ตอนที่38 กลับบ้านคุณยาย
เป้ยฉ่ายเวยตะโกนออกมาอย่างตกใจและลุกขึ้นจากเตียงทั้งตัวมีเหงื่อออกจากนั้นก็หันไปมองรุ่ยรุ่ยที่นอนอยู่ข้างๆ
นอกหน้าต่างยังมืดอยู่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นแต่เป้ยฉ่ายเวยไม่มีอารมณ์นอนแล้วเอาแต่มองรุ่ยรุ่ยที่นอนอยู่ราวกับว่าแบบนี้เธอจะได้สบายใจหน่อย
รอให้รุ่ยรุ่ยเติมน้ำเกลือขวดสุดท้ายเสร็จก็สองโมงกว่าแล้วเป้ยฉ่ายเวยส่งเขากลับไปพร้อมกับกินข้าวที่คุณยายไปด้วย
คุณยายเห็นรุ่ยรุ่ยที่วิ่งเข้ามาอย่างร่าเริงใบหน้าก็ยิ้มบาน “ไม่เป็นไรอะไรก็ดีแล้ว”
“คุณย่าเมื่อวานผมไปเที่ยวสวนสัตว์กับแม่ด้วยที่นั่นมีสัตว์เยอะแยะเลย” รุ่ยรุ่ยที่อยู่ข้างๆก็เล่าสัตว์ที่ตัวเองเจอ
บนหัวคุณยายมีผมขาวเต็มไปหมดตีนกาก็เยอะมากตายิ้มหยีแล้วมองรุ่ยรุ่ยเหมือนกำลังตั้งใจฟังประสบการณ์ที่เขาเห็นในสวนสัตว์
เป้ยฉ่ายเวยที่อยู่ข้างๆก็นั่งเก็บกวาดบ้านเก่าหลังนี้เงียบๆในหูก็ฟังที่รุ่ยรุ่ยเล่าพูดเรื่องที่ทำพร้อมกับเธอหลายรอบในใจก็เริ่มสงบลง
“รุ่ยรุ่ยอยู่คุยเป็นเพื่อนคุณย่าก่อนนะเดียวแม่ไปทำอาหารก่อน” ถ้าเป้ยฉ่ายเวยอยู่ร้านเธอก็จะเป็นคนทำอาหารตลอด
คุณยายรู้นิสัยของเป้ยฉ่ายเวยดีภายนอกดูนุ่มนวลแต่นิสัยแข็งกว่าใครๆเลยไม่ได้ไปห้าม
“รู้แล้วครับแม่” เสียงรุ่ยรุ่ยดังขึ้นมา
มุมปากเป้ยฉ่ายเวยยกยิ้มขึ้นมาห้องครัวในนี้ไม่ใช่แบบเตาแก๊สแต่เป็นแบบดินตั้งเกาะไฟก่อนเธออยากหาคนมาเปลี่ยนเป็นเตาแก๊สนานแล้ว
แต่คุณยายก็บอกว่าใช้ไม่ชินเขาก็กลัวในบ้านมีแค่คนแก่กับเด็กเดียวเตาแก๊สลั่วมันจะลำบาก
ยังดีที่คนในหมู่บ้านมาส่งพวกฟืนตรงเวลาแค่เอาตังให้เขา
เป้ยฉ่ายเวยก็ถือว่าชินกับการใช้แบบนี้อยู่แค่แป๊บเดียวก็ทำอาหารเสร็จแล้ว
ทั้งสามคนนั่งกินข้าวด้วยกันรุ่ยรุ่ยดูร่าเริงกว่าปกติ
พอกินข้าวเสร็จรุ่ยรุ่ยก็อยู่ในห้องคนเดียวกำลังวางของที่เป้ยฉ่ายเวยซื้อให้เขาอยู่ทั้งพวกหนังสือ ภาพวาดและของเล่นอีกมากมาย
คุณยายช่วย
คุณยายช่วยเป้ยฉ่ายเวยเก็บกวาดห้องครัวและพูดไปเรื่อยเปื่อย
“เวยเวยแล้วรุ่ยรุ่ยจะได้ผ่าตัดเมื่อไหร่”
“ใกล้แล้วคุณยายหมอฉันติดต่อเรียบร้อยละรอทางนั้นติดต่อกลับเดียวฉันจะรีบพารุ่ยรุ่ยไป” เป้ยฉ่ายเวยก้มหัวล้างจานต่อ
คุณยายนั่งอยู่ข้างๆแล้วถอดหายใจทำให้เสียงเขาที่แก่อยู่แล้วดูตระหนักไปอีก “เวยเวยอย่าหาว่ายายด่านะตั้งแต่เด็กเธอก็เก่งมาตลอดแต่ทำไมต้องมาผิดพลาดกับเรื่องนี้”
“เธอยังสาวอยู่คงจะเลี้ยงรุ่ยรุ่ยทั้งชีวิตคนเดียวไม่ได้ถ้าพ่อแม่เธอกลับมารู้เรื่องแบบนี้ก็คงจะบ้าตาย” คุณยายพูดแล้วถอดหายใจต่อ
“หรือว่าเธอจะปิดบังรุ่ยรุ่ยตลอดชีวิตไม่บอกเขาว่าพ่อเขาเป็นใคร?”
