โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 211 แผนการของลิ่วเอ่อร์

บทที่ 211 แผนการของลิ่วเอ่อร์

ณ ชานเมืองจิ่นอัน

ลิ่วเอ่อร์ดูดบุหรี่เข้าไปหนึ่งอึดใหญ่ จากนั้นก็โยนก้นบุหรี่ลงบนพื้น บดขยี้ตามลงไปด้วยความหยาบโลน ตั้งแต่วินาทีที่ก้าวเข้าสู่ตะราง เขาก็ปฏิญาณตนไว้ว่าจะบดฉูเจ๋อหยางให้ร่างกายแหลกละเอียด เหมือนกับที่เขาบดขยี้บุหรี่มวนนี้

แน่นอน ว่าเขาสำเหนียกได้ว่าในตอนนี้เขาไม่มีอะไรเลย เรื่องที่อยากแก้แค้นฉูเจ๋อหยางยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ใหญ่ ดังนั้นลิ่วเอ่อร์จึงรู้ดีว่าควรต้องทำอย่างไร

“เฮียครับ ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว”

ชายคนหนึ่งเดินมาหาลิ่วเอ่อร์ พูดขึ้นเสียงต่ำ

ลิ่วเอ่อร์พยักหน้าน้อยๆ สายตาไม่เคยละจากถนนที่อยู่ไม่ไกลตรงหน้า จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “แกแน่ใจนะว่าคุณหนูเสิ่นจะผ่านมาทางนี้?”

ชายคนนั้นตอบไปหัวเราะไป “เฮีย เฮียลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก่อนที่เฮียจะติดคุก ก็เป็นผมนี่แหละที่รับผิดชอบเรื่องหาข่าวสาร เพราะงั้นแหล่งที่มาเชื่อถือได้แน่ๆ เฮียสบายใจได้”

ลิ่วเอ่อร์เหลือบมองชายคนนั้น ผมยาวๆของเขาก็ไม่สามารถอำพรางรอยแผลเป็นที่ประดับอยู่บนใบหน้าทั้งซีกซ้ายของเขาได้ แผลเป็นนั้นราวกับตะขาบมีพิษ รวมถึงแววตาอึมครึมนั่น ยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูน่ากลัวจนน่าขนลุก

“ฮะ เฮีย เป็นอะไรไปครับ?”

ชายหนุ่มถามขึ้นพร้อมยิ้มแห้งๆ เขารู้สึกว่าไม่กี่ปีมานี้ที่ลิ่วเอ่อร์เข้าไปอยู่ในคุก เหมือนกัเฮียบจะเปลี่ยนไปเยอะเลย ดูเงียบขรึมมากกว่าแต่ก่อน เวลาสบตากับลิ่วเอ่อร์มักจะมีความรู้สึกราวกับมีงูพิษเลื้อยขึ้นหลังจนขนลุก

ใบหน้าของลิ่วเอ่อร์ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา “แกไม่ต้องกลัวฉันหรอก หลายปีมานี้ที่ฉันเข้าไปอยู่ในนั้น พวกแกก็ยังนับถือฉันคนนี้อยู่ เป็นฉันสิที่ติดหนี้พวกแก สักวันฉันจะคืนให้พวกแกเอง”

ชายหนุ่มรีบพูดรับประกัน “เฮีย ลูกน้องเฮียต่างจงรักภักดีเฮียนะ เฮียจะให้พวกเราบุกน้ำลุยไฟ พวกเราก็จะเต็มใจทำไม่ชักสีหน้าใส่แน่นอน”

เมื่อมุมปากของลิ่วเอ่อร์ยกขึ้น รอยแผลเป็นบนหน้าก็ย่นไปด้วยทันที รอยยิ้มจึงดูประหลาดขึ้นในพริบตา

“หลังจากจัดการเรื่องวันนี้เสร็จ ต่อจากนี้พวกแกก็ล้างมือรอได้เลย ฉันจะให้เงินพวกแก ให้พวกแกได้มีชีวิตที่สุขสบาย ไม่ต้องมาคอยระวังเรื่องฆ่าๆแกงๆของวงการนักเลงอะไรอีกแล้ว”

