“ทุกคนโปรดระวัง ตอนนี้มีผู้บุกรุกเข้ามาสองคน!”
“ทุกคนโปรดระวัง ตอนนี้มีผู้บุกรุกเข้ามาสองคน!”
……
เสียงประกาศเตือนนั้นดังไปทั่วบริเวณครั้งแล้วครั้งเล่า
ทันใดนั้น ทั้งนอกและในของคฤหาสน์ก็ถูกปิดล้อมทันที บรรยากาศก็ดูตึงเคลียดขึ้นมา
เดิมที่ตระกูลหลงก็เป็นตระกูลหลวงในเยี่ยนจิงอยู่แล้ว บวกกับวันนี้เป็นันครบรอบอายุสิบแปดของเจ้าหญิงน้อยแห่งตระกูลหลง การรักษาความปลอดภัยในทุกด้านจึงเข้มงวดอย่างถึงที่สุด
ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม ที่ต้องการเข้าไปในตระกูลหลง ก็ต้องแสดงบัตรเชิญทั้งนั้น
ถ้าไม่มีบัตรเชิญ ก็จะถูกหาว่าเป็นผู้บุกรุกทั้งสิ้น
สีหน้าของถังเฉานั้นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ถึงเขาจะไม่มีบัตรเชิญก็ไม่เป็นไร หลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่เองก็ไม่มีบัตรเชิญเหมือนกัน แล้วตอนนี้ก็มีผู้บุกรุกสองคนถูกจับพอดี……
คงไม่ใช่พวกเธอหรอกมั้ง?
ถังเฉารู้สึกเป็นกังวลอยู่ในใจ
แต่พอเดินออกไปดู เขาก็ต้องโล่งอกกับสิ่งที่เห็น
ผู้บุกรุกสองคนที่ว่านั้นไม่ใช่หลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่ แต่เป็นผู้ชายสองที่ไม่มีบัตรเชิญแต่กลับแอบลักลอบเข้าไปข้างใน
“เอาตัวสองคนนี้ไป แล้วพาตัวกลับไปสอบสวน!”
ชายวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมคนหนึ่งโบกมือใหญ่ๆ ของตัวเอง ท่ามกลางเสียงร้องโอดครวญ ผู้บุกรุกทั้งสองก็ถูกเอาตัวไปแล้ว
สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่ จะต้องเป็นการสอบสวนที่โหดเหี้ยมมากๆ อย่างแน่นอน
“ฮ่าฮ่า เห็นแล้วรึยัง? นี่แหละคือจุดจบของคนที่คิดจะเข้าไปในตระกูลหลงโดยพลการ จะถูกจับในฐานะผู้บุกรุกทั้งสิ้น!”
เสียงหัวเราะที่ไม่ชอบใจจากสิ่งที่คนอื่นกำลังประสบนั้นดังมาจากทางด้านหลัง
ถังเฉามองเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ขอแค่ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่ เขาก็สบายใจแล้ว
ถังเฉาได้เดินไปทางตระกูลหลงโดยที่ไม่ได้สนใจ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
พอเห็นถังเฉาไม่เพียงเมินใส่ตัวเอง แต่ยังเดินจากไปดื้อๆ เจียงเฉาก็อายจนโกรธ และตวาดออกมาเสียงดัง
แต่ว่า ถังเฉาก็ไม่ได้สนใจเขา ทำราวกับเขาเป็นแค่อากาศ
เจียงเฉาโมโหอย่างถึงที่สุด
เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องไปต่อให้สุด เขาตะโกนออกมาเสียงดังว่า “ตรงนี้ก็มีคนที่ไม่มีบัตรเชิญอยู่ด้วยคนหนึ่งจับตัวมันไปด้วยเลย!”
เสียงที่เจียงเฉาตะโกนออกไปนั้นดังมาก จนดึงดูดความสนใจของคนยามประตูอยู่ไม่ไกลเข้าพวกเขาเดินดุ่มๆ มาทางนี้
ถังเฉาหยุดเดิน แววตาเคร่งขรึม
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แค่รอบอดี้การ์ดของตระกูลหลงมาถึงเท่านั้น
การที่จะเข้าไปในตระกูลหลงโดยที่ไม่เปิดเผยตัวตนนั้น มันก็ต้องมีการสูญเสียกันบ้าง
พรึบพรับ!
ยามของตระกูลหลงได้เข้ามาปิดล้อมลานจอดไว้อย่างรวดเร็ว และยืนล้อมถังเฉาเอาไว้
กลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกล ชายวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมก็ได้เดินตรงมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมวันนี้ถึงมีผู้บุกรุกมากขนาดนี้?”
