โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่229 หัวใจขโมยไม่ตาย

บทที่229 หัวใจขโมยไม่ตาย

จางเจิ้งกวางอึ้งไป ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงหญิงสาวที่หนานฉิงพูดถึง ใบหน้าเขาดูน่าเกลียดขึ้นในทันที เขากัดฟันพร้อมพูดออกมา “น้องสาว พี่ขอแนะนำว่าน้องอย่าได้พูดถึงผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าพี่อีก”

ตอนนี้เขาแทบรอไม่ไหวที่จะฆ่าผู้หญิงคนนั้น แค่คิดว่าเขาต้องถูกคุมประพฤติก็โดนเพื่อนหัวเราะเยาะตั้งเท่าไหร่แล้ว ไฟโกรธในใจเขาได้จุดติดขึ้นมาแล้ว

ถ้าหากว่าตอนนี้เป้ยฉ่ายเวยอยู่ตรงหน้าเขา เขาจะต้องทำให้ผู้หญิงสารเลวคนนั้นได้รู้จักว่านรกเป็นยังไง

หนานฉิงพอใจกับปฏิกิริยาของจางเจิ้งกวางเป็นอย่างมาก เธอหยุดพูดและแสดงท่าทีกระสับกระส่ายเพื่อดึงดูดความสนใจของจางเจิ้งกวาง

“น้องสาว พี่รู้ว่าเรื่องนี้โทษน้องไม่ได้ ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก มีเรื่องอะไรก็พูดออกมาตรงๆเถอะ”

ในใจจางเจิ้งกวาง ถึงหนานฉิงจะเหมือนหงส์ที่หยิ่งผยอง แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็สนิทกันมาก กระบอกปืนต้องหันไปทางคนอื่นอย่างแน่นอน อีกอย่างเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ ยังไงเสียเธอก็ไม่กล้าทำอะไรเขาหรอก

หนานฉิงรอคำนี้ของจากเจิ้งกวาง เธอถอนหายใจยาวและพูดเศร้าๆ “คุณรู้ไหมว่าฉันคบกับอาเจ๋อ แต่เขากลับพร้อมที่จะช่วยเหลือเวยเวยทุกเมื่อ นั่นเป็นเพราะว่าเวยเวยแอบเป็นชู้กับอาเจ๋อ พี่ชาย ฉันเจ็บแทบตาย”

“ว่าไงนะ นังสารเลวนั่นกล้าแย่งแฟนของน้องหรอ” ความจริงจางเจิ้งกวางก็ยังสงสัยอยู่ ฉูเจ๋อหยางเป็นแฟนของน้องสาว ทำไมถึงไปช่วยนังแพศยานั่น ที่แท้เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ดี นังสารเลวนั่นต่อหน้าเขาทำเป็นบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่แท้ก็เป็นหญิงมักง่ายสำส่อน หล่อนคงคิดว่าเขาไม่ได้หล่อเหลา มีร่ำรวย เหมือนฉูเจ๋อหยาง เลยมาดูถูกเขาฉูเจ๋อหยาง

นั่นมันทำให้เขาแค้นใจยิ่งกว่าเดิม จางเจิ้งกวางโมโหจนเตะประตูรถ

รถสปอร์ตของหนานฉิงส่งเสียงร้องดังขึ้นมา เธอรีบปิดเสียงนั้นและแกล้งทำเป็นเกลี้ยกล่อมให้เขาสงบใจ “พี่ชายพี่ไม่ต้องโมโหไป ฉันก็ไม่คาดคิดว่าหล่อนจะเป็นอย่างนั้น ความจริงแล้วอาเจ๋อก็ไม่ได้เต็มใจ แต่ผู้หญิงไปเสนอตัวให้อย่างนั้น ผู้ชายหน้าไหนก็เอาทั้งนั้นไม่ใช่หรอ”

หนานฉิงยังทำเป็นมีคุณธรรม เธอแค่ต้องการทำให้จางเจิ้งกวางเข้าใจว่าที่จริงแล้วเป้ยฉ่ายเวยก็เป็นผู้หญิงสำส่อนที่อ้าขาเปิดรับสามารถเข้าถึงได้

