โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 799 กิจกรรมงานก่อตั้งโรงเรียน

ฟ้าววว!

สนามบินหมิงจู เครื่องบินลำหนึ่งค่อย ๆ ลงจอด

นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่แห่กันออกมา ชายหนึ่งหญิงหนึ่งในนั้นเดินอยู่หลังสุดของกลุ่มคนนั้น จังหวะฝีเท้าว่องไว ดูเหมือนจะเสพสุขกับการเดินทางกลับเมืองหมิงจูมาก ๆ

ผู้หญิงถอดแว่นกันแดดออก มองผู้ชายอย่างไม่พอใจอยู่บ้างครั้งหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่เชื่อถือว่า “ทำไมต้องเป็นฉันที่กลับเมืองหมิงจูเป็นเพื่อนนายด้วย?”

ถังเฉาปล่อยให้แว่นกันแดดที่อยู่บนดั้งจมูกลื่นไหลลงมาเล็กน้อย มองหลินฉ่ายเวยพลางเอ่ยว่า “เธอไม่ยินดี?”

“ไม่ใช่ไม่ยินดี แต่ว่าไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะมาเยี่ยนจิง อยู่ด้วยกันทั้งครอบครัว เตียงยังไม่ทันอุ่นนายก็แกล้งตายซะแล้ว ยังต้องไปหลบความสนใจที่เมืองหมิงจูอีก...”

หลินฉ่ายเวยเอ่ยอย่างเป็นทุกข์

ได้ยินอย่างนั้น ถังเฉาก็หัวเราะออกมา “นี่เป็นการคิดเพื่อสถานการณ์โดยรวมทั้งนั้น ถ้าหากฉันไม่ไป ถูกอิทธิพลของตระกูลหลวงในเยี่ยนจิงค้นพบเข้า จะต้องจบเห่ตอนท้ายแน่”

หลินฉ่ายเวยไม่รู้ว่าถังเฉาคิดจะทำอะไร แต่เธอรู้ว่า ถ้าหากเรื่องที่ถังเฉาแกล้งตายถูกคนของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูพบเข้า เช่นนั้นแผนการจะต้องถูกเปิดโปงแน่

คิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็ออกเสียงเอ่ยว่า “ฉันยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่ออยู่นิดหน่อย ทำไมนายถึงได้มีชีวิตอยู่ภายใต้อุณหภูมิติดลบยี่สิบองศาได้กันนะ?”

“เธอลืมไปแล้วหรือว่าฉันเป็นผู้ชำนาญด้านการต่อสู้? เธอไม่เข้าใจในเรื่องนี้ ไม่เข้าใจในสิ่งนี้”

หลินฉ่ายเวยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา การมีชีวิตอยู่นี้ถึงแม้จะพูดอย่างสบาย ๆ แต่เธอก็เข้าใจแจ่มแจ้งดีว่านั่นเป็นถึงอุณหภูมิติดลบยี่สิบองศาเชียวนะ ต่อให้เป็นผู้ชำนาญด้านการบู๊อีกก็เถอะ ก็จะต้องมีสภาพเหมือนเฉียดความตายมาแน่ ๆ

“นายกลับเมืองหมิงจูครั้งนี้ตั้งใจจะอยู่กี่วัน?”

เธอเอ่ยถามอีก

“อย่างนานก็หนึ่งสัปดาห์ อย่างสั้นก็สองสามวัน...”

ถังเฉาให้คำตอบที่คลุมเครือ ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างฉับพลัน

พอมองดูชื่อที่ปรากฏที่หน้าจอ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเข้มงวดในทันที ทำท่าทางให้หลินฉ่ายเวยเงียบเสียง จากนั้นก็เริ่มรับสาย

เป็นสายที่ท่านเจ้ามังกรโทรมา

เขาพูดเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในฐานทัพกองทัพปราณมังกรรอบหนึ่ง

พูดจบ ถังเฉาก็หัวเราะ “ถูกฉันทายถูกจริง ๆ เสียด้วย”

“แล้วต่อไปนายคิดจะทำอย่างไร?”

หลงไป่ชวนเอ่ยถาม “ในเมื่อตอนนี้ฉันปลดเกษียณแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะบัญชาการกองทัพปราณมังกรด้วยตัวเองได้ตลอด ก็ต้องกลับตระกูลหลง”

ถังเฉาไตร่ตรองอยู่นาน เอ่ยว่า “ยังไม่ต้องรีบหรอกครับ เราวางแผนขึ้นมาได้ ถ้าหากค้างคาวอยากจะทำลายกองทัพปราณมังกรก็จำเป็นจะต้องได้รับคำสั่งล้มเลิก พวกเราคอยก่อกวนอยู่ตรงนี้ก็พอแล้วล่ะครับ”

ถังเฉาวางสายอย่างรวดเร็ว หลินฉ่ายเวยที่อยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างชัดเจน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“กองทัพปราณมังกร... นายเป็นทหารอยู่ในกองทัพปราณมังกร?”

เธอโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ถังเฉากำลังคิดว่าความพัวพันนี้ผ่านมานานแล้ว ควรจะให้เธอได้รู้แล้ว ดังนั้นจึงพยักหน้า

ทันใดนั้นใบหน้าของหลินฉ่ายเวยก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทันใดนั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีอย่างคาดไม่ถึง

เมื่อก่อนเธอรู้แต่เพียงว่าที่ถังเฉาหายไปห้าปีคือไปเป็นทหาร นึกไม่ถึงว่าจะไปเป็นทหารที่กองทัพปราณมังกร

“อย่างนั้นตอนนั้นที่นายพูดว่าเกี่ยวข้องกับคดีความระหว่างประเทศคดีหนึ่งนั่น...”

หลินฉ่ายเวยกำลังจะพูดแล้วก็หยุดอีกครั้ง

ถังเฉาห่างหายไปห้าปี ช่วงที่กลับมาตระกูลหลินใหม่อีกครั้ง พบกับซ่งหมิงเวย จะให้เขาลงมือ กลับถูกผู้หญิงชุดดำลึกลับคนหนึ่งขวางเอาไว้

ตอนนั้นญาติ ๆ ในบ้านล้วนแต่เอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้น คำตอบของถังเฉาคือเกี่ยวข้องกับคดีความระหว่างประเทศคดีหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ปกป้องเขา

คำตอบของถังเฉาไม่ผิด

“นั่นเป็นลูกน้องของฉันจริง ๆ”

ถังเฉาเอ่ยยิ้ม ๆ

ด้วยเหตุนี้ หลินฉ่ายเวยจึงคลั่งไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความสั่นสะเทือน

ในใจนอกจากความตื่นเต้นแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมีความเสียดายเล็ก ๆ

ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ชายคนนี้ก็อยู่ในฐานะสูงสุดที่เพียงพอจะให้พวกเขาแหงนคอมอง แต่พวกเขาก็ยังคงเห็นเขาเป็นคนต่ำต้อย

“ทั้งหมดนั้นผ่านไปแล้ว ไม่ใช่หรือ?”

ดูเหมือนถังเฉาจะมองทะลุความคิดในใจของหลินฉ่ายเวยอย่างทะลุปรุโปร่ง เผชิญหน้ากับแสงสว่าง ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น

หลินฉ่ายเวยได้ยินก็มึนงงไป จากนั้นก็ผุดรอยยิ้มขึ้นเหมือนกับโดนแพร่เชื้อ

“ไปกันเถอะ เดินไปให้ทั่ว”

สำหรับทั้งสองคนแล้ว เมืองหมิงจูเป็นเมืองที่พวกเขาผูกพันเป็นพิเศษ

สำหรับหลินฉ่ายเวย นั่นคือบ้านเก่าของเธอ

เธอเป็นคนเมืองหมิงจู

แต่สำหรับถังเฉาแล้ว นั่นเป็นเมืองที่ให้กำเนิดเขา เลี้ยงดูเขา มีความรักและความแค้น

มนุษย์เอ๋ย สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านเกิด ถึงจะสามารถหาเจอว่าความหมายของการมีชีวิตอยู่คืออะไร

พอถึงตอนบ่าย ทั้งสองคนไม่ได้ไปโรงแรม แต่กลับไปดูยังอนุสรณ์ที่มีความหมายมากมาย

อย่างเช่นโรงเรียนมัธยมของพวกเขา รวมถึงที่ที่พวกเขาเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ

ยืมเวลาช่วงนี้ที่เขาแกล้งตาย ถังเฉาสามารถผ่อนคลายได้สักพัก

สถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นสถานที่ที่เขากับหลินฉ่ายเวยทั้งสองคนมีความทรงจำร่วมกัน

เมื่อก่อนพวกเขาเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมเดียวกัน ถึงขั้นอยู่ห้องเดียวกัน

ความทรงความทรงจำในตอนวัยรุ่นนั้นจึงจะเป็นความทรงจำที่คุ้มค่าที่จะจารึกที่สุด

“ผ่านมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว โรงเรียนมัธยมที่สองยังเป็นอย่างนี้อยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก”

หลินฉ่ายเวยยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนมัธยมที่สอง มองโครงสร้างด้านใน พูดอย่างปลง ๆ

