วินาทีต่อมา รูปร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง ปรากฏขึ้นกลางสายตาของหยางเฉิน
“เป็นแกนี่เอง!”
จ้องมองอีกฝ่าย ภายในดวงตาของหยางเฉินปรากฏเจตนาสังหารขึ้นแวบหนึ่ง
คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่ เกิ่งจินฮวา
เกิ่งจินฮวาจดจ้องหยางเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารกล่าว: “เจ้าหนุ่ม ส่งมอบวิชาการบำเพ็ญเพียรของแกออกมา ฉันจะเหลือศพที่ครบสามสิบสองไว้ให้แก!”
ภายในดวงตาของหยางเฉินส่องประกายเย็นชา จดจ้องอีกฝ่ายอย่างเย็นชากล่าว: “ต่อให้แกได้วิชาบำเพ็ญเพียรของฉันไปแล้ว ก็ไม่สามารถบำเพ็ญเพียรได้”
เส้นทางที่เขาเดินคือการฝึกเซียน วิชาที่ฝึกย่อมเป็นวิชาฝึกเซียน
ที่โลกบู๊โบราณ มีเพียงสองวิถีทางการบำเพ็ญเพียรเท่านั้น อย่างแรกคือบำเพ็ญเพียรวิถีบู๊ อีกอย่างคือฝึกเซียน วิชาทั้งสองวิถีทางไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าต้องการบำเพ็ญเพียรวิชาฝึกเซียนสำเร็จ ไม่เพียงมีข้อกำหนดของพื้นฐานสุขภาพและการหมุนเวียนเลือดของร่างกายที่สูงมาก ข้อกำหนดต่อพรสวรรค์ด้านบูโดยิ่งสูงกว่า
สามารถพูดได้ว่า ไม่ว่าผู้ฝึกเซียนคนใด ล้วนจะต้องมีพรสวรรค์ด้านบูโดที่โดดเด่น
“แกรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่สามารถบำเพ็ญเพียรได้?”
เกิ่งจินฮวาตะคอกด้วยความโกรธ ความกดดันพลังบู๊ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมกลุ่มหนึ่ง ปล่อยออกมาจากบนตัวของเขา
ในเวลานี้ หยางเฉินรู้สึกเพียงภูเขาขนาดใหญ่กดทับบนตัวของตนเองอยู่ จะบดขยี้กระดูกทั่วทั้งตัวของเขาให้แตกละเอียด
ถึงแม้ว่าเขาจะบุกทะลวงไปถึงระยะรวมยาแล้ว กำลังบูโดเทียบเคียงได้กับนักบูโดแดนนภาขั้นห้าและแดนนภาขั้นหก แต่เนื่องจากเขาเพิ่งบุกทะลวง ถึงได้มีกำลังใกล้เคียงกับแดนนภาขั้นหกชั้นกลาง ก็เป็นการฝืนกฎขิตสวรรค์ค่อนข้างมากแล้ว
แต่เกิ่งจินฮวา กลับเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหกชั้นยอดที่แท้จริง
หยางเฉินต่อให้พยายามสู้จนตายสักครั้ง แล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
ทันใดนั้น หยางเฉินก็ตกอยู่ในสภาพอับจนหนทาง
ให้เขามอบวิชาฝึกเซียนออกไป นี่เป็นไปไม่ได้!
แต่ถ้าหากไม่มอบวิชาออกไป เกิ่งจินฮวาก็จะฆ่าเขาอยู่ดี
“อยากจะให้ฉันมอบวิชาบำเพ็ญเพียร เป็นไปไม่ได้!”
ทันใดนั้น หยางเฉินเอ่ยปากกล่าว ในขณะเดียวกัน เขาก็เริ่มโคจรตำราเทพสงคราม ลมปราณที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง ปะทุจากบนตัวเขา
ในขณะเดียวกัน วิชาลับเชียนเสวียนก็ถูกเขาเปิดใช้งานเช่นกัน ยังมีพลังสายเลือดของสามสายเลือดเทพที่ยิ่งใหญ่ที่ดูดซับมาอีกด้วย กำลังส่งเสียงคำรามอยู่ในร่างกายของเขา
ทันใดนั้น เขานำทุกวิถีทางที่สามารถเพิ่มกำลังได้ใช้ออกมาทั้งหมด
“ตูม!”
พลังอำนาจที่บ้าคลั่งกลุ่มหนึ่ง ปะทุออกมาจากบนตัวของเขาทันที เหมือนกับจะทำให้ร่างกายของเขาระเบิดออก
“หืม?”
