โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่233 ขอบคุณสิ่งที่เธอพูด

บทที่233 ขอบคุณสิ่งที่เธอพูด

ในห้องสำนักงานอันโอ่โถง มีคนวางแท๊บเล็ตลงบนโต๊ะพร้อมชี้ไปที่ภาพหน้าจอพลางกระดกลิ้น “เป็นไงบ้าง แบบนี้ชอบไหม ปฏิบัติการของเราดูเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆนะ”

เรื่องของจางเจิ้งกวางถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็ว มันถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วจนทุกคนที่ดูทีวีต่างทราบเรื่องกันหมด เรื่องนี้ถังฉีตงได้ดำเนินการตามที่ฉูเจ๋อหยางวางแผนเอาไว้ให้กระจายข่าวให้กับทางสำนักหนังสือพิมพ์

เมื่อวานที่จางเจิ้งกวางพาคนไปก่อกวนที่อพาร์ทเม้นต์เป้ยฉ่ายเวย เรื่องนี้ฉูเจ๋อหยางก็ทราบจากสายที่คอยให้สอดส่องอยู่แถวนั้น ฉูเจ๋อหยางไม่ต้องการแหวกหญ้าให้งูตื่น เพียงแต่ให้คนคอยสืบว่าหลังจากนั้นจางเจิ้งกวางไปที่ไหนต่อ

รอโอกาสที่จะลงมือ ประจวบเหมาะได้เห็นคนของจางเจิ้งกวางล่อลวงผู้เยาว์เข้า ฉูเจ๋อหยางใช้ไหวพริบ ให้คนรีบตรวจสอบตัวตนของเด็กสาวคนนั้น เขาไม่ต้องยื่นมือเข้าไปยุ่ง แค่นั่งรอผลตอนจบ เขาให้คนแจ้งข่าวให้คนของหลิวซิ่งทราบ

จะว่าโทษก็ต้องโทษหลิวเซิ่งเองที่ตัวแต่เร่าร้อนอยู่กับกิ๊ก เขาส่งข่าวไปบอก จางเจิ้งกวางก็เผด็จศึกไปแล้ว หลิวเซิ่งถึงจะรู้เรื่อง กว่าจะหาตัวเจอก็ไม่ทันการเสียแล้ว

แต่ผลลัพธ์กลับเป็นเรื่องดียิ่งสำหรับเขา เพราะอย่างนี้แล้วหลิวเซิ่งจะยิ่งรู้สึกผิดต่อครอบครัวและไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ถังฉีตงรออยู่ครู่หนึ่ง ไม่เห็นมีใครตอบ เขาก็อดเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาไม่ได้ เขายังเป็นคนคนนั้น แต่การหายใจนั้นแปลกๆ ยังไงดี แต่ก่อนคิดว่าเพื่อนเย็นชา แต่ดูไปเหมือนว่ารู้สึกรู้สาอยู่บ้าง

แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้ว ยิ่งเข้าใกล้ไม่ได้อีก

“อาเจ๋อ เรื่องทั้งหมดนี้คุณทำก็เพื่อเวยเวย ไม่อยากพูดถึงมันหน่อยหรอ”

แน่นอนว่าเมื่อเพื่อนรักได้ยินการกล่าวถึงชื่อเป้ยฉ่ายเวย ดวงตาอันสงบนิ่งก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา มันดูน่ากลัวกว่าใบหน้าอันนิ่งเฉย นั่นยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ถังฉีตงมั่นใจได้ยิ่งขึ้นว่าทั้งสองต้องทะเลาะกันอยู่แน่

เขาเผลอพูดขึ้นมา “หรือว่าเวยเวยมีกิ๊ก”

สายตาพิฆาตพุ่งตรงมาที่เขา ถังฉีตงรู้ตัวแล้วว่าพูดผิดไป จึงทำหัวเราะกลบเกลื่อน “ผมก็แค่ล้อเล่นเอง ทำไมคุณไม่พูดอะไรหน่อยล่ะ”

เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะเดาถูก เมื่อวานนี้ผู้หญิงที่บ้านเขาก็ซุกซนไม่น้อย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาแข็งแกร่งแล้วล่ะก็ มีหวังเป็นลมไปแล้วแน่ ออกมาตะลอนแบบนี้ไม่ไหวหรอก

เขาอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ เป็นผู้ชายนี่มันไม่ง่ายเลย

“บริษัทของคุณกำลังจะปิดตัวลงแล้ว” ฉูเจ๋อหยางผู้ไม่ส่งเสียงใด แต่พอเปิดปากทีทำเอาหนาวเข้าถึงกระดูก

ปิดอะไร

ถังฉีตงซึ่งใส่เสื้อแขนสั้นรู้สึกถึงลมแอร์ที่เป่ามาทำเอาขนลุกซู่ อย่าทำเอาตงใจสิ ที่บ้านยังมียายขี้เม้าส์อีกคนนะ

เขาต้องรีบกลับไปส่งข่าวและสืบเรื่องนี้ซะแล้ว ไม่อย่างนั้นได้นอนโซฟาแน่ “จะเป็นไปได้ไง ถ้าหากว่าบริษัทผมปิดตัว ผู้ลงทุนรายใหญ่ของผมไม่ต้องร้องไห้แย่หรอ”

ใช่แล้ว บริษัทที่เขาบริหารงานอยู่ เงินทุนส่วนใหญ่ก็มาจากเพื่อนเขานี่ล่ะ เขาเป็นเพียงหัวโขนผู้ออกหน้าเท่านั้น

แน่นอนเขาห้ามความคิดไม่ได้ รายการและการลงทุนที่เลือกล้วนมีผลกำไร ไอ้งั่งพวกนั้นถึงจะยอมจ่ายเงิน

ถังฉีตงไม่อยากยอมรับว่าฉูเจ๋อหยางเป็นเจ้านายของเขา เป็นทนายเฉยๆจะเหมาะกว่า เพราะวิสัยทัศน์ของเขามันเผ็ดร้อนเหลือเกิน วิธีการนั้นก็ซับซ้อน แม้แต่มนุษย์ป้าขายของในห้างก็ใช่ว่าจะสู้สุนัขจิ้งจอกอย่างเขาได้

“คุณเริ่มทำตัวเป็นปาปารัสซี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉูเจ๋อหยางไม่ได้สนใจถังฉีตง ตาแค่เหลือบมาแวบเดียวกลับไปสนใจที่แท๊บเล็ตแทน

จางเจิ้งกวางได้รับผลเช่นนี้ เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่วันนี้ ก็ต้องมีเรื่องอื่นในวันหน้า แค่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ตัวเองคิดไว้แล้ว อารมณ์เขาก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป กลับจะยิ่งแย่ไปกว่าเดิมด้วยซ้ำ

นี่เป็นการบอกว่าเขาเป็นคนปากสว่างอย่างนั้นรึ ถังฉีตงคำรามด้วยความไม่พอใจ “เปล่านี่ เรื่องจางเจิ้งกวางผมให้หนูน้อยหมวกแดงจัดการไปแล้ว อีกไม่นานตระกูลหนานก็ต้องมาขอให้คุณออกโรงแน่นอน”

ถังฉีตงเพิ่งพูดจบไปได้ไม่นาน โทรศัพท์บนโต๊ะของฉูเจ๋อหยางก็สั่นขึ้นมา ถังฉีตงแอบเหลือบดูพลางถูไถบริเวณจมูกโดยไม่พูดอะไร

พูดไม่ทันขาดคำ นี่ถ้ารู้ว่าทำนายได้ตรงขนาดนี้จะได้ไปซื้อล๊อตเตอรี่ไว้ ดูสิจะได้ถูกรางวัลสักห้าล้านไหม

ฉูเจ๋อหยางไม่ได้ปิดบังถังฉีตง เขาเปิดลำโพงโทรศัพท์และรับสาย หนานฉิงทางนั้นกำลังร้องห่มร้องไห้ดังเข้ามาในสาย