“คุณยายเวยเวยทำให้คุณยายกังวลแต่รุ่ยรุ่ยไม่ใช่ที่ผิดพลาดเขาเป็นของสำคัญที่สุดในชีวิตฉัน” เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าคุณยายจะพูดเรื่องนี้ขึ้นอีกก็ตอบไปแบบเดิมทุกครั้ง
“เวยเวยอายุคุณยายก็มากแล้วคงจะอยู่ได้อีกไม่กี่ปีเมื่อก่อนไม่ไว้ใจเธอมากที่สุดแต่ตอนนี้ไม่ไว้ใจทั้งเธอและรุ่ยรุ่ย คุณยายคนเดียวมันยังดูและวกเธอไม่ได้ตาเธอก็เหลือแค่บ้านหลังเก่าๆนี้ไว้แล้วเธอกับรุ่ยรุ่ยจะทำยังไง”
คุณยายก็ไม่ได้คิดว่ารุ่ยรุ่ยเป็นข้อผิดพลาดแต่เขาก็รู้ว่าแม่เลี้ยงเดียวมันลำบากขนาดไหน
เป้ยฉ่ายเวยน้ำตาเกือบจะไหลแล้วเสียงแหบ “คุณยายอย่าพูดมั่วสิคุณยายต้องอยู่ยาวถึงหนึ่งร้อยปีฉันเลี้ยงคุณยายกับรุ่ยรุ่ยได้”
“ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่เธอมัวแต่ไปทำงานข้างนอกก็คงไม่ปล่อยให้เธอโตคนเดียวหรอก” ที่เป้ยฉ่ายเวยโตกว่าเพื่อนวัยเดียวกันคุณยายรู้แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะความจริงมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
“คุณยาย เดี๋ยวรุ่ยรุ่ยก็จะหายแล้วถึงตอนนั้น ฉันไม่เพียงแต่จะหาตังมาเลี้ยงคุณกับรุ่ยรุ่ยแถมยังเก็บตังซื้อบ้านหลังใหญ่ได้อีกนะ รับคุณยายไปอยู่ด้วย ทุกอย่างก็จะดีขึ้น คุณยายไม่ต้องห่วงฉันหรอก”
เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากให้คุณยายเป็นห่วงเลยทำเป็นพูดอย่างร่าเริง
“ไม่ได้เธอยังสาวอยู่จะไม่แต่งานทั้งชีวิตนี้เลยไม่ได้รุ่ยรุ่ยยังเด็กอยู่ต้องการมีพ่อเธอคิดเผื่อตัวเองก็คิดเผื่อรุ่ยรุ่ยบ้าง” คุณยายเขย่าหัวอย่างไม่เห็นด้วย
ตั้งแต่ที่เวยเวยท้องในหมู่บ้านก็มีแต่ข่าวลือต่อให้เขาอยากรู้เรื่องอะไรเวยเวยก็หุบปากไม่พูดผ่านไปหลายปีแล้วเขาก็ไม่ได้ถามอีก
เป้ยฉ่ายเวยล้างถ้วยสุดท้ายเสร็จก็เช็ดให้สะอาดแล้วเอาผ้ากันเปื้อนออก “คุณยายไว้ใจได้เลยถ้ารุ่ยรุ่ยอยากได้พ่อเดียวฉันจะหาคนมาแต่งงานด้วยเลย”
เธอก็เคยคิดเรื่องนี้แต่ว่าตอนนี้เวลามันยังไม่เหมาะสมตอนนี้การผ่าตัดของรุ่ยรุ่ยสำคัญกว่า
“เธอนี่พูดมั่วแบบนี้ได้ยังไงจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับคนที่ตัวเองชอบสิจะทำไปเรื่อยได้ยังไง” เสียงคุณยายที่ทั้งอบอุ่นและเป็นห่วง