เมื่อได้รับคำยืนยันจากลิ่วเอ่อร์ แววตาของชายหนุ่มก็ฉายแววยินดี จริงๆแล้วเขาก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับลิ่วเอ่อร์อีกแล้ว ตอนที่ลิ่วเอ่อร์เข้าคุกปีแรกๆ เหล่าลูกน้องต่างมีความคิดที่อยากจะถอนตัว แต่ตามคำกล่าวที่ว่าในวงการนักเลง เข้ามาแล้วก็ ไม่สามารถมีอิสระเป็นตัวของตัวเองได้ อีกอย่างวิธีการลงโทษของลิ่วเอ่อร์ก็โหดร้ายเกินไป และไม่ใช่ว่าพวกเขาจะฝ่าฝืนได้

ถือซะว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ช่วยอดีตลูกพี่ก็แล้วกัน เมื่อชายหนุ่มคิดได้อย่างนี้ ก็หันหลังเดินจากไป

สายตาของลิ่วเอ่อร์จดจ้องอยู่ที่ถนน จากนั้นแผ่นหลังก็ค่อยๆย่อตัวหายไปในต้นไม้เตี้ยๆข้างถนน

ราวๆครึ่งชั่วโมง รถยี่ห้อเฟอรารี่รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นก็ปรากฏอยู่บนถนน กำลังขับมุ่งมาทางนี้ด้วยความเร็ว

ในเมืองจิ่นอัน คนที่จะมีรถหรูหราขนาดนี้ได้ไม่ได้มีเยอะ ต้องทั้งรวยทั้งมีตระกูลถึงจะมีครอบครอง

ลิ่วเอ่อร์ที่แอบอยู่หลังต้นไม้ก็ตาวาววาบขึ้นมา คุณหนูรองตระกูลเสิ่นที่เขารอมาเนิ่นนาน

เขาอาจจะไม่มีความสามารถจัดการกับฉูเจ๋อหยางได้ แต่ตระกูลเสิ่นแห่งเมืองจิ่นอันทำได้ง่ายสบายๆแน่ ดังนั้นลิ่วเอ่อร์ต้องหาวิธีสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลเสิ่นให้ได้

จากความฉลาดปราดเปรื่องของคุณเสิ่น ลิ่วเอ่อร์ไม่คิดว่าจะได้อะไรจากเขาแน่ ดังนั้นเขาเลยเบนเป้าหมายมาที่น้องสาวคนเดียวของคุณเสิ่นแทน

เรื่องทุกอย่างในวันนี้จะกลายเป็นผลงานที่ลิ่วเอ่อร์ภูมิใจที่สุด เขาที่เป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำ อีกไม่นานก็คงได้เวลาแต่งตัวเข้าฉากแล้ว

ภายในรถเฟอเรอรี่ เสิ่นชีชีฮึมฮัมตามเสียงดนตรีเพลงร็อคที่ดังสนั่น ท่าทางดูอารมณ์ดี

ปกติพี่เสิ่นลั่งไม่อนุญาตให้เธอขับรถ เพราะเธอยังไม่มีใบขับขี่ แต่เธอก็แอบเอารถของพี่ชายออกมาขับรับลมเล่นบ่อยๆอยู่ดี

แม้จะถูกเสิ่นลั่งจับได้ เสิ่นชีชีก็ไม่กลัวว่าพี่ชายจะตะคอกเสียงดังใส่ตน เพราะว่าตั้งแต่เด็กจนโต พี่ชายตามใจเธอที่สุดแล้ว เลยสรุปได้ว่าเพราะมีคนให้ท้าย เสิ่นชีชีเลยมีนิสัยแบบนี้

ทันใดนั้นเอง ก็มีรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งมาจากข้างทางจอดขวางถนนไว้ ถนนแถบชานเมืองไม่ใช่จะกว้าง รถบรรทุกคันนั้น จึงขวางถนนไว้ได้มิด

ยังดีที่สกิลการขับของเสิ่นชีชีไม่ค่อยแข็ง ดังนั้นจึงไม่ได้ขับเร็วอะไรไปมากเท่าไหร่นัก ในตอนที่มองเห็นรถบรรทุกมาจอดขวางทางไว้ เธอก็เหยียบเบรกได้ทัน

เสียงเบรกดังเอี๊ยดดังขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยฟังค์ชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนใครของรถเฟอรารี่ไม่นานรถก็หยุดลง

เสิ่นชีชีบุ้ยปากด้วยความโมโห เปิดประตูเดินลงจากรถมายืนอยู่หน้ารถใช้มือทั้งสองมือเท้าสะเอา ถามขึ้นด้วยเสียงแง้วๆว่า “ไม่มีตาหรือไง บังอาจมาขวางทางคุณหนูอย่างฉัน รีบไสหัวลงจากรถเดี๋ยวนี้เลยนะ มาขอโทษฉันด้วย ไม่แน่ถ้าฉันอารมณ์ดี อาจจะปล่อยแกไปก็ได้!”