“อาเจ๋อ คุณเห็นในโทรทัศน์ไหมคะ เกิดเรื่องกับพี่ชายแล้ว เขาถูกคนใส่ร้าย คุณต้องช่วยพี่ชายฉันนะคะ อาเจ๋อ ฉันขอร้องล่ะ”

ถังฉีตงได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตามองบน โทรทัศน์ถ่ายทอดไปทั่วแล้ว หนานฉิงยังมีหน้ามาพูดจาไร้สาระอีก คิดว่าคนอื่นโง่หรือยังไง

แต่ว่าผู้ชายที่เขาคิดว่าเป็นคนฉลาด กับพูดเออออไปกับหนานฉิงเสียอย่างนั้น “อื้อ ทราบแล้ว”

ห๊ะ? ทราบแล้วหมายความว่ายังไง ถังฉีตงไม่เข้าใจ

หนานฉิงที่อยู่ในสายก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ทราบแล้วแปลว่าจะช่วยหรือว่าไม่ช่วยล่ะ เมื่อรู้ว่าจางเจิ้งกวางทำเรื่องใหญ่โต เธอโมโหแทบตาย ตอนแรกว่าจะหลอกใช้เขา แต่ดันเกิดเรื่องขึ้น เห็นเรื่อง “งามหน้า” ของเขาในทีวี

คุณตาก็โทรมาเอง บังคับให้พ่อช่วยไอ้พี่เฮงซวยนั่นให้ได้ พ่อก็เลยโยนเรื่องเน่าๆนี่มาให้เธอ ยิ่งแม่อีก ไหนจะคุณน้า คุณอาและคุณตา สายโทรศัพท์แทบไหม้

เธอไม่อยากจะยุ่งก็ไม่ได้ ได้แต่ฝืนใจโทรมา ทุกคนต่างรอคำตอบจากเธออยู่ เธอกลับไปให้คำตอบอันคลุมเครือเช่นนี้กับทุกคนไม่ได้หรอก“อาเจ๋อ ถ้าอย่างนั้นคุณจะมาเมื่อไหร่คะ ทางตำรวจน่าจะเริ่มสอบปากคำไม่ช้านี้”“ถ้าหากทางตำรวจไม่มีหลักฐานแน่ชัด ทางผมจะช่วยเตรียมหาทนายไว้ให้” ความหมายก็คือว่าถ้าหากว่าเรื่องนี้จางเจิ้งกวางเป็นคนลงมือทำ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อถังฉีตงไม่ยินคำตอบบ่ายเบี่ยงของฉูเจ๋อหยาง เขาก็ยกนิ้วโป้งให้ทันที ดูเหมือนว่าการเป็นนักกฎหมายนั้นทำให้คนมีศิลปะในการพูดจา ปฏิเสธได้อย่างแนบเนียนสีหน้าหนานฉิงไม่ดีเลย เธอรู้สันดานจางเจิ้งกวางดี ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นฝีมือจางเจิ้งกว้างร้อยเปอร์เซ็นต์ ทางตำรวจก็เตรียมหลักฐานไว้พร้อมแล้ว แต่ละข้อหาล้วนเพียงพอที่จะเอาผิดจางเจิ้งกวางได้ทั้งนั้นแน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ว่าคุณตาต้องรับไม่ได้แน่ แต่ในเมื่ออาเจ๋อพูดอย่างนี้แล้ว เธอยังจะพูดอะไรได้อีก“อาเจ๋อ เมื่อวานพี่ชายฉันอาจจะโดนคนใส่ร้าย ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ๆโผล่มาจากไหน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทุกคนก็ล้วนแต่ไม่พอใจ คุณช่วยให้พี่ชายไม่ต้องติดคุกได้หรือเปล่า อาจจะให้บำเพ็ญประโยชน์ซะหลายวัน หรือว่ารอลงอาญาสักสองสามเดือนอย่างนี้ได้ไหมคะ” ถังฉีตงที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินก็หัวเราะ ไอคิวหนานฉิงนี่ต่ำเนอะ ขืนใจลูกสาวรัฐมนตรีจะให้ทำทันต์บนสองสามวันก็ออกมา กล้าพูดออกมาได้

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์