โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

The king of War

บทที่ 2259 การมาถึงของเจ้าสำนัก

“แกเป็นผู้ฝึกมาร!”

เมื่อรู้สึกถึงพลังอำนาจที่แข็งแกร่งที่แผ่ซ่านออกมาจากบนตัวของหยางเฉินอย่างต่อเนื่อง เกิ่งจินฮวากล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

ภายในความตื่นตะลึงของเขา ยังมีความหวาดกลัวที่รุนแรงอีกด้วย

เนื่องจากพลังอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาจากบนตัวของหยางเฉิน ยังคงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อครู่นี้ ลมปราญบนตัวของหยางเฉิน ได้บรรลุถึงระดับแดนนภาขั้นหกชั้นปลายแล้ว แต่ตอนนี้ ได้มาถึงแดนนภาขั้นหกชั้นยอดแล้ว

สิ่งที่สำคัญคือ กำลังของหยางเฉินหลังจากที่บรรลุถึงแดนนภาขั้นหกชั้นยอด ก็ยังคงอยู่ในท่าทีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“แกใช้วิธีการอะไรกันแน่?”

เกิ่งจินฮวาซักถามด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น

เขาไม่สามารถยอมรับได้ คนวัยรุ่นที่อายุไม่ถึงสามสิบปีคนหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะมีกำลังที่ทัดเทียมกับเขา

เพียงแต่ หยางเฉินในเวลานี้ไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด ในดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ พลังอำนาจที่แผ่ซ่านออกมานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง

อานุภาพมารลอยกรุ่นไปทั่วตัว ราวกับพญามารที่แท้จริงคนหนึ่ง

“ฉันจำเป็นต้องฆ่าแกให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นรอให้กำลังของเขาแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นกว่านี้ คิดอยากจะเขา ก็จะยิ่งยากกว่าเดิมแล้ว”

ภายในดวงตาของเกิ่งจินฮวาปรากฏเจตนาฆ่าขึ้น เหยียบลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายมุ่งหน้าไปยังหยางเฉิน

“แกไปตายซะ!”

แทบจะในทันทีทันใด เขาก็พุ่งไปตรงด้านหน้าของหยางเฉิน ยกมือขึ้นก็ปล่อยหมัดออกไป ระเบิดพลังทั้งหมดทันที และตกลงไปอย่างรุนแรง

“เปรี้ยง!”

เกิ่งจินฮวาโจมตีไปที่ทรวงอกของหยางเฉินหมัดหนึ่ง เกิดแรงปะทะที่น่าอัดแน่น

“อะไรกัน?”

เกิ่งจินฮวาดวงตาแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”

เกิ่งจินฮวากล่าวด้วยความตื่นตะลึง: “ความแข็งแกร่งของร่างกายแก ทำไมถึงได้แข็งแกร่งถึงขั้นนี้? แม้แต่หมัดระเบิดของฉัน ก็ทำลายการป้องกันของแกได้?”

หมัดระเบิดเป็นฝีมือที่มีชื่อเสียงของเขา อานุภาพร้ายแรง ในแดนเดียวกัน แทบจะมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทนต่อหมัดนี้ของเขาได้โดยไม่ขยับเขยื้อน

แต่หยางเฉินไม่เพียงใช้ร่างกายทนรับต่อหมัดนี้ของเขาเอาไว้ได้ ยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

“ฉันไม่เชื่อ!”

เกิ่งจินฮวาเปลี่ยนเป็นพาลโกรธทันที ขบกรามแน่นกล่าว: “เศษสวะที่มาจากโลกมนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง ก็คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน? ตายซะเถอะ!”

“เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!”

เกิ่งจินฮวาเหมือนกับบ้าไปแล้ว รัวกำปั้นลงไปบนทรวงอกของหยางเฉินนับครั้งไม่ถ้วน อีกทั้งกำลังยังมากขึ้นในแต่ละหมัด

แต่ว่า หยางเฉินเพียงแค่ร่างกายถอยหลังไปแค่ห้าหกก้าวเท่านั้นขจ ยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นเดิม อีกทั้งพลังอำนาจบนร่างกาย ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้นเกิ่งจินฮวามีความรู้สึกผิดปกติบางอย่าง คนที่ตนเองเผชิญหน้าด้วยไม่ใช่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มาจากโลกมนุษย์ แต่เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของโลกบู๊โบราณกลาง

ในเวลานี้ พื้นดินที่อยู่ใต้เท้าของหยางเฉิน ได้ล่มสลายไปนานแล้ว รอยแยกแต่ละเส้นมีขนาดเท่าแขน แผ่ขยายไปทั่วทุกสารทิศอย่างต่อเนื่อง

ในเวลานี้เอง พลังอำนาจบนตัวของหยางเฉินในที่สุดก็หยุดเพิ่มขึ้นแล้ว

ดวงตาสีดำทั้งสองข้างของเขา จดจ้องเกิ่งจินฮวาเขม็ง

เวลานี้ เกิ่งจินฮวารู้สึกเพียงแค่ทั่วทั้งร่างกายของเขาหนาวเหน็บเข้ากระดูก เหมือนกับถูกเทพมรณะจดจ้อง ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย

หยางเฉินกล่าวเสียงเย็นชา: “แกต่อยพอแล้วใช่ไหม? ตอนนี้ ถึงตาของฉันบ้างแล้ว!”