บางทีอาจจะด้วยพื้นหลังครอบครัวที่มีชื่อเสียงของตระกูลเสิ่น หรืออาจจะเป็นเสิ่นลั่งตามใจน้องสาวเกินไป ดังนั้นนิสัยเสิ่นชีชีถึงได้ทั้งดื้อรั้นทั้งปากดี

ประตูรถบรรทุกเปิดออก ผู้ชายที่ลงมาจากรถ มองสำรวจเสิ่นชีชีอย่างหยาบโลนอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ถามขึ้นว่า”คุณคือคุณหนูรองตระกูลเสิ่น?”

เสิ่นชีชีส่งเสียงหึออกมา “ในจิ่นอันใครบ้างที่ไม่รู้จักฉัน ในเมื่อแกก็รู้จักฉันอยู่แล้ว ยังไม่คิดจะขอโทษฉันอีก แกรู้ไหมพี่ชายฉันเป็นใคร?”

ชายหนุ่มหัวเราะขึ้นมา “ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่ชายคุณเป็นคนใหญ่คนโตอันดับต้นๆแห่งเมืองจิ่นอัน คนที่ไม่รู้จักเขามีน้อยมาก”

ใจของเสิ่นชีชีกระตุกขึ้นมา ถึงเธอจะดื้อและเกเรไปบ้าง แต่สติปัญญายังมีอยู่ ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าตัวเธอเป็นใคร ยังกล้าที่จะทำเรื่องแบบนี้ แสดงว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญธรรมดาทั่วไปแน่ๆ เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นชีชีก็ถอยหลังอย่างอัตโนมัติ รักษาระยะห่างจากผู้ชายคนนั้น ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น “แกเป็นใครกันแน่?” ชายหนุ่มแสยะยิ้ม พูดว่า “ดูเหมือนคุณหนูรองเสิ่นของเรายังพอฉลาดอยู่บ้าง งั้นพูดแบบไม่ปิดบังเลยนะ ผมมาลักพาตัวคุณ ได้ยินมาว่าคุณทะนุถนอมคุณมากๆ หลังจากที่ได้ยินว่าคุณโดนลักพาตัว ค่าไถ่หนึ่งร้อยล้านคิดว่าเขาจะยอมจ่ายไหมนะ?” ปฏิกิริยาของเสิ่นชีชีเร็วมาก ทันทีที่ได้ยินคำพูดของผู้ชายคนนั้น สิ่งแรกที่เธอทำคือขึ้นรถ แค่ขึ้นไปบนรถ เธอก็มีโอกาสหนีแล้ว เรื่องน่าเสียดายก็คือตอนที่เธอเพิ่งคิดได้ ประตูรถก็ถูกปิดไว้อย่างหนาแน่นแล้ว ชายร่างใหญ่สองคนที่ไม่รู้ว่ามีอยู่ข้างหลังเธอตอนไหน จับกำลังจ้องเธอราวกับเสืออยู่ เสิ่นชีชีเคยพบเห็นสถานการณ์ใหญ่ๆจนชิน แต่สถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอ ในตอนที่ชายหนุ่มทั้งสองคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ตัวเองเรื่อยๆ เสิ่นชีชีจึงร้องไห้ออกมา ร่างกายสะโอดสะองนั้นก็สั่นเทิ้มเพราะหวาดกลัว เธอทั้งถอยหลังทั้งร้องไห้ตะโกนไป “พวกแกอย่าเข้ามานะ พี่ชายฉันไม่เอาพวกแกไว้แค่” ปกติคำพูดของเธอเวลาอยู่บ้านจะถือเป็นคำสั่งทั้งหมด แต่โจรพวกนี้ไม่ฟังที่เธอพูดเลย โจรทั้งสองก้าวเดินเข้าไปใกล้เธอไม่หยุด ในตอนที่เสิ่นชีชีเดินถอยหลัง ในตอนนั้นเองที่ด้านหลังของเธอก็มีเสียงจากชายน่ากลัวคนนั้นดังขึ้น “คุณเสิ่น เลิกหนีจะดีกว่านะ”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์