้งไปก็เริ่มนินทาเธอต่อจาริณีรู้สึกหน้าทั้งร้อนทั้งเจ็บ ด้านหนึ่งเป็นเพราะการตบของขวัญชีวี อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะเธอไม่เคยขายหน้าแบบนี้มาก่อน มองไปยังขวัญชีวีเนิ่นนาน จาริณีถึงกรีดร้องออกมา“นี่แกยังมีความเป็นคนอยู่ไหมวะ แม่ตนเองก็ยังตบ ฉันทำเวรทำกรรมอะไรถึงได้มีลูกสาวอย่างแก ฉันไม่ควรคลอดแกออกมาจริงๆ”จาริณีพลางด่าพลางใช้มือผลักขวัญชีวีออกไป
copy right hot novel pub