ทันทีที่เสียงพูดจบลง เกิ่งจินฮวาก็พบว่าหยางเฉินหายตัวไปจากที่เดิมแล้ว

“เปรี้ยง!”

วินาทีต่อมา ร่างของหยางเฉินก็ปรากฏต่อหน้าของเกิ่งจินฮวา เกิ่งจินฮวายังไม่ได้ปฏิกิริยากลับคืนมา ก็รู้สึกว่าทรวงอกของตนเองยุบลงไปแล้ว ในขณะเดียวกันก็ถูกพลังงานกลุ่มหนึ่งโจมตีอย่างบ้าคลั่งจนลอยกระเด็น

“เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!”

หลังจากที่เกิ่งจินฮวาถูกต่อยจนลอยกระเด็น กระแทกจนต้นไม้หักไปหลายต้น ถึงได้หล่นลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล

หมัดเดียว ผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่ ผู้แข็งแกร่งของแดนนภาขั้นหกชั้นยอด ก็สูญสิ้นกำลังรบ

เกิ่งจินฮวาล้มลงบนพื้น ในรูม่านตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรงฌห ในปากยังมีเลือดสดล้นทะลักออกมาเป็นจำนวนมาก

เขาอยากจะลุกขึ้น แต่กลับพบว่าอาการบาดเจ็บของตนสาหัสจนเกินไป ลุกไม่ขึ้นเลยสักนิด อวัยวะภายในของเขาได้ถูกหมัดนี้ของหยางเฉินทำลาย วิถีบู๊ถูกทำลายจนสิ้นซากแล้ว

เขาสามารถสัมผัสได้ว่า พลังชีวิตของตนเองกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว

“ซวบ!”

ทันทีที่หยางเฉินขยับ ราวกับการทะลุมิติ ปรากฏตัวที่ตรงหน้าของเกิ่งจินฮวา

“ขอร้องแก ช่วยชีวิตฉัน......”

เกิ่งจินฮวายื่นมือไปทางหยางเฉิน ยังมีความจองหองบ้าคลั่งอย่างเมื่อครู่นี้ที่ไหนกัน ในดวงตาเต็มไปด้วยความวิงวอน

หยางเฉินก้มมองเกิ่งจินฮวา ผมยาวสีม่วงปลิวไสวไปตามสายลม รูม่านตาสีดำขลับปล่อยเจตนาสังหารออกมา อานุภาพมารลอยกรุ่นไปทั่วทั้งตัว

“ช่วยแก?”

หยางเฉินหัวเราะเยาะทีหนึ่ง ทันใดนั้นก็ยกเท้าขวาขึ้น เล็งตรงไปที่หัวของเกิ่งจินฮวา กล่าวเสียงเย็นชา: “ได้เห็นด้านนี้ของฉัน ฉันจะให้แกมีชีวิตต่อไปได้ยังไงกัน? ตาย!”

“เพละ!”

ทันทีที่เท้าเหยียบลงไป เกิ่งจินฮวาตายจนไม่สามารถตายได้อีกแล้ว

ในเวลานี้ ลมปราณที่แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังมุ่งหน้าเข้ามาใกล้ทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง สายตาของหยางเฉินเย็นเยือกทันที ทันทีที่เท้าขยับญด ก็หายไปจากที่เดิมทันที

หลังจากนั้นสามนาที ของนักบูโดที่ลมปราณแข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ปรากฏตัวจุดที่เกิ่งจินฮวาถูกฆ่า

นักบูโดเหล่านี้ล้วนสวมใส่ชุดของสำนักเทียนไห่เหมือนกันทั้งหมด เพียงแต่สิ่งที่ไม่เหมือนกับลูกศิษย์ทั่วไปก็คือ เสื้อผ้าของพวกเขาหรูหรากว่าอย่างเห็นได้ชัด

เห็นได้ชัดว่า นักบูโดเหล่านี้ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลระดับผู้อาวุโสของสำนักเทียนไห่

“นี่คือ ผู้อาวุโสรอง?”