คนที่ตัวเองชอบในสมองของเป้ยฉ่ายเวยนึกถึงใบหน้าเย็นชาของมครบางคนขึ้นมาแค่แป๊บเดียวก็โยนความคิดตลกนั้นทิ้งขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้เลยว่าเธอยกยิ้มมุมปากได้แห้งขนาดไหน
คนนั้นไม่ว่าเธอจะพยายามกี่ปีก็ไม่มีจุดที่ทำให้เขาชอบเธอเลยแล้วจะมีสิทธิ์ไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง
เป้ยฉ่ายเวยยิ้มแล้วช่วยพยุงคุณยายออกไปและเข้าไปนั่งเล่นกับรุ่ยรุ่ยในห้องเห็นเวลามันถึงแล้วก็เอาเงินหนึ่งก้อนออกจากกระเป๋าแล้วเอาให้คุณยายให้คุณยายซื้อของอร่อยกินอย่าลำบากตัวเอง
คุณยายไม่อยากเอา “เธอออกไปทำงานคนเดียวที่ข้างนอกก็ลำบากพอแล้วไม่ต้องเอาเงินให้ฉันหรอกฉันมีใช้อยู่”
“คุณยายก็เอาไว้เถอะฉันหาเงินได้อันนี้เป็นเงินโบนัสฉันยังมีเงินเดือนอยู่” เป้ยฉ่ายเวยหยัดใส่มือคุณยายไม่ให้เขาปฏิเสธ
คุณยายถอดหายใจถึงแม้เขาไม่อยากได้แต่ก็ต้องคิดเผื่อรุ่ยรุ่ยเขาทำยังไงก็ได้แต่ห้ามให้เด็กลำบากไปด้วย
รุ่ยรุ่ยเห็นแบบนี้ก็รู้ว่าเป้ยฉ่ายเวยจะไปแล้วถึงแม้ในใจรู้ว่าไม่ควรห้ามแต่ร่างกายมันไปก่อนแล้ว
เป้ยฉ่ายเวยก้มมองมือเล็กๆที่จับมือตัวเองอยู่และหน้าตาที่กำลังกลั้นน้ำตาไว้ในใจก็รู้สึกแปลกๆเธอก็อยากพารุ่ยรุ่ยไปแต่ว่ามันทำไม่ได้
“รุ่ยรุ่ยไม่อยากให้แม่ไปใช่ไหม”
รุ่ยรุ่ยกัดปากแน่นไม่ตอบเป้ยฉ่ายเวยเลยต้องก้มตัวลงมองหน้าเขาที่ตาเริ่มแดงในใจก็รู้สึกเจ็บ “แม่ก็อยากอยู่กับรุ่ยรุ่ยแม่สัญญาว่าแม่จะหาวิธีพารุ่ยรุ่ยไปอยู่ด้วยนะ”“แม่พูดจริงนะครับ?” รุ่ยรุ่ยที่น้ำเสียงสะอึกเขาไม่อยากให้ไป“อือแม่สาบานเลย” เป้ยฉ่ายเวยเคยคิดถ้าให้รุ่ยรุ่ยอยู่ที่บ้านนอกแบบนี้อีกก็พาไปอยู่ในเมืองดีกว่าถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเขาก็รับรองไม่ได้เลยต้องคิดหาวิธีที่ดีที่สุด“อือ”“อือ” รุ่ยรุ่ยยืนมือเล็กๆมาทำสัญญาคุณยายที่อยู่ข้างๆก็หันไปไม่กล้ามองเพราะน้ำตาไหลเป้ยฉ่ายเวยจากไปด้วยความที่คุณยายและรุ่ยรุ่ยไม่อยากให้ไปอัพเดทครั้งหน้า วันที่3 พ.ย. 2019จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน
copy right hot novel pub