ถังเฉายิ้ม “ไม่เคยบูรณะ แต่บุคลากรครูข้างในกลับค่อย ๆ ไปแล้วหลายรุ่น ตอนนี้ดูเหมือนจะเหลือแค่ครูใหญ่คนเก่าแล้วล่ะ”

ที่ประตูของโรงเรียนมัธยมที่สองมีหินก้อนใหญ่ที่ให้ความรู้สึกของยุคสมัยก้อนหนึ่งตั้งอยู่ ด้านบนเขียนตัวอักษร ‘โรงเรียนร้อยปี’ ไว้สี่ตัว

ด้านล่างเป็นชื่อคนแน่นขนัด ล้วนแต่เป็นครูใหญ่ในอดีต

ชื่อหนึ่งด้านล่างสุดก็คืออดีตครูใหญ่ที่รับตำแหน่งในรุ่นของถังเฉากับหลินฉ่ายเวย

หวังหยาง

นี่คือของของเขา

เพราะท่าทีของตระกูลหลิน ถังเฉาจึงไม่ได้รับการตอบรับจากในโรงเรียนสักเท่าใดนัก ครูใหญ่หวังช่วยเหลือเขาเอาไว้เยอะ

ในที่สุดแล้วโลกใบนี้ก็มีคนดีอยู่เยอะ

“ไปกันเถอะ เข้าไปดูสักหน่อย”

ถังเฉาพูดกับหลินฉ่ายเวยยิ้ม ๆ

หลินฉ่ายเวยหยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองคนก้าวช้า ๆ ไปในสวนหย่อมใบเมเปิ้ลที่มีชื่อเสียงที่สุด

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกงงงวยก็คือ เมื่อก่อนมีนักเรียนมากมายรวมถึงนักท่องเที่ยวที่ได้ยินชื่อเสียงก็มาที่นี่ แต่วันนี้กลับเงียบเชียบเป็นอย่างมาก ไม่มีใครเดินไปเดินมาโดยสิ้นเชิง

กลุ่มคนรวมตัวกันทั้งหมดที่สนามกีฬา ได้ยินเสียงดนตรีได้อย่างเลือนราง

“ดูเหมือนวันนี้โรงเรียนจะจัดกิจกรรมอะไรสักอย่างนะ”

ถังเฉามองไปตามเสียง เห็นเพียงคนไปรวมตัวกันอย่างหนาแน่นที่สนามกีฬา ดูเหมือนจะจัดพิธีอะไรที่ยิ่งใหญ่อยู่

ฮึ่ม ๆ ๆ!

ในตอนนี้เอง ตรงประตูโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลก็มีรถยนต์หรูที่มีมูลค่าไม่น้อยหลายคันขับเข้ามาอย่างฉับพลัน ไลน์ดริฟต์ที่สวยงาม รถยนต์ค่อย ๆ จอดอยู่ในโรงจอดรถอย่างมั่นคง

รถยนต์เหล่านี้มีรถสปอร์ต และมีรถอเนกประสงค์ แต่ก็มีจุดร่วมที่เหมือนกันนั่นก็คือมีชื่อเสียงและล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง แค่มองดูก็รู้ว่าต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จึงจะขับรถพวกนี้ได้

ประตูรถเปิดออก ชายหญิงที่สวมชุดแวววาว สวมเครื่องประดับราคาแพงหลายคนเดินลงมา บ้างก็พูดบ้างก็ยิ้ม

พวกเขาเดินเข้าไปในสวมหย่อมใบเมเปิ้ล หัวข้อสนทนาไม่ใช่หุ้นก็เป็นธุรกิจ

“ที่แท้พวกเธอก็ได้รับเชิญเหมือนกันหรือ? ดีจริง ๆ ฉันยังคิดว่าคนที่ได้รับเชิญมีไม่มากเสียอีก?”

“ฮ่า ๆ นี่หมายความว่าอย่างไร ก็หมายความว่ารุ่นที่พวกเราจบมานั้นไปได้ดี! ได้ดีกว่าคนอื่นอยู่มากโข สามารถใช้โฆษณาให้กับโรงเรียนได้ดีมาก!”

“ไปกัน ๆ ปาฐกถาใกล้จะเริ่มแล้ว”

“...”

พวกเขามีทั้งที่พูดกันและหัวเราะกันเดินเข้ามา ตอนที่กำลังจะเร่งจังหวะฝีเท้าเร่งไปทางสนามกีฬานั้น ทันใดนั้นก็มองเห็นถังเฉากับหลินฉ่ายเวยที่อยู่ข้างหน้า ก็อึ้งไปในทันใด

“พวกเธอคือ.copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์