โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่228 พบคนคุ้นเคยในตอนกลางดึก

บทที่228 พบคนคุ้นเคยในตอนกลางดึก

เป้ยฉ่ายเวยเอนกายอยู่บนเตียงก็รู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักทับอยู่ที่หน้าอกไม่สามารถข่มตาหลับได้ เธอได้แต่เข้าใกล้พ่อหนุ่มตัวน้อย สูดดมกลิ่นหอมบริสุทธิ์จากกายเขา เพื่อขจัดความหดหู่ภายในใจ

วันนี้ช่างน่าใจหายใจคว่ำ หลังจากทุกอย่างสงบลง เธอได้แต่ครุ่นคิดถึงมัน ท่าทางของฉูเจ๋อหยางนั้นแปลกประหลาด ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน กลายเป็นไม่ได้สงบนิ่งเยือกเย็นอีกแล้ว แต่จะให้บอกว่าไม่เหมือนเดิมตรงไหนเธอกลับบอกไม่ถูก

แต่ที่แน่ชัดก็คือความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ มันจบลงแล้ว

อย่างนี้ก็ดี เธอก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการเลี้ยงดูรุ่ยรุ่ยในอนาคต และไม่ต้องแบบรับความรู้สึกผิดในใจเอาไว้

แสงจันทร์สีนวลสาดส่องมาจากนอกหน้าต่าง ตกกระทบลงสู่ห้องผู้ป่วยอันมืดมิด ทำให้มีแต่ส่วนหัวเตียงเท่านั้นที่ส่องสว่าง นั่นยิ่งทำให้เห็นภาพร่างของอของเธอซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยวเหงาและเศร้าใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

คืนนั้น มีหลายคนที่นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะฉูเจ๋อหยางก็ดี เป้ยฉ่ายเวยก็ด้วย น่ากลัวว่าคนที่โกรธแค้นมากที่สุดเห็นจะเป็นหนานฉิง

เพื่อที่ค่ำคืนนี้จะได้เป็นค่ำคืนอันสุดแสนโรแมนติก เธอทั้งแต่หน้าและสวมใส่เสื้อผ้าอันมีเสน่ห์ แต่มันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อันใด หนำซ้ำยังโดนเขาไล่กลับออกมาอีก

นั่นเป็นความอัปยศและความโกรธครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเธอ แน่นอนว่าหนานฉิงยังเกลียดฉูเจ๋อหยางไม่ลง เธอโยนความผิดของเรื่องทั้งหมดไปให้กับเป้ยฉ่ายเวย ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเป้ยฉ่ายเวยให้ท่าอาเจ๋อมาโดยตลอด เขาจะขับไล่เธอกลับมาอย่างไร้ความเมตตาได้อย่างไร

--กระทืบเท้า

ทันใดนั้นรถสปอร์ตคันหรูก็หยุดอยู่กลางท้องถนน หนานฉิงปะทะเข้ากับพวงมาลัยอย่างจัง อีกนิดเดียวความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ก็จะก้าวไปอีกขั้น เธอมั่นใจว่าตอนนั้นอาเจ๋อมีอารมณ์แล้ว

เพราะว่าตอนนั้นจงใจมองไปยังร่างกายส่วนล่างของเขา บางอย่างพุ่งขึ้นมาภายใต้กางเกงแสล็คนั้น นั่นทำให้คนรู้สึกคอแห้งลิ้นชา ทั้งร่างอ่อนระทวย เมื่อหวนกลับไปคิด หว่างขาเธอก็เร่าร้อนขึ้นมา

ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น รูปร่างของอาเจ๋อน่าพิสมัยกว่าสามีคนอ่อนของเธอมากนัก ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจความสุขของการเกิดเป็นหญิง

เธอไม่ได้รู้สึกวูบวาบเช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เมื่ออยาก ก็ไม่กล้าที่จะทำลวกๆ คนที่เธอรักก็คือฉูเจ๋อหยาง

