โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 261 ฟันต่อฟัน

บทที่ 261 ฟันต่อฟัน

ไม่รู้ว่าไอ้เวรนั่นใส่ยาลงไปในแก้วเยอะแค่ไหน ตั้งนานแล้วฤทธิ์ยาก็ยังไม่อ่อนลงเลย

ดวงตาของฉูเจ๋อหยางก็แทบจะแดงแล้ว เขายังไปต่อได้ แต่ร่างกายของเธอคงรับไม่ไหวแล้ว ถึงตอนนี้จะมีฤทธิ์ยาคอยหนุนอยู่ แต่พอพรุ่งนี้ เธอคงเจ็บหนักเอาการแน่ๆ

แต่เมื่อมองสีหน้าของเธอที่ถูกฤทธิ์ยาชักนำ ฉูเจ๋อหยางก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ เขาพลิกตัวลงนอนกับเตียง ให้เธอนั่งคร่อมอยู่บนตัวเขา แค่นี้ก็ไม่ต้องออกแรงเยอะแล้ว

รูปร่างอรชรของหญิงสาวปรากฏสู่สายตาอย่างไม่ต้องสงสัย เอวคอดที่ไหวเอนราวกับต้นหลิวที่กำลังลู่ไปตามลม ทำให้คนได้เห็นภาพนี้แทบคลั่ง

เพราะแบบนี้ฉูเจ๋อหยางจึงอาศัยร่างกายแข็งแกร่งของตนคุมเกมพลิกไปพลิกมาราวค่อนคืน จนถึงเวลาตีสอง เป้ยฉ่ายเวยถึงได้สงบลง รามถึงยาในตัวของเธอที่หมดฤทธิ์ลงไปด้วย

เสียงครางกระเส่าก็พลันหยุดลง เมื่อเธอหลับตาก็มีหยดน้ำเกาะพราวอยู่บนขนตาหนางอน ดูแล้วคงจะเหนื่อยล้าน่าดู ฉูเจ๋อหยางคว้าเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แต่ก็ไม่ได้หลับไปในทันที

โทรศัพท์บนพื้นสั่นอยู่เป็นเวลานาน แสงหน้าจอสว่างขึ้นแล้วก็ดับลง แล้วก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง เป็นอยู่อย่างนั้นเรื่อยๆราวกับคนที่โทรมาไม่ยอมถอดใจง่ายๆ

สุดท้ายก็ถูกเก็บขึ้นมาจากพื้นและถูกตัดสายทิ้ง จนเสียงโทรเข้าที่ดังอยู่ตลอดเงียบลงในทันตาเห็น

มุมปากของฉูเจ๋อหยางยกยิ้มขึ้น ถอยกายกลับมายังเตียง โอบกอดหญิงสาวที่หลับไปด้วยความอิดโรย

คืนนี้ มีคนหนึ่งกำลังหลับสบายและคนหนึ่งที่กำลังกระวนกระวาย

หลี่จื่อเชียนนิ่งอึ้งกับโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไป ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงมือเล็กๆที่กำลังกระตุกชายเสื้อของเขาอยู่

“คุณลุงหลี่ เมื่อไหร่คุณแม่จะกลับมาหรอครับ” รุ่ยรุ่ยขยี้ตากลมโตที่ดูง่วงซึมใกล้จะปิดเต็มที ถามขึ้นอย่างงัวเงีย

หลี่จื่อเชียนมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้รู้ว่าเขาอยู่รอจนค่อนข้างดึก รุ่ยรุ่ยเองก็ยังมีพลังเหลืออยู่รอจนถึงตอนนี้ แต่ทว่าสายโทรศัพท์กลับถูกตัดทิ้งเสียอย่างนั้น

เขาไม่รู้ว่าแบบนี้มันหมายความว่าอะไร แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ

“เดี๋ยวคุณแม่ก็กลับมาแล้ว ลุงว่าลุงพารุ่ยรุ่ยไปนอนก่อนดีกว่า ดีไหม” เขาไม่นอนก็ได้ แต่รุ่ยรุ่ยยังเด็กจะให้อดหลับอดนอนไม่ได้เด็ดขาด

รุ่ยรุ่ยอยากรอเป้ยฉ่ายเวยกลับมา แต่ทว่าเด็กน้อยก็ง่วงจริงๆ “คุณลุงหลี่ ผมอยู่รออีกสักพักก็ได้ครับ”

