โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

The king of War

บทที่ 2265 คำแนะนำที่จริงใจ

อู๋สงป้าคิ้วขมวดขึ้นมา พูดกับคนรับใช้ : “คนของสำนักเทียนไห่คนไหนที่มา ?”

คนใช้ตอบ : “ผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทียนไห่ เซี่ยโหวซาง !”

“เซี่ยโหวซาง !”

อู๋จื่อจิ้งใบหน้าตกใจ จากนั้นมองไปยังอู๋สงป้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกล่าว : “คุณพ่อ เจ้าบ้านั่นมาตระกูลหวู ไม่ใช่เรื่องดีแน่”

อู๋สงป้ายิ้มเยาะ : “ที่นี่เป็นคฤหัสถ์เจ้าเมือง ถึงแม้จะเป็นคนบ้า ถ้ากล้ามาก่อเรื่องที่คฤหัสถ์เจ้าเมือง ฉันจะฆ่ามันซะ !”

ทันใดนั้น ออร่าที่แข็งแกร่ง ก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา

เซี่ยโหวซาง ผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่งที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งในโลกบู๊โบราณกลางต่างก็ตึงเครียด แดนของแดนนภาขั้นหกชั้นยอด มีข่าวลือว่า พลังการต่อสู้ที่แท้จริงของเขา พอที่จะเทียบได้กับพลังกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ด

แน่นอน นี่เป็นเพียงแค่ข่าวลือ ถึงแม้จะเป็นแค่ข่าวลือ ก็เพียงพอที่จะบอกความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้

ในโลกบู๊โบราณกลาง เขายังมีอีกสมญานาม เรียกว่า “บ้าบู๊”

เพราะว่าเซี่ยโหวซางหลงใหลในวิถีบู๊อย่างมาก นิสัยก็แปลกประหลาดอย่างยิ่ง ที่สำนักเทียนไห่ ไม่ไว้หน้าแม้กระทั่งท่านเจ้าสำนัก

“ให้เขารออยู่ที่โถงรับแขก !”

อู๋สงป้าหลังจากที่แอบใคร่ครวญ ก็กล่าวกำชับกับคนใช้

“ครับ !”

คนใช้กลับหลังหันออกไป

ไม่นานนัก ในห้องก็เหลือเพียงอู๋สงป้าและพ่อลูกอู๋จื่อจิ้ง

อู๋จื่อจิ้งถาม : “คุณพ่อ ตอนนี้ เซี่ยโหวซางมาที่คฤหัสถ์เจ้าเมือง จะเป็นไปได้ไหมว่าจะมาเพื่อหยางเฉิน ?”

อู๋สงป้าพยักหน้า : “ตัดความเป็นไปได้นี้ออกไม่ได้ ถึงหยางเฉินจะใช้วิชาแปลงโฉม เปลี่ยนใบหน้า แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามคนมีฝีมือคนอื่น ที่ใช้วิชาลับเพื่อรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”

“ถึงแม้ว่าคนที่เขาฆ่าจะเป็นผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่ ถ้าสำนักเทียนไห่จะจับฆาตกรไม่ได้ สำนักเทียนไห่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ?”

“ถ้าฉันเป็นอู่ชาง ไม่ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเท่าไหร่ ก็จะต้องลากฆาตกรคนนั้นออกมาให้ได้”

เมื่อได้ยินอู๋สงป้า หน้าของอู๋จื่อจิ้งก็กังวลใจขึ้น มองดูคุณพ่อกล่าว : “คุณพ่อ ถ้าเซี่ยโหวซางมาเพื่อหยางเฉิน พวกเราจะต้องส่งหยางเฉินออกไปไหม ?”

“เหอะ !”

อู๋สงป้ายิ้มเยาะ : “ทำไมจะต้องส่งไป ? ถึงแม้ไม่มีเรื่องของหยางเฉินออกไป ระหว่างพวกเรากับสำนักเทียนไห่ ก็มีบุญคุณความแค้นต่อกันมากอยู่แล้ว”

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น ทำไมพวกเราจะต้องส่งหยางเฉินให้กับสำนักเทียนไห่ ?”