เมื่อกี้เพิ่งจับผู้บุกรุกที่ไม่มีบัตรเชิญไปแล้วสองคน ไม่นึกเลยว่าจะจับได้อีกแล้ว
เจียงเฉาหัวเราะคริคริ “วันนี้เป็นพิธีบรรลุนิติภาวะของเจียเจีย สมาชิกมากมายของตระกูลหลวงต่างมาเข้าร่วม คนที่แอบอ้างเข้ามาก็มีมาก”
ตอนที่พูดแบบนั้นออกมา เจียงเฉายังจงใจเหลือบมองถังเฉาไปทีหนึ่ง โดยแสดงสิ่งที่แอบแฝงไว้อย่างชัดเจน
ชายหน้าเหลี่ยมจ้องมองเจียงเฉาด้วยความตกใจ “เธอคือ คนรุ่นหลังของตระกูลเจียงไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ครับ คุณลุงหลงวันนี้ผมเองก็ตั้งใจมาแสดงความยินดีกับเจียเจียเหมือนกันครับ”
เจียงเฉานั้นพูดด้วยความเคารพนับถือ แตกต่างจากตอนที่พูดกับถังเฉาอย่างสิ้นเชิง
เก้าตระกูลใหญ่นั้นต่างคนต่างอยู่ แต่ก็ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ
โดยเฉพาะรุ่นหลังๆ ที่มักจะคบหากันเป็นกลุ่มๆ อยู่แล้ว
เจียงเฉานั้นชอบหลงเจียเจียมานานแล้ว ถึงนี่จะเป็นพิธีบรรลุนิติภาวะของหลงเจียเจีย เขาก็ขอเสนอตัวเองให้เป็นตัวแทนของตระกูลเจียงเพื่อมาร่วมงาน
ชายหน้าเหลี่ยมยิ้มๆ “ลำบากเธอแล้ว ถ้าเจียเจียรู้ จะต้องดีใจมากแน่ๆ”
เขาคนนี้ก็คือหลงเฟยกั๋ว เป็นพ่อของหลงเจียเจีย
วันนี้เป็นพิธีบรรลุนิติภาวะครบรอบสิบแปดปีของลูกสาว จึงต้องจัดงานให้มันครึกครื้นแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเสนอตัวเอง มาควบคุมดูแลเรื่องการคัดกรองแขกที่มาร่วมงาน แล้วทำให้พวกผู้บุกรุกที่ไม่หวังดีพวกนั้นให้ได้รับโทษอย่างหนัก!
หลังทักทายกันเสร็จ รอยยิ้มบนใบหน้าของหลงเฟยกั๋วก็ได้หายไป สีหน้าดูเคร่งขรึมขึ้นมา
เขามองไปที่ถังเฉา จากนั้นก็ขมวดคิ้วทันที
นี่คือใบหน้าที่ของคนแปลกหน้า เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“คุณเองก็มาร่วมงานพิธีบรรลุนิติภาวะของเจียเจียด้วยใช่มั้ย?”
ถังเฉาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบไปว่า “ประมารนั้น แต่หลักๆ ก็เพื่อมาเยี่ยมคุณท่าน เลยถือโอกาสมาหาเจียเจียด้วยเลย”
ว่าไงนะ?
มาหาพ่ออย่างนั้นเหรอ?
สีหน้าของหลงเฟยกั๋วเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็รู้สึกว่าถังเฉานั้นน่าสงสัยยิ่งกว่าเดิม
ตั้งแต่ที่พ่อลงจากตำแหน่งเจ้ามังกร แล้วมอบตำแหน่งให้ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีความสามารถอย่างน่าตกใจแล้ว เขาก็ไม่ค่อยได้สนใจโลกภายนอกอีก
แขกที่มาทุกคน ต่างก็ถูกปฏิเสธจนหมดสิ้น แล้วจะไปยอมพบชายที่อายุน้อยขนาดนี้ได้ยังไง
“มีบัตรเชิญมั้ย?”
หลงเฟยกั๋วถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มีครับ”
ถังเฉาตอบไปอย่างสบายๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นงานพิธีบรรลุนิติภาวะของหลงเจียเจีย จึงไม่มีทางที่จะมีบัตรเชิญอยู่แล้ว
เจียงเฉาที่อยู่ข้างๆ แทบจะหัวเราะออกมาแล้ว เขารู้อยู่แล้วว่าถังเฉานั้นไม่มีบัตรเชิญ
ตอนที่กำลังจะพูดเยาะเย้ยอยู่นั้น ก็ได้ยินถังเฉาพูดออกมาว่า “แต่ผมไม่ต้องใช้บัตร ผมมีสิทธิพิเศษที่สามารถเข้าไปได้เลย”
“……”
พอสิ้นสุดคำพูด เจียงเฉาก็อึ้งไปทันที
มันมีสิทธิพิเศษ? ไม่ต้องใช้บัตรเชิญ?