นักบูโดของสำนักเทียนไห่ก้าวไปข้างหน้า จ้องมองเกิ่งจินฮวาที่พลังชีวิตขาดสะบั้นไปแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

นักบูโดสองสามคนก้าวไปข้างหน้า จ้องมองเลือดสดที่นองเต็มพื้น สีหน้าของแต่ละคนเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง

“ข้าสัมผัสได้ถึงไอมาร!”

นักบูโดคนหนึ่ง เอ่ยปากกล่าวขึ้นทันที

“ไอมาร?”

ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก ที่โลกบู๊โบราณ ผู้บำเพ็ญวิถีมารล้วนถูกสำนักใหญ่มองเป็นพวกนอกรีต

มีคนเอ่ยถาม: “หรือว่าหมายความว่า คนที่ฆ่าผู้อาวุโสรอง เป็นผู้บำเพ็ญวิถีมาร?”

ผู้แข็งแกร่งที่นำหน้าพยักหน้า: “บาดแผลที่ถึงแก่ความตายของผู้อาวุโสรองอยู่ที่ทรวงอก เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายปล่อยหมัดแค่ทีเดียว ก็สามารถทำลายอวัยวะภายในของผู้อาวุโสรองได้”

“แต่ว่าตอนสุดท้ายอีกฝ่ายใช้เท้าเหยียบหัวของผู้อาวุโสรองจะระเบิด เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้พวกเรารู้อะไรจากปากของผู้อาวุโสรอง”

ทันทีที่ประโยคนี้พูดออกไป ทุกคนต่างก็ตะลึงงันไป

อีกฝ่ายใช้แค่หมัดเดียวก็สามารถทำร้ายผู้อาวุโสรองแดนนภาขั้นหกชั้นยอดถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าอย่างนั้นกำลังของเขาจะแข็งแกร่งมากขนาดไหนกัน?

ในเวลานี้ ก็มีผู้แข็งแกร่งอีกคนหนึ่งกล่าว: “หรือว่า อีกฝ่ายจะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นเจ็ด?”

ทุกคนต่างก็สูดหายใจเข้าลึกๆไปตามๆกัน ไม่ใช่ว่าไม่มีความเป็นไปได้นี้

หากทอดสายตามองไปทั่วทั้งโลกบู๊โบราณกลาง ผู้แข็งแกร่งที่สามารถฆ่าผู้อาวุโสรองได้ในหมัดเดียว คงมีอยู่เพียงไม่กี่คน ไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งของแต่ละกองกำลังใหญ่ชั้นยอด

แต่ผู้แข็งแกร่งของแต่ละกองกำลังใหญ่ชั้นยอด ไม่มีทางลงมือกับผู้กุมอำนาจของสำนักอื่นง่ายๆ ไม่อย่างนั้นจะนำพาความภัยพิบัติร้ายแรงมาแก่สำนักของตน

อีกทั้งผู้แข็งแกร่งของแต่ละกองกำลังใหญ่ชั้นยอดจด โดยส่วนใหญ่แล้วต่างก็กำลังอยู่ในการบำเพ็ญเพียร ทั้งหมดล้วนกำลังพยายามที่จะบุกทะลวงฉากกั้นของแดนนภาขั้นหกชั้นยอด

ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งของแต่ละกองกำลังใหญ่ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นนักบำเพ็ญตนอิสระ แต่ว่าในนักบำเพ็ญตนอิสระ ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นนักบำเพ็ญเพียรแดนนภาขั้นหกชั้นยอด ต่อให้เป็นแดนนภาขั้นหกชั้นต้น ก็ยากมาก

ถึงอย่างไรทรัพยากรการบำเพ็ญเพียรของโลกบู๊โบราณกลางโดยส่วนมากจะถูกแต่ละกองกำลังใหญ่ผูกขาด เป็นไปได้ยากมากที่นักบำเพ็ญตนอิสระจะบำเพ็ญเพียรไปจนถึงแดนที่สูงมาก

ดังนั้นหมายความว่า ผู้แข็งแกร่งที่ฆ่าผู้อาวุโสรอง ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมาจากโลกบู๊โบราณบน

เป็นเพราะอีกฝ่ายมาจากโลกบู๊โบราณบน ดังนั้นไม่สามารถให้คนของโลกบู๊โบราณกลางล่วงรู้ได้ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็จะนำพาความยุ่งยากอันใหญ่หลวงมาแก่ตัวพวกเขาเอง

ในเวลานี้ พลังอำนาจที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งกลุ่มหนึ่งก็มาถึง

ผู้แข็งแกร่งของสำนักเทียนไห่ทุกคนรีบก้มหัว กล่าวเสียงดัง: “น้อมรับท่านเจ้าสำนัก!”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์