คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอู่ชาง เจ้าสำนักของสำนักเทียนไห่!
ในเวลานี้ อู่ชางใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองอู๋สงป้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ใบหน้าเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
ในขณะที่อู๋สงป้าและอู่ชางปะทะกัน ถอยหลังออกไปพร้อมกันหลายเมตร
บนใบหน้าของอู๋สงป้า เต็มไปด้วยหนักแน่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง: “ผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทียนไห่ถ่อมาถึงคฤหัสถ์เจ้าเมืองของฉันเพื่ออ้างบารมี ฉันยังลงมือไม่ได้อีก?”
“อู่ชาง ในฐานะที่นายเป็นเจ้าสำนักของสำนักเทียนไห่ ไม่ควบคุมผู้อาวุโสของสำนักเทียนไห่ กลับเป็นฝ่ายบุกมาที่คฤหัสถ์เจ้าเมืองของฉัน ลงมือกับฉัน นี่เป็นการจาบจ้วงเบื้องสูง โทษถึงตาย!”
อู่ชางจ้องมองอู๋สงป้าอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยดวงตาที่โกรธเคืองคู่นั้น กล่าวเสียงดัง: “แกเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมากำหนดโทษฉัน?”
ทันทีที่เสียงของเขาจบลง ลมปราณที่น่าหวาดกลัวกลุ่มหนึ่ง ก็เอ่อล้นออกมาจากในร่างกายของเขา
“ตูมตูมตูม!”
พื้นดินรอบๆเขาแตกร้าวทันที รอยแยกขนาดเท่าแขนเป็นเส้นเส้น แผ่ขยายออกไปทั่วทุกสารทิศ
“โครมคราม!”
สิ่งก่อสร้างของคฤหัสถ์เจ้าเมือง ถล่มลงมาทีละตึกๆอย่างต่อเนื่อง
แต่ทว่าอู่ชางยังไม่มีเจตนาที่จะรามือ ออร่าทำลายล้างกลุ่มนั้นบนร่างกายของเขา ยังคงกำลังปะทุ
อู๋สงป้าระเบิดโทสะทันที กล่าวเสียงดัง: “อู่ชาง แกกล้าดียังไง!”
“ฮึ่!”
อู่ชางกล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน: “แกกล้าลงมือสังหารผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทียนไห่ ก็ควรจะไตร่ตรองถึงผลที่ตามมา”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามาโทษว่าฉั้นไม่เกรงใจล่ะ!”
อู๋สงป้ากัดฟันกล่าว
ทันทีที่เสียงพูดของเขาจบลง ออร่าที่แข็งแกร่งไม้แพ้กันกลุ่มหนึ่ง ปะทุออกมาจากในร่างกายของเขา
“เปรี้ยง!”
เห็นเพียงแค่ร่างกายของเขากลายเป็นเศษเงากลุ่มหนึ่ง แล้วก็หายไปกับที่ในชั่วพริบตา
เหมือนกับในชั่วพริบตาเดียว ตอนนี้เขาได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเซี่ยโหวซาง
เซี่ยโหวซางหน้าถอดสีไปทันที กล่าวตะโกน: “เจ้าสำนัก ช่วยผมด้วย!”
ขาข้างหนึ่งของอู๋สงป้าเหยียบอยู่บนหัวของเซี่ยโหวซาง เพียงแค่เขาออกแรง เซี่ยโหวซางก็จะตายไร้ที่ฝังทันที
อู่ชางพยายามข่มโทสะ เก็บออร่าที่ปลดปล่อยออกมากลับคืนไป สิ่งก่อสร้างอื่นภายในคฤหัสถ์เจ้าเมือง ถึงได้ไม่ถล่มลงมา
เขาจ้องมองอู๋สงป้าอย่างเอาเป็นเอาตายกล่าว: “พวกเราต่างฝ่ายต่างข่มขู่กันและกัน ก็ไม่มีความหมาย ในเมื่อมองหน้ากันไม่ติดแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็มาสู้ให้ตายกันข้างสักครั้งดีกว่า
อู๋สงป้ากล่าวอย่างโกรธแค้น: “แกทำลายสิ่งก่อสร้างของคฤหัสถ์เจ้าเมืองมากมายขนาดนั้น จะจบไปง่ายๆแบบนี้?”
ในระหว่างที่พูด เขาเพิ่มแรงที่เท้ามากขึ้นกว่าเดิม
“โอ๊ย......”
เซี่ยโหวซางส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน: “เจ้าสำนัก ช่วยผมด้วย!”
