โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

ตอนที่ 120 เงียบเท่ากับยอมรับ

ตอนที่ 120 เงียบเท่ากับยอมรับ

“ฉันรู้ว่าเธอกำลังจะพูดถึงเรื่องนั้น เรื่องของคุณหยางยืดเยื้อมาเป็นอาทิตย์แล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลยสักนิด แม้ฉันจะคิดว่าสามีของคุณหยางแย่มากก็ตาม แต่ในทางกฎหมายแล้วทุกคนเท่าเทียมกัน ในฐานะที่พวกเราเป็นทนาย สิ่งที่เราต้องใช้คือหลักฐานไม่ใช่ความรู้สึก”

หลินไห่ก็เห็นใจผู้หญิงคนนั้น แต่จะเอาความเห็นใจนี้มาเป็นหลักฐานไม่ได้ อีกอย่างก็อยู่ที่นี่มานาน ก็เลยเห็นเรื่องนี้จนชินแล้ว

ก็เหมือนหมอที่เห็นคนตายมาเยอะ ในฐานะที่พวกเขาเป็นหมอก็ต้องช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างสุดความสามารถ ในทางกลับกัน ทนายก็ต้องทำตามบทบาทหน้าที่ของทนาย

เป่ยฉ่ายเวยค่อยๆเอามือลงอย่างรู้สึกห่อเหี่ยว “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

แบบนี้ถ้าจะให้ฉูเจ๋อหยางเปลี่ยนคดีนี้ให้เป็นของเสี่ยวป๋ายก็คงยากสินะ?

“แน่นอนว่าถ้าฉูเจ๋อหยางยอมที่จะรับทำคดีก็อาจจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะเขาเป็นคนเดียวที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้” จริงๆแล้วหลินไห่ต้องการพูดเพื่อปลอบใจเป่ยฉ่ายเวยเท่านั้น

แต่เป่ยฉ่ายเวยได้ยินแบบนั้นก็รีบเข้าไปกระโดดโลดเต้น “ขอบคุณนะคะพี่ไห่”

“หื้ม? เดี๋ยวนะเวยเวย ฉันแค่....” หลินไห่มองเวยเวยที่กำลังดีใจอยู่ เขาพูดไม่ได้ว่าทนายฉูที่เก่งขนาดนั้น เขาไม่สนใจคดีเล็กๆแบบนี้หรอก

“พี่ไห่ไม่ต้องพูดอะไรฉันก็เข้าใจ ฉันแค่อยากลองสักครั้ง” เป่ยฉ่ายเวยก็เข้าใจสิ่งที่หลินไห่พูด แต่เธอก็ยังลืมภาพที่เขาทำงานที่ห้องอาหารวันนั้นไม่ลง

หลินไห่เห็นว่าเป่ยฉ่ายเวยมุ่งมั่นในคำพูดมากก็เยไม่ได้พูดอะไร แค่หวังว่าเจ้านายจะให้อภัยในคำพูดของเด็กที่เปรียบเสมือนดอกไม้คนนี้

ในห้องทำงาน

หนานฉิงกำลังมองร่างกายทรงพลังและโครงหน้าที่เด่นชัดของผู้ชายตรงหน้าอย่างชื่นชม ถ้าผู้ชายตรงหน้ารักเธอเหมือนที่เธอรักเขาก็คงจะดีไม่น้อย

แต่ทั้งหมดกลับถูกทำงานลงด้วยน้ำมือของเป่ยฉ่ายเวย

หนานฉิงกดสายตาลงต่ำแล้วแสดงออกอย่างน่าสงสาร “อาหยาง คุณยังโกรธฉันอยู่อีกหรอ? ทำไมถึงไม่ยอมรับสายฉัน”

ชายที่อยู่หลังโต๊ะทำงานยังคงทำงานต่อไปเหมือนไม่ได้ยิน

ท่าทีที่เย็นชาของฉูเจ๋อหยางทำให้หนานฉิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก มันยากที่จะพูดว่าพ่อของเธอยินยอมเรื่องระหว่างเรา เพราะตอนนี้ฉูเจ๋อหยางกำลังมีปัญหา

“อาหยาง คุณกำลังโทษว่าฉันเป็นคนลงมือกับเวยเวยใช่ไหม? หนานฉิงพูดด้วยความรู้สึกเสียใจ “เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันกับผู้ชายที่ฉันรักที่สุดอยู่ด้วยกัน ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะโกรธเลยใช่ไหม?”