หลงเฟยกั๋วก็อึ้งไปเหมือนกัน และมองถังเฉาด้วยสีหน้าที่แปลกใจมากกว่าเดิม
“คุณลุงหลง มีกฎแบบนี้อยู่ด้วยเหรอครับ?”
เจียงเฉาไม่เข้าใจกฎของตระกูลหลง จึงได้เอ่ยถามหลงเฟยกั๋วไป
หลงเฟยกั๋วพยักหน้า “มันมีกฎที่ไม่ต้องใช้บัตรเชิญก็สามารถเข้าไปได้อยู่จริง แต่นั่นมันสำหรับแขกคนสำคัญของตระกูลหลงเท่านั้น และถูกบันทึกไว้ในรายชื่อหมดแล้ว”
พอได้ยินแบบนั้น เจียงเฉาก็เข้าใจขึ้นมาและสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นการดูถูกทันที “มันใช่แขกคนสำคัญซะที่ไหน! คุณลุงหลงดูสิครับว่ามันเหมือนแขกคนสำคัญมั้ย?”
หลงเฟยกั๋วพิจารณาถังเฉาอีกครั้ง การแต่งกายที่ธรรมดา อย่าว่าแต่แขกคนสำคัญเลย แม้แต่คนมีเงินยังดุไม่เหมือนสักนิด!“เป็นผู้บุกรุกที่ต้องการแอบย่องเข้าไปร่วมงานอย่างไม่ต้องสงสัย!”“ไม่รู้ว่ามันไปได้ข้อมูลนี้มาจากไหน ถึงขั้นรู้ว่าไม่ต้องใช้บัตรเชิญก็สามารถเข้างานได้!”เจียงเฉาหัวเราะออกมาอย่างสะใจส่วนหลงเฟยกั๋วก็พูดตรงยิ่งกว่า “ฉันว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลหลงมีเรื่องที่ไม่ต้องใช้บัตรเชิญก็สามารถเข้างานได้ น่าจะแค่แถออกมาเมื่อกี้เท่านั้นแหละ!”ระหว่างที่ฟังทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่นั้น ถังเฉาก็ทำหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ดุหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนตอนที่เขาเข้าร่วม ตระกูลหลงแห่งตระกูลหลวงก็ไม่ต่างอะไรกับสวนหลังบ้านที่สามารถเดินเล่นอย่างตามใจชอบแต่สิ่งเหล่านี้ กับคนอย่างพวกหลงเฟยกั๋วที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของตระกูลได้ จึงไม่มีทางรู้แน่นอน!พวกเขาไม่เคยคิดมากก่อนเลยว่า ถังเฉาก็เป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง“คุณลุงหลง หลักฐานก็ชัดเจนอยู่แล้ว รีบจับมันไว้เลยครับ!”เจียงเฉาพูดกับหลงเฟยกั๋วด้วยความร้อนใจหลงเฟยกั๋วพยักหน้า จากนั้นก็พูดกับถังเฉาไปว่า “แกมันน่าสงสัยมาก ช่วยไปกับเราหน่อยนะ”ด้วยความที่กลัวว่าถังเฉาจะขัดขืน หลงเฟยกั๋วจึงทำหน้าจริงจังขึ้นมานิดหนึ่ง “อย่าคิดที่จะหนี ถ้าไม่มีความผิด เราก็จะปล่อยแกไปเอง”พอได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงเฉาก็เด่นชัดยิ่งกว่าเดิมไอ้หมอนี่ไม่เพียงเยาะเย้ยเขาที่จอดรอดไม่เป็น ยังมาขัดขวางไม่ให้เขาสั่งสอนคนขับรถแท็กซี่นั่นอีกในเมื่ออยากที่จะรับเคราะห์แทนแบบนี้ งั้นก็ต้องสงเคราะห์ให้มันหน่อย ให้มันไปนอนในตารางสักพัก!ถังเฉาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เขาแค่มองหน้าหลงเฟยกั๋วแล้วพูดไปว่า “ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมเชื่อผม ผมเองก็จนปัญญา แต่คุณควรจะรู้ไว้อย่างหนึ่ง ลูกพี่ลูกน้องของคุณ หลงเฟยหยู่นั้นไม่ได้กลับมาตั้งนานแล้ว”
copy right hot novel pub