อู๋จื่อจิ้งพูดด้วยใบหน้ากังวล : “ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะฆ่าผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่ ถ้าพวกเรายังเก็บไพ่เสียที่เห็นกันชัด ๆ จะต้องเป็นศัตรูกันกับสำนักเทียนไห่โดยปริยาย ในเมื่อเปิดฉากสงคราม จะไม่เอื้อผลประโยชน์กับพวกเราอย่างยิ่ง”

ทันใดนั้นอู๋สงป้าก็ถาม : “แกว่า ถ้าพวกเรายึดมั่นในความเห็นของตัวเองอยากจะส่งหยางเฉินให้สำนักเทียนไห่ ถ้าเขาถูกสำนักเทียนไห่ฆ่า ก็ช่างมัน แต่ถ้าเกิดว่าเขาไม่ตาย และรอดกลับมาล่ะ ?”

เมื่อพูดคำนี้ อู๋จื่อจิ้งงงงันอยู่ที่เดิม

เขาจะไม่เข้าใจความหมายของอู๋สงป้าได้ยังไง

อาศัยพรสวรรค์ด้านบูโดที่พัฒนามาในตอนนี้ของหยางเฉิน ขอแค่ไม่ตาย ในอนาคตเขาจะต้องกลายเป็นยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งที่สั่นสะเทือนโลกบู๊โบราณอย่างแน่นอน

ถ้าหากในเวลาแบบนี้ตระกูลหวูส่งหยางเฉินให้กับสำนักเทียนไห่ ในกรณีที่หยางเฉินมีชีวิตรอด อย่างนั้นตระกูลหวูกับผู้แข็งแกร่งที่สุดในอนาคตก็จะเป็นศัตรูกันล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

อู๋จื่อจิ้งพูดด้วยความเคารพ : “คุณพ่อ ผมเข้าใจความหมายของพ่อแล้ว”

อู๋สงป้าพยักหน้าเล็กน้อย โบกมือไปมา : “แกไปหาหยางเฉินเถอะ ! ฉันจะไปพบผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่คนนี้ ดูสิว่าเขามาที่นี่เพราะเรื่องอะไรกันแน่”

ไม่นานนัก อู๋จื่อจิ้งก็หาหยางเฉินเจอ

“คุณหยาง แผนการแบบนี้ พอใจไหม ?”

อู๋จื่อจิ้งถามด้วยเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยน

หยางเฉินพยักหน้า : “ฉันพอใจมาก !”

นี่คือลานเล็ก ๆ ของบ้านหลังเดี่ยว ลานบ้านถูกทำความสะอาดอย่างรวดเร็วมาก ในลานบ้านยังปลูกผักสดชนิดต่าง ๆ และยังมีต้นผลไม้อีกสองสามต้น

ลานเล็กของบ้านหลังเดี่ยวแบบนี้ เป็นที่อยู่ที่หยางเฉินฝันไว้

เขาคิดมาตลอดว่าอยากพาเมียและลูก มาใช้ชีวิตที่สุขสบายแบบนี้ เพียงแต่เรื่องกวนใจต่าง ๆ ทำให้เขาไม่มีทางทำให้ชีวิตแบบนั้นเป็นความจริง

“คุณหยางพอใจก็ดีแล้ว !”

อู๋จื่อจิ้งยิ้มกล่าว

“นายมีเรื่องอะไรอยากพูดใช่ไหม ?”

หยางเฉินมองออกว่าอู๋จื่อจิ้งอยากจะพูดอะไรแต่ไม่พูดออกมา จึงได้เริ่มถาม

หลังจากที่อู๋จื่อจิ้งชะงักไปครู่หนึ่ง ก็ยิ้มเจื่อนพูด : “ความจริงไม่คิดว่าจะพูดกับคุณหยาง แต่เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับคุณหยาง ผมเลยคิดว่าผมบอกคุณดีกว่า”

หยางเฉินสีหน้าสงบนิ่ง มองดูอู๋จื่อจิ้ง รอให้เขาพูดต่อ

อู๋จื่อจิ้งพูด : “ผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่ เซี่ยโหวซางมาที่นี่ ตอนนี้อยู่ที่โถงรับแขกของคฤหัสถ์เจ้าเมือง พ่อของผมกำลังไปต้อนรับ”

ทันใดนั้นหยางเฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังคงไม่พูดอะไร รอให้อู๋จื่อจิ้งพูดต่อ

อู๋จื่อจิ้งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง : “พ่อของผมคาดเดาไว้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เซี่ยโหวซางได้ข่าวว่าคุณอยู่ที่นี่ เลยได้มาหาคุณโดยเฉพาะ”