ปลายปากกาของเขาหยุดลง ดวงตาที่เข้มของเขามองมาที่หนานฉิงด้วยความเย็นชา “อย่าลืมนะว่าตอนนั้นเราเลิกกันแล้ว ฉันจะอยู่ที่ไหนกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ”

“อาหยางฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันก็แค่ใจร้อนก็เลยทำอะไรอย่างนั้นลงไป แต่เวยเวยก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่หรอ แรงแค่นั้นจะทำให้เธอบาดเจ็บได้ยังไง?” หนานฉิงเผชิญหน้ากับชายที่กำลังจ้องมองเธอ

ฉูเจ๋อหยางควรจะไม่รู้ว่าวันนั้นเป่ยฉ่ายเวยโดนทำร้ายเพราะเธอ

ฉูเจ๋อหยางกำปากกาแน่นจนเกือบจะหักคามือเขา เขากำลังควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ได้มันระเบิดออกมา

เขาพูดออกมาด้วยเสียงเรียบๆอย่างเย็นชา “ฉันไม่อยากฟัง เธอออกไปได้แล้ว”

“อาหยาง คุณอย่าทำแบบนี้นะ ฉันเองก็รู้สึกแย่เหมือนกัน ฉันรู้ทุกอย่างแล้ว พ่อแม่ของฉันบังคับให้คุณเลิกกับฉัน แล้วฉันก็เพิ่งจะรู้ ขอโทษนะอาหยาง ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะทำแบบนี้”

หนานฉิงพูดด้วยน้ำตาที่กำลังคลอเบ้า เธอไม่อยากเสียอาหยางไป ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่อยากให้เป่ยฉ่ายเวยอยู่กับอาหยาง

อาหยางจะต้องเป็นของเธอ ของเธอคนเดียวเพียงเท่านั้น

ความเย็ยยะเยือกในตัวของฉูเจ๋อหยางเริ่มแผ่ซ่านออกมารอบๆบริเวณ ร่างสูงของเขาค่อยๆลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหาหนานฉิงอย่างช้าๆ โดยที่ดวงตาสีเข้มนั้นกำลังจับจ้องไปที่หนานฉิงด้วยความเย็นชา

สายตาที่เขามองเธอราวกับมองสิ่งของที่ไม่มีชีวิต นาทีนั้นหนานฉิงรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า

ฉูเจ๋อหยางพูดอย่างนิ่งๆ “เรื่องที่ผ่านไปแล้วไม่ต้องพูดขึ้นมาอีก ตอนแรกฉันก็จะให้โอกาสเธอ แต่ดูเหมือนว่าคงไม่จำเป็นแล้ว แล้วเธอก็ไม่ต้องมาหาฉันที่นี่อีก”

พูดจบ ฉูเจ๋อหยางก็เดินกลับไปที่โต๊ะโดยไม่หันกลับไปมองหน้าเธออีก

ณ ตอนนั้นหนานฉิงรู้สึกว่าเธอไม่เคยรู้จักกับชายตรงหน้าเธอมาก่อน ความน่ากลัวของเขายังคงอยู่ในหัวของเธอ เท้าของเธอไม่สามารถขยับได้ตามใจสั่ง แม้แต่จะขยับตัวสักนิดก็ทำไม่ได้

อารมณ์ขึ้นๆลงๆของเขาทำให้เธอรู้สึกกลัวอย่างไม่มีเหตุผล แต่เมื่อเธอมองไปที่เขา ผู้ชายที่เย็นชาคนนั้นก็ยังคงดูดีและเต็มไปด้วยเสน่ห์

แล้วเธอจะปล่อยมือได้ยังไง

“อาหยางฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ฉันเอาแต่ใจตัวเอง ฉันสัญญาว่าต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรดึงเวยเวยมาเป็นที่ระบายอารมณ์ แต่เพราะฉันหวงคุณจริงๆ อาหยางคงลืมสมัยที่เราเรียนมหาลัยแล้วใช่ไหม ว่าตอนนั้นเราเข้ากันได้ดีแค่ไหน”