หลี่จื่อเชียนอดลูบหัวเด็กน้อยไม่ได้ พูดขึ้นด้วยความอ่อนโยน “รุ่ยรุ่ยเป็นเด็กดีนะ หนูไปนอนก่อนเถอะ ถ้าคุณแม่กลับมา เดี๋ยวลุงปลุกหนูเองดีไหม”

รุ่ยรุ่ยครุ่นคิดจากนั้นก็พยักหน้า “ก็ได้ครับ”

พูดจบก็หาวออกมาทันที ดูท่าแล้วคงจะง่วงจริงๆ เปลือกตาก็ดูหย่อนๆแล้ว อีกสักพักก็คงประกบติดกัน

หลี่จื่อเชียนวางโทรศัพท์ลง อุ้มเด็กน้อยขึ้นไปชั้นบน จากนั้นก็กล่อมให้หลับไป

วันรุ่งขึ้น เป้ยฉ่ายเวยตื่นขึ้นมา ทั้งร่างกายเหลือเพียงดวงตาเม็ดอัลมอนต์เท่านั้นที่ยังขยับกลอกไปมาได้ ส่วนบริเวณอื่นบนร่างกายไม่มีตรงไหนที่ไม่รู้สึกเจ็บ เมื่อลองขยับกล่องเสียงดู ก็พบว่าเสียงแหบแห้ง จนไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้

ขาทั้งสองข้างเหน็บชา เพียงขยับตัวแค่นิดเดียว ตรงหว่างขาก็เจ็บเหมือนจะฉีกขาด ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงมีเลือดออกมาแน่ๆ

ตอนนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่นอนป่วยเป็นผักที่ยังมีความรู้สึก

“ตื่นแล้วหรอ” เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นมา

“.........” เป้ยฉ่ายเวยเบิกตากว้างจากนั้นก็แอบหลับตาลงอีกครั้ง เธอต้องยังไม่ตื่นจากฝันร้ายแน่เลย ไม่อย่างนั้นเธอจะได้ยินเสียงของฉูเจ๋อหยางได้อย่างไร

ฉูเจ๋อหยางเหลือบมองผู้หญิงที่กำลังหลับตาปี๋ พูดออกมานิ่งๆว่า “ไม่ต้องแกล้งหลับ ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว”

จริงๆแล้วเธอก็ไม่ว่าอะไรนะถ้าเขาจะคิดว่าเธอตายไปแล้ว เป้ยฉ่ายเวยลืมตาขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ ถลึงตามองร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอเอ่ยถามอย่างยากลำบากด้วยเสียงแหบๆว่า “ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่”

เมื่อเป้ยฉ่ายเวยปริปากพูดก็พบว่าเธอเจ็บคอมากแค่ไหน แค่กลืนน้ำลายก็รู้สึกบาดคอ คิดว่าเมื่อวานคงใช้เสียงไปเยอะแน่ๆ

“ยา” ฉูเจ๋อหยางแกว่งยาทาที่อยู่ในมือ พูดขึ้นอย่างสบายๆ

ที่เขายังอยู่ก็คือจะทายาให้เธองั้นหรอ? แต่เธอก็คิดว่าตัวเองไม่น่าบาดเจ็บตรงไหน แต่เมื่อลองครุ่นคิดดู ใบหน้าก็แดงซ่านขึ้นมาทันที ไอ้ผู้ชายบ้าตายนี่คิดจะทายาตรงจุดลับของเธอทั้งๆที่เธอยังมีสติอยู่น่ะหรอ

ไม่ใช่ว่าบ้าไปแล้วหรือไง?

เมื่อวานที่โดนวางยา เธอก็ยังพอเนียนๆไปได้ แต่ตอนนี้กลางวันแสกๆ สมองรับรู้ทุกอย่าง ถ้าจะแกล้งโง่ก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่

เป้ยฉ่ายเวยปฏิเสธฉับในทันที “ไม่ต้อง คุณไปได้แล้ว”

เธอยังไม่ลืมว่าเธอและเขายังอยู่ในช่วงที่ความสัมพันธ์ถูกแช่แข็ง เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาอีกแล้ว

ทว่าดวงตาทั้งสองข้างก็ยังเอาแต่ปรายไปมองเขาอยู่เรื่อย ท่าทางที่ดูผ่อนคลายของเขายิ่งทำให้เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากขนาดไหน หลังค่ำคืนอันดุเดือดเสร็จสิ้น เธอเหนื่อยจนเหมือนหมาตาย แต่เขากลับดูฮึกเหิมกระปรี้กระเปร่า

เป้ยฉ่ายเวยคิดอย่างเคืองๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว อีกอย่างเมื่อวานก็เป็นเขาที่ออกแรงอยู่คนเดียวนะ