เกิ่งจินฮวาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาทั้งสองข้างจดจ้องหยางเฉินอย่างไม่ละสายตา กัดฟันกล่าว: “นึกไม่ถึงว่าแกจะสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ออกมาได้ ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหกชั้นปลายปกติทั่วไป เกรงว่าแกก็คงจะต่อสู้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น!”
“แต่ว่า นี่แล้วจะยังไง? ตอนนี้คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน ฉันถูกแช่อยู่ที่แดนนภาขั้นหกชั้นยอดมาหลายสิบปีแล้ว ห่างจากแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้นเพียงแค่ครึ่งก้าว ก็แค่อีกก้าวเดียวเท่านั้น”
“ถ้าหากแกไม่ยอมมอบวิชาบำเพ็ญเพียรออกมา วันนี้แกจะต้องตายที่นี่!”
ในดวงตาของเกิ่งจินฮวาเต็มไปด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรง ความแข็งแกร่งของหยางเฉิน ทำให้ในใจของเขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของโลกบู๊โบราณกลาง ยังไม่เคยเจอคนหนุ่ม ที่มีกำลังทัดเทียมนักบูโดแดนนภาขั้นหกชั้นปลาย
ถ้าหากไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง เขาไม่มีทางเชื่ออย่างเด็กขาด ว่าในใต้หล้านี้จะมีคนหนุ่มที่น่ากลัวขนาดนี้อยู่
ต้องเข้าใจว่า ก่อนหน้านี้ หยางเฉินยังมีกำลังแค่เพียงแดนนภาขั้นห้าชั้นปลายเท่านั้น
แต่ใครจะคิดว่า หลังจากที่เขาบุกทะลวง จะมีพลังแดนนภาขั้นหกชั้นปลายทันที
ถ้าหากให้เวลาเขาได้เติบโตต่อไป ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาชั้นปลายหรอกเหรอ?
ถึงเวลานั้น หยางเฉินจะฆ่าเขา เกรงว่าแค่ขยับมือก็ทำได้สำเร็จแล้ว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เจตนาสังหารภายในใจของเกิ่งจินฮวาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น วันนี้ต่อให้มีราคาที่ต้องจ่ายสูงแค่ไหน ก็จำต้องฆ่าหยางเฉินทิ้งเสีย
ในเวลานี้ ในดวงตาของหยางเฉินเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้ที่บ้างคลั่ง จดจ้องเกิ่งจินฮวาตาไม่กะพริบกล่าว: “หยุดพูดไร้สาระ ในเมื่ออยากสู้ ถ้าอย่างนั้นก็สู้! ฉันก็อยากจะลองดู ว่าแกผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่ จะเก่งกาจแค่ไหนกันเชียว”
ถ้าหากแม้แต่เกิ่งจินฮวายังยับยั้งเอาไว้ไม่ได้ พรุ่งนี้ไปที่สำนักเหอฮวน แล้วจะช่วยฉินซีออกมาได้ยังไง?
นี่ก็คือเหตุผลที่เขาเลือกที่จะต่อสู้ดูสักครั้ง
ต่อให้กำลังของตัวเองยังไม่มากพอที่จะยับยั้งเกิ่งจินฮวา แต่เขาก็ยังอยากจะสู้ดูสักครั้ง มีเพียงความเป็นความตายในการต่อสู้เท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้กำลังของตนพัฒนาได้เร็วมากขึ้น
“ในเมื่อแกวอนหาที่ตายมาก ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้แกได้สมความปรารถนา!”
เกิ่งจินฮวากล่าวเสียงเย็นชา ถึงแม้อยากจะได้วิชาฝึกเซียนของหยางเฉินตาเป็นมัน แต่ว่าหลังจากที่ได้ประสบกับความแข็งแกร่งของหยางเฉิน เขายอมที่จะละทิ้งวิชาฝึกเซียน ก็ต้องฆ่าหยางเฉิน
ทันทีหลังจากที่พูดจบ พลังอำนาจที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่ง ปะทุออกมาจากบนตัวเขา
“ตูม!”
เพียงแค่ทันทีที่เขาก้าวเท้า ร่างกายก็กลายเป็นภาพติดตา พุ่งตรงไปทางหยางเฉินทันที
ในตอนนี้ หยางเฉินรู้สึกว่าขนทั้งตัวลุกตั้งชันขึ้นมา แทบจะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้า ยกมือขึ้นก็ปล่อยหมัดออกมาทันที
“เปรี้ยง!”
