โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่300 ลงจากรถ

บทที่300 ลงจากรถ

เป้ยฉ่ายเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ปกคลุมด้วยเมฆหมองจ้องเขาอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดอย่างนิ่มๆ “ใช่ ฉูเจ๋อหยาง ฉันไม่อยากมีความสัมพันธ์ใดๆกับคุณอีกต่อไป”

“หยุดรถ” นัยน์ตาสีดำเข้มของฉูเจ๋อหยางจ้องไปที่เธอ ทันใดเขาก็ตะโกนขึ้น

คนขับพูดอย่างกระอักกระอ่วน “ทนายฉู ตอนนี้เราอยู่บนสะพาน…”

หยุดรถตอนนี้ อันตรายมากไม่ใช่หรอ

“หยุดรถ” เสียงฉูเจ๋อหยางเย็นยะเยือกขึ้นอีกหลายส่วน

คนขับรถไม่กล้าทำตาม เขาหลบไปเลนส์ข้างๆเพื่อที่จะหยุดรถ เป้ยฉ่ายเวยกัดจนริมฝีปากแดง เธอเปิดประตูด้วยสองมือที่ถูกมัดไว้ ไม่เหลือบมองฉูเจ๋อหยางแม้สักนิด และลงจากรถไปอย่างสงบ

เมื่อประตูรถถูกปิดลง รถก็เร่งออกไปด้วยความเร็ว ไม่หยุดพักแม้เสี้ยววินาที

เป้ยฉ่ายเวยยิ้มกับตัวเองอย่างร้าวราน นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการหรือไง ทำไมพอได้ลงจากรถแล้วใจเธอถึงเปียกปอนเหมือนลุยฝนมา ยังเจ็บ ยังรวดร้าว

ตำแหน่งที่เธออยู่นั้นอยู่ตรงกลางของสะพานยกระดับ มองไม่เห็นต้นทาง ไม่เห็นปลายทาง ยิ่งไปกว่านั้นมองไม่เห็นทางออก รถที่วิ่งผ่านเธอนั้นแล่นผ่านด้วยความเร็วสูงมาก พัดลมมาด้วยหอบใหญ่ ทำเอากระโปรงเธอเลิกเปิดขึ้นไปในอากาศ

มือของเป้ยฉ่ายเวยยังถูกเน็คไทมัดไว้ เธอเดินไปตามขอบทางเดินเบื้องหน้า พยายามเพิกเฉยต่อสายตาและเสียงผิวปาก

คนขับที่สัญจรผ่านหลายคนสังเกตเห็นหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเดินอยู่กลางสะพานยกระดับ ที่ข้อมือยังถูกมัดเอาไว้อีก ต่างพากันคิดมโนกันไปใหญ่

ผู้ชายหลายคนที่ลามกอนาจาร จงใจชะลอรถเพื่อที่อยากจะคุยกับเธอ “คนสวย ให้พาไปส่งมั๊ยจ๊ะ”

เป้ยฉ่ายเวยเร่งความเร็วฝีเท้า เธอเม้มปากและลดหัวลงต่ำ

เสียงแตรทางด้านหลัง เสียงคำรามของเครื่องยนต์ กระตุ้นให้ชายคนนั้นต้องเร่งเครื่อง เมื่อชายคนนั้นเห็นท่าทีเมินเฉยของเธอ เขาก็แยกเขี้ยวคำราม จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง รถบินหายลับไป ทิ้งไว้เพียงฝุ่นตลบ

“โถ่เอ้ย ทำเป็นเล่นตัว ดูก็รู้ว่าเป็นกะหรี่ที่โยนออกมา ยังจะทำเป็นหยิ่ง ถุย”

เป้ยฉ่ายเวยขมวดคิ้ว เมื่อถูกฝุ่นคลุ้งเข้าใส่ เธอไอขึ้นหลายครั้งก่อนที่จะเดินต่อไป