“น้องสาว น้องไม่ต้องพูดแล้ว พี่จะจัดการให้น้องเอง บ้านของนังแพศยานั่นอยู่ที่ไหน น้องรู้ไหม พี่จะทำให้หล่อนสำนึกเสียใจเอง”

จางเจิ้งกวางไม่เคยต้องเสียหน้าขนาดนั้น บวกกับที่เป้ยฉ่ายเวยก็เป็นผู้หญิงคางโลกีย์ ไฟราคะในใจแผดเผาลุกโชนขึ้นมา

เมื่อจินตนาการว่าเธอกำลังดิ้นรนอยู่ภายใต้ร่างของเขาทั้งน้ำตา น้องชายของเขาก็เริ่มจะทำงาน ถ้าหากว่าจับตัวผู้หญิงคนนั้นได้ต้องเอาให้ถึงตาย

“พี่ชาย อย่าดีกว่า พี่เพิ่งจะออกมาได้ ถ้าหากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก คุณป้าจะเป็นห่วง” หนานฉิงเข้าใจพูด ทุกคำล้วนตัดตัวเองออกจากบ่วง

“วางใจ พี่รู้ว่าต้องทำยังไง น้องแค่บอกพี่มาว่าหล่อนอยู่ที่ไหนก็พอแล้ว” พอดีตอนนี้เขาไม่สามารถออกไปข้างนอกเที่ยวเล่นได้ตามใจ ไม่มีอะไรทำ จะได้ฆ่าเวลา

คราวนี้จะไม่ปล่อยให้นังสารเลวนั่นหนีหลุดไปได้อีก อีกอย่างจะได้พาพรรคพวกพี่น้องไปหาความบันเทิงด้วยกัน ให้เธอได้สำนึกเสียใจ

“ไม่ดีมั๊งคะ” หนานฉิงแสร้งทำเป็นลังเล

“ไมเป็นไรน่า น้องพูดมาเถอะ พี่จะไม่บอกใครหรอกว่าน้องเป็นคนบอก อีกอย่างเรื่องคราวก่อนพี่ก็ยังไม่ได้พูดเคลียร์กับหล่อนให้ชัดเจน น้องวางใจเถอะพี่จะไม่ทำอะไรเกินกว่าเหตุ”

จางเจิ้งกวางตบหน้าอกตัวเองและให้สัญญา ว่าเขาจะไม่ทำเกินกว่าเหตุ เขาแค่อยากให้หล่อนคุกเข่ากับพื้นและเลียร้องเท้าของเขา และทรมานหล่อนให้เหมือนตายทั้งเป็นเพื่อให้สาแก่ความโกรธของเขา

หนานฉิงมองจางเจิ้งกวางสายตาเปี่ยมไปด้วยอันตราย เธอก็รู้แล้วว่าเป้ยฉ่ายเวยเสร็จเขาแน่ ไม่รอดแน่ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เป้ยฉ่ายเวยอยู่เหมือนตายไปแล้ว

เมื่อคิดถึงฉากนั้น ใจเธอก็สุขอย่างบอกไม่ถูก ทำเป็นหลุดปากพูดที่อยู่ออกไป ที่อยู่นั้นก็คือบ้านเลขที่ของอพาร์ทเม้นต์เป้ยฉ่ายเวยนั่นเอง

หนานฉิงยังแสร้งทำเป็นว่าตัวเองได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป “พี่ชาย พี่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินได้ไหม”

“น้องจิตใจดีเกินไปแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกพี่จะระมัดระวัง ดึกแล้วน้องรีบกลับไปพักเถอะ”

จางเจิ้งกวางอดใจรอไม่ไหวที่จะคิดบัญชีกับผู้หญิงแพศยาคนนั้น เขาไม่ได้สัมผัสเรือนร่างของหญิงสาวหลายวัน น้องชายเขากำลังตื่นตัว ร่ำร้องที่จะออกมาแสดงตัว

“อื้อ ฉันรู้แล้ว” หนานฉิงเปลี่ยนเป็นว่าง่ายอีกครั้ง รถที่ขวางหน้าก็เปิดทางออกแล้ว จางเจิ้งกวางขยับตัวออกจากรถ เขามองไม่เห็นรอยยิ้มสะใจที่มุมปากของเธอ