หนานฉิงไม่ยอมที่จะยกโทษให้เป่ยฉ่ายเวย แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เพื่ออาหยางแล้ว เธอก็ยอมที่จะทำดีกับเป่ยฉ่ายเวย

ฉูเจ๋อหยางไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรทั้งนั้น จนได้ยินชื่อเวยเวย เขาก็ขมวดคิ้วและเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย

“อาหยาง ต้องให้ฉันทำยังไงคุณถึงจะยกโทษให้ฉัน หลังจากที่ฉันรู้ว่าคุณอยู่กับเธอ คุณไม่รู้หนอกว่าฉันเสียใจแค่ไหน ฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”

พอพูดถึงประโยคสุดท้าย หนานฉิงเริ่มใช้เสียงที่ดังขึ้นและพูดต่อว่า “หรือว่าในใจคุณยังไม่ลืมเธอจริงๆ”

นี่คือสิ่งที่เธอกลัวและยากที่จะยอมรับมากที่สุด อาหยางไม่น่าจะชอบเวยเวยได้ใช่ไหม

“นั่นมันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับเธอ” ฉูเจ๋อหยางไม่อยากได้ยินเสียงเธออีก เขาลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมแล้วเกินออกไปข้างนอกทันที

หนานฉิงเห็นฉูเจ๋อหยางเปิดประตูออกไป เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ แล้วก็รีบเดินตามเขาออกไปข้างนอก หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นการแสดงออกที่น่ารักและอ่อนโยน กำลังจะไปจับมือของฉูเจ๋อหยาง แต่เห็นสิ่งที่เขากำลังจ้องมอง

เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองตามไป

“เวยเวย ฉันมารับเธอ ส่วนดอกไม้นี่ฉันให้”

เป่ยฉ่ายเวยรับกุหลาบช่อใหญ่จากจื่อเชี่ยนด้วยท่าทีที่เขินอายเล็กน้อย “ขอบคุณนะจื่อเชียน ไม่เห็นต้องสิ้นเปลืองขนาดนี้เลย...”

หลี่จื่อเชียนขยิบตาให้เป่ยฉ่ายเวย “ชื้อให้แฟนมันไม่สิ้นเปลืองหรอก”

เป่ยฉ่ายเวยเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเธอกำลังมองเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาเหมือนจะเพิ่งรู้ว่าจริงๆเป่ยฉ่ายเวยมีแฟนอยู่แล้ว และยังเป็นผู้ชายที่หล่อและอ่อนโยนอีกด้วย เพื่อนร่วมงานบริเวณนั้นเริ่มเข้ามาแซว“เวยเวย เธอนี่ร้ายลึกจริงๆ มีแฟนที่หล่อขนาดนี้ซ่อนไว้ไม่บอกใครเลย”“จบเห่ละ ต้องมีผู้ชายหลายคนอกหักแน่ๆ”“ใช่ๆ โรแมนติกมากๆ กุหลาบช่อใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเป็นแฟนฉันซื้อให้ก็คงดี”“เธอก็ขยันทำงานสิจะได้ไม่ต้องมาอิจฉาคนอื่นอยู่แบบนี้”ตอนแรกเป่ยฉ่ายเวยก็อยากจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ แต่เมื่อมองไปอีกด้านเธอเห็นว่าฉูเจ๋อหยางกับหนานฉิงกำลังมองอยู่ เธอจึงแค่ยิ้มรับและเลือกที่จะไม่อธิบายเงียบก็เท่ากับยอมรับ...เหอะสายตาของฉูเจ๋อหยางเหมือนเก็บซ่อนบางอย่างเอาไว้หลี่ชื่อเชียนดีใจมาก อีกคนก็คือหนานฉิง เธอกอดแขนฉูเจ๋อหยางไว้แน่น และเขาก็ไม่มีท่าทีปฏิเสธ หนานฉิงแกล้งพูดกับเป่ยฉ่ายเวย “เวยเวย ไม่คิดเลยว่าจื่อเชียนจะโรแมนติกขนาดนี้ เธอรับดอกไม้มา ก็แปลว่าเธอตอบรับคำขอแต่งงานของจื่อเชี่ยนแล้วใช่ไหม”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์