ภายใต้แดดร้อน เป้ยฉ่ายเวยเดินไปได้ไม่ไกล หลังก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ปอยผมที่หน้าผากลู่ติดกับผิวหน้า ราวกับว่าเธอไม่มีความรู้สึก ยังคงก้าวเท้าไปอย่างสุขุม ค่อยเคลื่อนไปข้างหน้าทีละน้อย

หลายต่อหลายครั้ง เธอแทบอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ฝืนกลั้นเอาไว้ เธอคิดที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร ไม่อยากถูกคนมองตัดสินว่าเป็นตัวตลก แต่มือก็ถูกมัดไว้เอื้อมหยิบโทรศัพท์ไม่ถึง

ดูเอา นี่เป็นผู้ชายที่เธอรักมาสี่ปี แค่เธอยั่วโมโหเขา เขาก็ไม่เหลือที่ให้เธอได้อยู่

ที่เขาชอบตอนนี้ได้ลอกคราบหายไปแล้ว แต่ไม่ได้ลอกคราบกลายเป็นปัจเจกบุคคล

ผู้ชายที่เธอรักเป็นดังภูเขาที่เข้าไม่ถึง ดังสายน้ำที่ไม่เคยหยุดไหล ดังเมฆหมอกที่จับต้องไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุดในโลก

ระหว่างที่เดินไป เป้ยฉ่ายเวยก็เหมือนจะนึกถึงเรื่องตลกอะไรขึ้นมา เธอหัวเราะออกมาไม่ได้ ไหล่นั้นสั่นไหวอย่างไร้การควบคุม ทั้งสองมือกุมท้องเอาไว้

บนสะพานยกระดับที่รถหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย มีเพียงทางสายเดียวที่ดูเหมือนจะไม่สิ้นสุด กับเธอผู้น่าสมเพศ ในที่สุดน้ำตาก็ทะลักออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

เป้ยฉ่ายเวย เธอนี่มันน่าสมเพศอย่างกับสุนัข

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน รอจนใจเป้ยฉ่ายเวยสงบลง เธอก็ตั้งใจถอดส้นสูงที่เธอใส่มา เดินไปบนนถนนสายยาว มีรถหยุดแวะดูเธอเป็นครั้งคราว

เธอก็ยังเดินต่อไปเบื้องหน้าอยู่อย่างนั้น กระทั่งไม่มีใครหยุดอีกต่อไป

แผลพุพองที่เท้าทำให้เธอเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดทางกายนั้นไม่เท่าความเจ็บปวดทางใจ เธอยังคงเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจอะไร

ทันใดนั้นอยู่ๆรถโรลส์รอยซ์สีดำคันหนึ่งก็หยุดลงตรงหน้าเธอ ขวางทางเดินเธอเอาไว้ ถ้าคนขับไปข้างหน้าอีกนิด รถอาจจะพลิกคว่ำได้ รถพังคนตาย

เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าใครกันที่ช่างใจกล้าเสี่ยงอันตรายหยุดรถบนสะพานเช่นนี้ อย่างรวดเร็ว ประตูรถถูกเปิดออก คนที่ลงมาสวมชุดสูทสีดำพร้อมถุงมือสีขาว เขายืนอยู่ข้างรถและเปิดประตูออกด้วยความเคารพขณะที่กล่าวกับเป้ยฉ่ายเวย “คุณเป้ย เชิญขึ้นรถครับ”“ไม่สนใจ” เป้ยฉ่ายเวยกระพริบตา เธอไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าฉูเจ๋อหยางใจอ่อนให้คนมารับเธอ และยังรู้จักชื่อของเธออีก ท่าทางลึกลับมาก ต้องไม่ใช่คนดีแน่“คุณเป้ยกรุณาอย่าทำให้พวกผมลำบากใจ” ชายร่างผอมยื่นมือไปข้างหน้าอย่างไร้อารมณ์ กั้นทางเดินเธอเอาไว้ความหมายนั้นชัดเจน เธอจำเป็นต้องขึ้นรถ“หลีกไป” เป้ยฉ่ายเวยพูดอย่างเฉยเมย

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์