ตอนนี้ความปรารถนาในร่างกายพุ่งขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถได้รับการตอบสนอง เธอรู้สึกล้มเหลวเหมือนมีมดนับไม่ถ้วนกำลังปีนป่ายเข้าไปในใจ

แววตาเจ้าเล่ห์และเป็นภัยของหนานฉิงปรากฏขึ้น ราวกับว่าจะพ่นพิษออกมาในวินาทีถัดไป เธอกัดฟันและกร่นด่าเบาๆ “ไม่ได้ จะปล่อยนังสารเลวเป้ยฉ่ายเวยไปง่ายๆอย่างนี้ไม่ได้”

เมื่อเธอคิดว่านังสารเลวเป้ยฉ่ายเวยอยู่กับอาเจ๋อมาสี่ปี ไม่รู้ว่าหล่อนจะได้เสพสุขที่ควรจะเป็นของเธอไปแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ใจเธอก็เหมือนถูกแมวตะครุบไว้ ทั้งแสบทั้งคัน

ทันใดนั้น เสียงผิวปากอันน่ารำคาญก็ดังมาจากทางด้านข้าง

ดึกป่านนี้เธออยู่ลำพังบนถนน หนานฉิงรู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ เธอต้องการที่จะสตาร์ทรถ แต่ด้านหน้าจู่ๆก็มีรถมาจอดขวาง กระจกข้างคนขับถูกคนเคาะดัง

“ก๊อก ก๊อก”

“น้องสาว มาทำอะไรอยู่คนเดียวตรงนี้”

เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นหูและไม่เป็นที่ปรารถนา หนานฉิงหงุดหงิดแต่ก็วางใจลงบ้าง เธอกดเปิดหน้าต่างลง และมองไปที่จางเจิ้งกวางพร้อมรอยยิ้มแห่งความรังเกียจ “พี่ชาย พี่โดนกักบริเวณอยู่ไม่ใช่หรอ ดึกดื่นป่านนี้ทำไมถึงได้เที่ยวออกมา ไม่กลัวคุณตารู้หรือไง”

จางเจิ้งกวางท้าวมือหนึ่งบนหลังคาและโน้มตัวลงมาหาหนานฉิง เมื่อเห็นชุดที่หนานฉิงใส่ในวันนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะผิวปากและกล่าวอย่างชั่วร้าย “ถ้าอย่างนั้นน้องสาวคนดีของพี่ แต่ตัวยั่วยวนขนาดนี้ ดึกดื่นป่านนี้ยังอยู่บนท้องถนนไม่กลัวคุณลุงคุณป้าจะรู้หรือยังไง”

หนานฉิงนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองใส่ชุดกระโปรงที่โชว์เนื้อหนังอยู่ เธอรีบดึงชุดขึ้นมาปิดหน้าอกและพูดอย่างไม่ประสงค์ดี “ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ ตอนนี้ฉันจะกลับแล้ว รบกวนพี่ช่วยเอารถออกด้วย”

“น้องสาวอย่าใจร้ายนักเลย เพื่อความสุขของน้องสาว ตอนนี้พี่ยังไหว ให้พี่ชายพาไปเที่ยวสักหน่อยดีไหม เพื่อนๆพี่ทุกคนอยากจะรู้จักน้องกันทั้งนั้น”

จางเจิ้งกวางหันไปพูกันเหล่าบรรดาเพื่อนสุนัขจิ้งจอกหมาป่าของเขาทางด้านหลัง “ใช่ไหมพรรคพวก”

แน่นอนว่าเขายังถูกกักบริเวณ ใครใช้ให้คนที่บ้านสปอยเขาล่ะ ทนใจแข็งกับเขาไม่ได้ ไม่ถึงสองวันก็ปล่อยเขาออกไปแล้ว นี่ไม่ใช่ เขาแทบทนไม่ไหวที่จะติดต่อบรรดาเหล่าเพื่อนเที่ยวเพื่อเสพสุขกับสาวๆสักสองสามคน