หัวของเขาฝังลงไปบนพื้นแล้ว เพียงแค่อู๋สงป้าต้องการ ก็สามารถเหยียบหัวของเขาให้ระเบิดได้ทุกเวลา
ตอนที่เผชิญหน้ากับความกลัวตาย ทำให้เซี่ยโหวซางละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองไปจนหมดสิ้น กล่าวอ้อนวอนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด: “เจ้าเมืองอู๋ ท่านได้โปรดยกเท้าของท่านขึ้น ไว้ชีวิตผมสักครั้ง”
อู่ชางโมโหจนตัวสั่นระริก เขามาช่วยเซี่ยโหวซางที่คฤหัสถ์เจ้าเมืองด้วยตนเอง กลับคิดไม่ถึงว่าเซี่ยโหวซางจะไม่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีถึงขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะวิงวอนอู๋สงป้าต่อหน้าของเขา
อู่ชางกัดฟันกล่าว: “ถ้าหากแกฆ่าเขา ฉันจะทำลายคฤหัสถ์เจ้าเมืองของแกเสียก่อน!”
ถึงแม้ว่าอู๋สงป้าจะอยากฆ่าเซี่ยโหวซางมากขนาดไหน แต่ก็เข้าใจดีว่า ถ้าหากตนเองลงมือสังหารจริง อู่ชางจะทำลายคฤหัสถ์เจ้าเมืองทั้งหมดอย่างแน่นอน
ถึงมือของผู้แข็งแกร่งระดับเช่นพวกเขาแบบนี้ เพียงแค่ยกมือก็สามารถระเบิดพละกำลังที่ทรงพลังได้
อู่ชางสามารถทำลายคฤหัสถ์เจ้าเมืองได้ เขาก็สามารถทำลายสำนักเทียนไห่ได้เช่นเดียวกัน
“ฮึ่!”
อู๋สงป้าจ้องมองอู่ชางด้วยความเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็กระโจนตัว ลอยขึ้นไปกลางท้องฟ้าสูง
อู่ชางก็กระทืบลงไปบนพื้นทีหนึ่งอย่างรุนแรง ไล่ตามขึ้นไปยังทิศทางของอู๋สงป้า
“อู่ชาง ทางที่ดีแกแสดงพละกำลังทั้งหมดจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น จะต้องเสียใจแน่นอน!”
อู๋สงป้ายืนอยู่บนท้องฟ้าโล่ง จ้องมองไปทางอู่ชางอย่างเย็นชาแล้วกล่าว
อู่ชางหัวเราะพรวด: “ฉันยอมรับว่าก่อนหน้านี้ฉันดูถูกแกไป แต่ถ้าหากแกมีพละกำลังเพียงแค่เล็กนี้ ยังห่างไกลที่จะให้ฉันแสดงพละกำลังทั้งหมด”
ทันทีที่พูดจบ ทันทีที่ฝ่าเท้าของเขาขยับ ก็พุ่งตรงไปทางอู๋สงป้าที่อยู่บนท้องฟ้าทันที
ตอนที่ยังห่างจากอู๋สงป้าหลายเมตร เขาก็โบกฝ่ามือออกไปอย่างรุนแรง ออร่าที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่ง ทำให้เกิดคลื่นพลังงานเป็นระลอก แผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศทันที
“ฝีมือกระจอก!”
อู๋สงป้าหัวเราะเย้ยหยันทีหนึ่ง ยืนอยู่กับที่แล้วก็โบกฝ่ามือออกไป: “คอยดูฝ่ามือทะลวงของฉัน!”
“ตูม!”
วินาทีต่อมา การโจมตีของทั้งสองคนปะทะกัน ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้น ราวกับเสียงระเบิด ทั้งผืนดินสั่นสะเทือน
ทั้งสองคนต่างถอยหลังไปหลายก้าว หลังจากที่ทรงตัวได้ พวกเขาก็หายใจตามปกติ
เห็นได้ชัดว่า ในระหว่างการปะทะกันเมื่อครู่นี้ ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บเลยสักนิดเดียว
นี่ดูเหมือนว่าการปะทะกันอันทรงพลังนั้น กลับเป็นเพียงแค่การวอร์มร่างกายเท่านั้น
ในเวลานี้ ผู้แข็งแกร่งทั่วทั้งเมืองไป๋หู่ต่างมองไปยังทิศทางของคฤหัสถ์เจ้าเมือง แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งเมืองอื่นที่ใกล้กันกับเมืองไป๋หู่บางส่วน ก็รีบเดินทางมา เพียงเพื่ออยากเห็นการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งชั้นยอดทั้งสองท่านแห่งโลกบู๊โบราณกลางกับตา
“นี่ก็คือการต่อสู้กันของผู้แข็งแกร่งชั้นยอดแห่งโลกบู๊โบราณกลางงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าเพิ่งจะเริ่มต้น คาดไม่ถึงว่าจะน่าชมแบบนี้”
“น่าจะยังนับว่าเริ่มต้นไม่ได้หรือเปล่า? ให้ฉันพูด นี่ก็คือการวอร์มร่างกายก่อนศึกใหญ่ การต่อสู้อันน่าชมที่แท้จริง ยังอยู่ตอนหลัง!”