เป้ยฉ่ายเวย ฉันจะคอยดูว่าคราวนี้ใครจะมาช่วยเธอ

พอหนานฉิงไป บรรดาผองเพื่อนจางเจิ้งกวางก็ผิดหวังอยู่บ้าง มองจากนอกหน้าต่างรถ พวกเขาก็ล้วนเห็นว่าหนานฉิงนั้นเป็นสาวงามคนหนึ่ง รูปร่างและแววตานั้น ทำให้พวกเขาน้ำลายสอ

ยังไม่ทันได้สัมผัสคนก็จากไปแล้ว ช่างไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา

“เฮียเจิ้ง น้องเฮียแซ่บขนาดนี้ ปล่อยไปเฉยๆ ไม่ง่ายไปหน่อยหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ ข้างนอกนี้ยังไม่ได้เชยชมเลยสักนิด ก็ปล่อยให้ไปแล้วหรอ”

“เฮียเจิ้งเฮียนี่ไม่ไหวเลยนะ น่าจะแนะนำน้องสาวให้พวกเรารู้จักสักหน่อย”

จางเจิ้งกวางมองอย่างไม่แคร์พวกเขา พลางคำรามอย่างหยิ่งผยอง “พวกมึงหุบปากซะ พวกมึงรู้รึเปล่าว่าน้องสาวกูคนนี้เป็นใคร”

“น้องสาวเฮีย ก็คือกับน้องสาวเฮีย อย่าบอกว่าเป็นผู้หญิงของผมไม่ได้”ทันใดนั้นก็ถูกโห่ร้อง พวกเขารู้สึกไม่ชอบใจจางเจิ้งกวางไม่สนใจพวกเขา ก็แค่ลูกกระจ๊อก เขาต่างหากที่เป็นหัวโจก ยังไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหนานอีก เรื่องแรกคือนึกถึงคำเตือนของครอบครัว สองคือกริ่นเกรงอิทธิพลของหนานเทียนหยาง คุณตาก็ไม่อาจจะปกป้องเขาได้แต่ว่าตอนนี้ไม่จำเป็น ไม่ต้องพูดถึงตระกูลหนาน ก็สามารถทำให้คนพวกนี้ตกใจกลัวได้ เขากระแอมก่อนที่จะอธิบายอย่างหวังดี “เฮียจะบอกพวกมึงให้ แฟนของน้องสาวกูคนนี้คือผู้อำนวยการของบริษัทกฎหมายติ่งเซิ่ง ฉูเจ๋อหยาง ทางที่ดีพวกมึงหัดเจียมเนื้อเจียมตัว อย่าหาเรื่องตาย ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าเฮียไม่เตือน”เมื่อพูดถึงฉูเจ๋อหยาง คนอื่นๆก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ตอนนี้ในเมืองจิ่นอันมีใครบ้างไม่รู้ความร้ายกาจของฉูเจ๋อหยาง ไม่เพียงแต่สถานะที่ทำให้คนกริ่งเกรงเท่านั้น แต่ว่าเส้นสายของเขามีอยู่ทั่วไปหมด เป็นพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์รายใหญ่อยู่เสมอ ในรายการโทรทัศน์ก็ปรากฏแต่ภาพของฉูเจ๋อหยางบ้านพวกเขามีเงินแค่เพียงน้อยนิด แม้แต่จางเจิ้งกวางเองก็ยังสู้เขาไม่ได้ จะไปเปรียบเทียบอะไรกับฉูเจ๋อหยางถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังไม่ชอบใจ พวกเขาล้วนแต่เป็นชนชั้นกลาง ยังต้องการรักษาหน้า จึงพูดอย่างเหยียดหยาม “เฮียเจิ้ง ดึกขนาดนี้แล้วพวกเราก็ยังเสี่ยงตายออกมาเที่ยวเป็นเพื่อนเฮีย ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาผู้หญิงคนไหน เฮียว่ามันเกินไปหน่อยมั๊ย”“เฮียเจิ้ง เฮียไม่ใช่ไม่รู้ว่าสถานะตอนนี้ของเฮียน่าเป็นห่วงแค่ไหน พวกเราขัดคำสั่งของทางบ้าน เพื่อที่จะออกมาคอยติดตามเฮียเนี่ย”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์