ด้านหลังมีเสียงเป่าปากและคำรามเหมือนหมาป่าดังมา

“ใช่แล้ว ได้ยินมาว่าคุณหนูฉิงเป็นสาวงาม ไม่ลงจากรถมาคุยปัญหาชีวิตกับพวกเราหน่อยหรอ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ชีวงชีวิตอะไร มาคุยเรื่องอย่างว่าดีกว่า”

เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา ชายคนอื่นๆก็พากันหัวเราะ

หนานฉิงตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอจ้องเขาด้วยสีหน้าเกลียดชังและลดเสียงลงพูด “พี่ชายฉันขอล่ะ ให้ฉันกลับเถอะ หรือว่าพี่จะให้ฉันคุยกับพ่อ พี่ถึงจะปล่อยฉัน”

เมื่อเอ่ยถึงหนานเทียนหยาง จางเจิ้งกวางก็ไม่กล้าทำตามอำเภอใจอีก เอาตบหลังคารถและพูดอย่างเบื่อหน่าย “ได้ได้ เคารพบรรพบุรุษ ให้คนขับรถเปิดทางให้น้องกลับบ้าน ให้พวกพี่ไปส่งน้องไหม”

หนานฉิงเห็นจางเจิ้งกวางยังกริ่งเกรงพ่อ ใบหน้าที่เคร่งเครียดก็ผ่อนคลายลงบ้าง เธอส่งเสียงคำราม “ไม่ต้อง”

จางเจิ้งกวางยักไหล่อย่างไม่แคร์ เขารู้ตัวแต่เด็กแล้วว่าน้องสาวเขาคนนี้ชอบแสดงสีหน้าท่าทาง ชอบมองเหยียดคนอื่น แน่นอนว่าเขาถูกดุไปไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ว่ายังไงก็ยังเป็นลูกพี่ลูกน้อง เขาทำอะไรมากไม่ได้

เขาส่งสายตาให้กับเพื่อนให้ขับรถเปิดทางให้ ชายห่ามๆสองสามคนก้าวออกมา ตรงไปที่รถหนานฉิงจ้องด้านหลังของจางเจิ้งกวางทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ เธออยากให้เป้ยฉ่ายเวยตายทั้งเป็น จางเจิ้งกวางและบรรดาเพื่อนงูพิษของเขาตรงหน้า ไม่ใช่ตัวเลือกที่ช่างเหมาะเจาะอย่างนั้นหรือ“ก๊อกก๊อกก๊อก” หนานฉิงเคาะกระจกรถ เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “พี่ชาย มานี่หน่อย ฉันมีเรื่องคุยกับพี่”เมื่อได้ยินหนานฉิงเรียกไม่เพียงแต่ไม่เดินไป เขายังสุขใจอีกต่างหากจนรีบหันหลังกลับ เขาโน้มร่างลงครึ่งหนึ่งถามที่หน้าต่าง “ว่าไงน้องสาว เสียดายหรอ อยากไปเล่นกับพี่แล้วรึ”มีร่องรอยความขยะแขยงในสายตาหนานฉิง แต่เธอก็ซ่อนมันไว้เป็นอย่างดีไม่ให้จางเจิ้งกวางเห็น “พี่ชายพี่พูดบ้าอะไร ถ้าฉันไม่กลับบ้านวันไหนล่ะก็ พ่อคงจะไม่ได้แค่โกรธแน่”จางเจิ้งกวางจ้องไปที่ใบหน้าจริงจังจนน่ากลัวของหนานฉิงและรู้สึกว่าเธอพูดมีเหตุผล “นั่นก็จริง ถ้าอย่างนั้นน้องเรียกพี่มีเรื่องอะไรรึ”“เรื่องครั้งก่อนที่พี่ทำพัง ใจฉันเองก็รู้สึกผิด ไม่รู้ว่าพี่ยังโกรธเวยเวยเพื่อนฉันอยู่รึเปล่า หล่อนคงจะไม่ได้ตั้งใจหรอก”หนานฉิงพูดจาคลุมเครือ เหมือนกำลังจะขอโทษ แต่ก็เหมือนกับจะเป็นการเตือนสติให้จางเจิ้งกวางระลึกถึงเรื่องอัปยศทั้งหมด

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์