“ศึกใหญ่ของผู้แข็งแกร่งระดับนี้ หากไม่ระวังเพียงน้อย เกรงว่าอาจจะถูกลูกหลงของการต่อสู้ปลิดชีพเอาได้”
......
ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายของเมืองไป๋หู่ จ้องมองไปทางท้องฟ้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรอคอย
ภายในคฤหัสถ์เจ้าเมือง เรือนเล็กที่หยางเฉินอยู่ เขามองไปทางท้องฟ้าด้วยสีหน้าหนักแน่น
เขาคิดไม่ถึงว่า อู่ชางจะมาที่คฤหัสถ์เจ้าเมืองด้วยตัวเอง ศึกครั้งนี้ เป็นการต่อสู้กันระหว่างคฤหัสถ์เจ้าเมืองเมืองไป๋หู่กับสำนักเทียนไห่ แล้วก็เป็นศึกตัดสินโชคชะตาของเขาด้วยเช่นกัน
อู๋สงป้าชนะ เขารอด!
อู่ชางชนะ เขาตาย!
ด้วยพละกำลังที่เพิ่มเข้าสู่ระยะรวมยาของเขา หากออกอุบายพร้อมกัน บางทีอาจจะสามารถมีพละกำลังที่เทียบเคียงกับแดนนภาขั้นหกชั้นยอดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ถึงขนาดเป็นพละกำลังกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้น แต่ว่าการปะทะกับผู้แข็งแกร่งระดับอย่างอู่ชางกับอู๋สงป้า ไม่มีแผนการที่จะเอาชนะได้เลยสักนิด
ทั้งสองคนนี้ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดแห่งโลกบู๊โบราณกลาง ถึงแม้ว่าพละกำลังจะเป็นเพียงกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้น แต่หากสู้ตายสักครั้ง จะต้องสามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้นทั่วไปได้อย่างแน่นอน
“ฉันในตอนนี้ ก็ยังอ่อนแอเกินไปอยู่ดี!”
กำปั้นทั้งสองข้างของหยางเฉินกำแน่น เงยหน้ามองไปทางผู้แข็งแกร่งทั้งสองที่ต่อสู้กันอยู่กลางท้องฟ้า บนใบหน้า เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะแข็งแกร่ง
วันพรุ่งนี้ก็จะต้องไปช่วยฉินซีที่สำนักเหอฮวนแล้ว ถึงเวลายังไม่แน่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าสำนักของสำนักเหอฮวน
แต่เจ้าสำนักของสำนักเหอฮวน เป็นผู้แข็งแกร่งระดับชั้นแดนเดียวกันผู้แข็งแกร่งอย่างอู่ชางกับอู๋สงป้า
ไม่ต้องพูดถึงว่ายังมีผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆในสำนักเหอฮวนอีก ต่อให้มีเพียงเจ้าสำนักของสำนักเหอฮวนเพียงคนเดียวจริง ด้วยพละกำลังของหยางเฉินในตอนนี้ อยากจะช่วยฉินซีออกมาอย่างปลอดภัย เกรงว่าจะไม่มีแผนการที่เอาจะเอาชนะได้เลยสักนิด
“ฉันอยากจะช่วยฉินซีออกมา จำเป็นต้องทำให้ตนเองแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้!”
หยางเฉินกัดฟันกล่าว
ทันทีที่พูดจบ ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่บนตัวของเซี่ยโหวซาง
เซี่ยโหวซางในเวลานี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ลมปราณบนร่างกายอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง
และข้างกายของเซี่ยโหวซาง ยังมีผู้แข็งแกร่งของสำนักเทียนไห่อีกสองคน ทั้งยังเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหกชั้นยอด
เห็นได้ชัดว่า ทั้งสองคนนี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับผู้อาวุโสของสำนักเทียนไห่
เกิ่งจินฮวาผู้อาวุโสรองของสำนักเทียนไห่ ได้ถูกหยางเฉินฆ่าตายแล้ว
ถ้าอย่างนั้นผู้แข็งแกร่งทั้งสองคนนี้ คงจะเป็นเซี่ยวชิงหยุนผู้อาวุโสสามของสำนักเทียนไห่ และหลีหยวนชิงงผู้อาวุโสสี่
ในตอนที่หยางเฉินกำลังจ้องมองคนทั้งสอง เหมือนว่าทั้งสองคนมีปฏิกิริยาตอบสนอง จ้องมองมาทางหยางเฉินพร้อมกัน
copy right hot novel pub