วินาทีต่อมา เงาร่างหนึ่งก็ลอยกระเด็นขึ้นไปกลางอากาศ
คนที่ถูกต่อยกระเด็นไม่ใช่ใครอื่น ก็คือหยางเฉิน
ทรวงอกของหยางเฉินถูกเกิ่งจินฮวาโจมตีเข้าเป้าอย่างรุนแรง เลือดกระเด็นออกจากปาก ใบหน้าซีดขาว
“เจ้าหนุ่ม ฉันจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้ายอีกครั้ง มอบวิชาฝึกเซียนของแกออกมา ฉันจะเหลือศพที่สมบูรณ์ของแกเอาไว้!”
เกิ่งจินฮวาก้มมองลงไปที่หยางเฉิน ไม่ได้เห็นหยางเฉินอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
หยางเฉินลุกขึ้นจากพื้น มุมปากโค้งขึ้นอย่างหยอกเย้า จ้องเกิ่งจินฮวากล่าว: “อยากจะได้วิชาฝึกเซียนของฉัน อาศัยกำลังอันน้อยนิดนี้ พอเหรอ?”
“หืม?”
หว่างคิ้วของเกิ่งจินฮวาขมวดเข้าหากัน ได้ยินความหมายของหยางเฉิน ยังแข็งแกร่งกว่านี้ได้อีก?
นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
อายุไม่ถึงสามสิบปี ก็มีกำลังเทียบเคียงกับแดนนภาขั้นหกชั้นปลาย ถ้าหากเขามีกำลังแดนนภาขั้นหกชั้นยอดแล้วจริงๆ......
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เกิ่งจินฮวา รีบส่ายหน้า สะบัดความคิดที่เป็นไปไม่ได้นี้ทิ้งไป
“ฮึ่!”
เกิ่งจินฮวากล่าวเสียงเย็นชา: “ก็แค่วางมาดใหญ่โตเพื่อตบตาผู้คนเท่านั้น คิดว่าตนเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของโลกบู๊โบราณกลางจริงๆ?”
มุมริมฝีปากของหยางเฉินมีเลือดสดไหลออกมา มุมโค้งที่ยกขึ้นในเวลานี้ ดูแปลกประหลาดผิดปกติ
“เป็นการวางมาดใหญ่โตเพื่อตบตาผู้คนหรือไม่ อีกไม่ช้าแกก็จะได้รู้แล้ว”
ทันทีที่หยางเฉินพูดจบ ก็เห็นว่าดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ ในเวลาเดียวกัน ลมปราณที่ทำให้ผู้คนหวาดหวั่นกลุ่มหนึ่ง ไหลตลบอบอวลออกมาจากบนตัวเขา
สีแดงก่ำในดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ พลังอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาจากบนตัวเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
“อะไรกัน?”
เกิ่งจินฮวาเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เนื่องจาก พลังอำนาจบนตัวของหยางเฉินกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินขบกรามแน่น หลังจากพยายามเผาไหม้พลังสายเลือด เขาส่งพลังอันน่ากลัวเข้าไปยังอวัยภายใน รวมทั้งร่างกายทุกส่วน
เขามีความรู้สึกบางอย่าง ร่างกายของตนเกือบจะถูกพลังงานที่แข็งแกร่งกลุ่มนั้นบดขยี้แล้ว แต่เขายังคงกัดฟันทน พยายามเติมพลังงานอย่างต่อเนื่อง
ตอนก่อนหน้าที่เขาจะไปที่สำนักเทียนไห่ เคยผ่านลิขิตสวรรค์ตอนเข้าสู่ระยะรวมยา ทนรับลิขิตสวรรค์สีทองเก้าร้อยเก้าสิบเก้าสายมาแล้ว ร่างกายได้รับการขัดเกลาแล้ว ไม่อย่างนั้น คงไม่สามารถทนรับพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเผาไหม้พลังสายเลือด
การเผาไหม้พลังสายเลือด เป็นวิชาประหลาดที่เขาได้รับตอนอยู่ที่หอไตรของประมุขโลกแห่งโลกบู๊โบราณกลาง จากการเผาไหม้พลังสายเลือดของตนเอง เพื่อรับพลังที่เกินจากร่างกายของตน
วิธีการที่ผิดธรรมชาติประเภทนี้ ประมุขโลกเจียงกล่าวว่า นี่คือวิชาที่สืบทอดมาจากแดนปีศาจ
ในเวลานี้ ดวงตาทั้งสองข้างของหยางเฉินแดงก่ำ เส้นผมสีดำค่อยๆเคลือบด้วยสีม่วง ทั่วทั้งตัวมีอานุภาพมารลอยกรุ่น ราวกับว่าเป็นพญามารที่มาจากส่วนลึกของอเวจีมาร ทำให้คนเห็นก็เกิดความหวาดกลัว
copy right hot novel pub