“ทำไม ใช้ประโยชน์เสร็จก็จะเขี่ยผมทิ้งเลยหรอ” ฉูเจ๋อหยางเฉื่อยชาไม่เปลี่ยน แววตานิ่งๆกวาดมองมาที่เธอโดยตรง

เป้ยฉ่ายเวยเม้มปาก ทำไมถึงได้รู้สึกว่าในถ้อยคำของฉูเจ๋อหยางมันแอบแฝงความหมายอะไรไว้ เหมือนเธอเป็นผู้ชายที่ได้แล้วทิ้ง ส่วนเขาเป็นหญิงสาวผู้ถูกกระทำที่น่าสงสารแทน

ถุย นี่มันเรื่องไร้บ้าอะไรเนี่ย

เธอลองขยับนิ้วดู ก็พบว่าร่างกายกลับมามีแรงแล้ว มีแค่เอวกับขาที่ราวกับพิการไปแล้ว ตรงส่วนอื่นก็ขยับได้แล้วบ้าง เธอคว้าผ้าห่มมาคลุมกายแล้วฝืนลุกขึ้น แต่เพียงแค่นี้เธอก็หายใจหอบแล้ว

บนพื้นมีเศษผ้าอยู่ประปราย ดูจากสีและเนื้อผ้าก็คงจะเป็นเสื้อผ้าที่เธอใส่เมื่อคืนวาน ถัดไปไม่ไกลเท่าไหร่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คของชายหนุ่ม ทั้งยังมีบ๊อกเซอร์คาอยู่ในนั้นด้วย......

แล้วชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดสูทเรียบร้อยอยู่ตรงหน้านี่ออกมาจากละครเรื่องไหนกัน เสื้อผ้าบนตัวของเขาลอยมาตามอากาศได้หรอ?

เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกว่าสมองเริ่มคิดอะไรเลอะเทอะ เอาแต่คิดออกนอกทะเลไปเรื่อย เมื่อเอ่ยปากพูดเสียงแหบๆราวกับคนใกล้ตายก็ดังออกมา

“คุณจะให้ทำยังไง”

“เซ็นซะ” ทนายมักจะชอบอะไรที่มันจับต้องได้จริง ฉูเจ๋อหยางหยิบกระดาษบนโต๊ะขึ้นมา โยนเข้าไปปะทะอกของเป้ยฉ่ายเวยเป้ยฉ่ายเวยมึนงงไปหมด หยิบกระดาษเอสี่แผ่นบางขึ้นมาอ่าน แต่เมื่อยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งดูไม่ได้ จนสุดท้ายตาก็แทบลุกเป็นไฟ ถ้าไม่ใช่ว่าเธอไม่มีแรงลุกเธอคงลุกขึ้นไปปะทะกับฉูเจ๋อหยางแล้ว นิ้วมือเรียวขาวออกแรงขย้ำกระดาษ ขย้ำจนกระดาษแทบจะขาดเป็นรู “บ้าไปแล้วหรอ?”อะไรคือบอกว่าเธอบังคับขืนใจเขาทำเรื่องอย่างว่าอย่างหน้าไม่อายทั้งคืน ให้เธอรับผิดชอบเขา เป็นเวลาห้าปีเหอะๆ บนโลกนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่ไหม ถ้าฉูเจ๋อหยางไม่ได้บ้า ก็อาจจะจิตป่วยไปแล้วแน่ๆ หลายวันก่อนยังพูดอยู่เลยว่าเธอใจง่าย เอ้อระเหยลอยชายไปทั่วอยู่เลย ตอนนี้กลับดึงดันจะให้เธอเซ็นข้อตกลงนี้ให้ได้ใครกันแน่ที่หน้าแตกฉูเจ๋อหยางไม่ได้สนความโกรธเคืองในแววตาของเธอ ล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน กดอะไรอยู่สักพัก จากนั้นก็มีเสียงครางขาดๆหายๆที่ทำให้เธอหน้าแดงและใจกระตุกวูบดังขึ้นมาภายในห้องที่เงียบงัน มีเพียงเสียงที่ชวนให้คิดเพ้อเจ้อหลงเหลืออยู่ ใบหน้าเล็กๆของเป้ยฉ่ายเวยก็แทบจะแดงเถือกจนกระทั่งเสียงขอร้องที่สุดจะทนดังขึ้น “ฉูเจ๋อหยาง พอได้แล้ว”มันจะมากเกินไปแล้วนะ ถึงขนาดต้องอัดไว้เลยหรอ

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์