“แต่พ่อของผมให้ผมมาบอกคุณ คุณวางใจได้ ถึงแม้ว่าสำนักเทียนไห่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ เขาก็จะไม่มีทางส่งคุณให้กับสำนักเทียนไห่แน่นอน”

สีหน้าของอู๋จื่อจิ้งจริงจังอย่างมาก ไม่เหมือนกับกำลังพูดโกหกแม้แต่น้อย

หยางเฉินรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าใจ ที่อู๋สงป้าทำแบบนี้เพราะมีเหตุผล พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เขากำลังลงทุนกับอนาคตของตัวเอง

อู๋สงป้าคิดว่าในอนาคตเขาจะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างมาก เพราะงั้นเลยอยากจะคบค้าสมาคมกับเขา

ถึงขนาดที่ไม่เสียดายที่จะผิดใจกับสำนักเทียนไห่

ความสัมพันธ์ของสำนักเทียนไห่กับคฤหัสถ์เจ้าเมืองเดิมก็ตึงเครียดมากอยู่แล้ว และความแข็งแกร่งของสำนักเทียนไห่ก็มากกว่าคฤหัสถ์เจ้าเมืองเล็กน้อย บุญคุณความแค้นระหว่างสองอำนาจใหญ่เดิมทีก็มากอยู่แล้ว หากว่าข่าวที่หยางเฉินอยู่ที่คฤหัสถ์เจ้าเมืองได้รับการยืนยัน บุญคุณและความค้าของสองอำนาจใหญ่ก็จะยิ่งเพิ่มพูน

หยางเฉินพูด : “ขอบคุณเจ้าเมืองอู๋มากจริง ๆ”

ในเวลาเดียวกัน คฤหัสถ์เจ้าเมือง โถงรับแขก

อู๋สงป้ากับเซี่ยโหวซางนั่งเผชิญหน้ากัน ในตอนนี้อู๋สงป้า มีใบหน้าโกรธเคือง

มองกลับเซี่ยโหวซาง ที่มองดูอู๋สงป้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยกล่าว : “เจ้าเมืองอู๋ ในเมื่อฉันมาถึงที่คฤหัสถ์เจ้าเมืองแล้ว ก็ต้องมีหลักฐานที่หยางเฉินอยู่ที่คฤหัสถ์เจ้าเมืองมากเพียงพอ”

“ผู้พิทักษ์ของหยางเฉินเป็นผู้ฝึกมารที่แกร่งกล้า คนแบบนี้ไม่ควรที่จะอยู่บนโลกนี้”

“เจ้าเมืองอู๋ นายคงจะไม่ลงเรือลำเดียวกันกับผู้ฝึกมารแน่นอน ใช่ไหม ?”

อู๋สงป้ากล่าวอย่างเยือกเย็น : “เซี่ยโหวซาง นางคิดว่าคฤหัสถ์เจ้าเมืองของฉันถูกรังแกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ? ไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่พวกนายตามหาไม่อยู่ที่คฤหัสถ์เจ้าเมือง ถึงจะอยู่ ฉันก็ไม่ส่งให้กับพวกนาย”

เซี่ยโหวซางสีหน้ายังคงเดิม ทันใดนั้นก็ยืนขึ้น ในที่สุดสายตาก็มองไปยังทางเดียว

และทิศทางที่เขามองไป ก็คือที่ที่หยางเฉินอยู่

ทันใดนั้นเซี่ยโหวซางก็เอ่ยปาก : “เจ้าเมืองอู๋หากมีอะไรให้ขุ่นเคืองภายหลัง ก็อย่าได้โทษกันเลย !”

“นายจะทำอะไร ?”

อู๋สงป้าเข้าใจความหมายของเซี่ยโหวซาง เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคิดจะลงมือในคฤหัสถ์เจ้าเมือง

เขารีบพูดเตือน : “ฉันจะเตือนนายไว้ ที่นี่คือคฤหัสถ์เจ้าเมือง หากยุ่งย่ามอะไรมันมีราคาที่ต้องจ่าย”

หลังจากที่เขาพูดจบ ออร่าที่น่าหวาดกลัว ก็ระเบิดออกมาจากตัวของเขา

เซี่ยโหวซางสีหน้าไม่หวาดหวั่น พูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ : “งั้นฉันจะแนะนำอะไรบางอย่างให้เจ้าเมืองอู๋ เรื่องของคนอื่นที่ไม่ควรยุ่ง ก็อย่าได้ยุ่ง”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์