ใครอยากจะไปแบ่งสูงแบ่งต่ำกับเจ้ากัน ดังนั้นยังคงค่อนข้างมีความคิดแบอนุรักษนิยมจึงแต่งกวีด้วยตนเอง นางต้องการเพียงแค่มาตั้งใจเรียน
ถ้าหากนางคิดที่จะดังในชั่วข้ามคืนจริงๆ ป่านนี้คงคัดลอกเอาบทกวีของหลี่ไป๋กับตู้ฝูมาใช้แล้ว
รับรองว่ากู้เมิ่งเสวียนจะต้องเกาหัวเป็นแน่ ต่อให้พากเพียรการศึกษาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกร้อยปีก็ไล่ตามไม่ทัน
สีหน้าของคังเสว่มี่นิ่งสงบ ไม่อยากที่จะโต้เถียงกับนาง กู้เมิ่งเสวียนพูดไปแล้วว่าอนาคตยังอีกไกล งั้นก็รอให้เป็นเรื่องของอนาคตละกัน
นางมองไปที่หนังสือ แปรงเขียน และแท่นฝนหมึกที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของตนเอง แล้วสัมผัสมันด้วยความเบิกบานใจ
ส่งเสียงจุ๊ๆ สิ่งของในอดีตนี้มันถูกวางไว้ในพิพิธภัณฑ์มีมูลค่าถึงสิบล้าน บัดนี้มันได้มาเป็นตำราเรียนของนางเสียแล้ว
เขียนตัวอักษรลงไปบนสิ่งของที่มีมูลค่าสูงลิ่วถึงเพียงนี้ รู้สึกหรูหรายิ่งนัก หรูหรายิ่งนัก!
กู้เมิ่งเสวียนเห็นนางลูบกระดาษและแปรงเขียนนั่งยิ้มแฉ่งจนตาหยีอยู่คนเดียว ท่าทางแบบนั้นมันเป็นการเหยียดหยามนางชัดๆเลย!
ตอนนี้คังเสว่มี่ต้องกำลังหัวเราะเยาะนางอยู่ในใจเป็นแน่!
มือของนางจับแปรงเขียนไว้แน่น มีแสงแปลกๆส่องผ่านเข้ามาในดวงตารูปอัลมอนด์ของนาง นางหยิบแปรงขึ้นมาแล้วเริ่มเขียนอะไรบางอย่าง
หนึ่งคาบเรียนใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วยาม ในนั้นจะมีเวลาในการพักสามเค่อ
คังเสว่มี่ลุกขึ้นยืนวางแผนว่าจะแอบไปเดินเล่นด้านนอก สำรวจดูทุกซอกทุกมุมของโก๋วจื่อเจี้ยนให้คุ้นเคย ในอนาคตตนต้องเรียนไปจนคุณสมบัติเหมาะสมให้ผ่านการตรวจสอบของสถานศึกษา
แต่แล้วไม่นานก็มีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงยาวสีชมพูเดินเข้ามา
“เจ้าก็คือคังเสว่มี่สินะ ข้าเคยได้ยินชื่อของเจ้า”
คังเสว่มี่ชำเลืองมองไปที่นาง แล้วเอ่ยอย่างมีมารยาท
“ใช่แล้วข้าเอง”
หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีชมพูเห็นท่าทีของนาง ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก็ไม่ถอดใจทั้งยังเข้าไปใกล้อีกนิด
“การแสดงของเจ้าวันนี้สุดยอดไปเลย สามารถบดขยี้กู้เมิ่งเสวียนได้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ”
ดังเสว่มี่ได้ยินสิ่งที่นางกล่าวมา สายตาลดลงไปบนใบหน้าของหญิงสาวที่เผยรอยยิ้มที่ ใกล้ชิดสนิทกันมีประกายเล็กน้อย แล้วนางก็ฉีกยิ้มขึ้นในทันที
“เจ้าก็รู้สึกเช่นนั้นหรือ ได้ยินเจ้าพูดเยี่ยงนี้ ความจริงแล้วข้าดีใจเป็นยิ่งนัก”
หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีชมพูเห็นคังเสว่มี่ดีอก ดีใจและท่าทางที่โอหังอวดดี ก็แอบแบะปากเหยียดหยาม บนใบหน้ามุ่ยเอ่ยอย่างไม่พอใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว เจ้าไม่รู้ เมื่อก่อนอยู่ในห้องเรียน ล้วนแต่เป็นกู้เมิ่งเสวียนที่โดดเด่นที่สุดเพียงผู้เดียว
บัดนี้เจ้ามา ต้องดีเป็นธรรมดา นางบดบังแสงสว่างของพวกเราไปจนหมด
ใช่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในสถานศึกษา แน่นอนว่ายังไม่คุ้นเคยกับสิ่งของที่อยู่ในนี้ล่ะสิ สู้ให้ข้าพาเจ้าไปเดินดูให้ทั่วทุกแห่งหนเลยเป็น อย่างไร?”
คังเสว่มี่มองดูสีหน้าท่าทางของนาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ในความหมายนำมาซึ่งความประหลาดใจ
“ก็ดี ก็ดี ข้ากำลังกังวลไม่มีผู้ใดพาดู
เดินคนเดียวเกรงว่าจะเดินไปผิดที่ผิดทาง!”
หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีชมพูจับมือคังเสว่มี่อย่าง สนิทสนม ยิ้มแล้วเอ่ย
“งั้นดีเลย พอดีข้าก็จะได้พาเจ้าไปเดินเล่น ข้าชื่อหลี่ฟาง เข้ามาเรียนได้สองปีแล้ว......."
ตลอดทาง คังเสว่มี่พยักหน้าเป็นครั้งคราว พูดไปไม่กี่ประโยคก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในสถานที่ หนึ่งที่มีขอบเขตพื้นที่กว้างขวาง
โดยที่ไม่รู้ตัว เสียงอ่านหนังสือที่เคยดังอยู่ข้างหูตอนนี้ก็ได้เริ่มไกลออกไปแล้ว
หลี่ฟางดูออกว่าในตาของนางกำลังมีความสงสัย จับแขนของนาง ชี้ไปข้างหน้าแล้วเอ่ย
“ที่นี่คือสถานที่สําหรับนักเรียนไว้เดินเล่นผ่อนคลายใน วันธรรมดา ตอนนี้กำลังเข้าชั่วโมงเรียน คนเลยมาน้อย
ขณะที่นางกำลังพูด ก็ยึดคอเข้าไปข้างในหลังแผ่นศิลาจารึกสํารวจดู แล้วพูดอย่างลึกลับ
“ข้าจะบอกเจ้า ที่นี่มีอะไรสนุกๆเยอะเลย หรือว่าพวกเราไปสนุกกันเถอะ!”
“อะไรที่ว่าสนุก?” คังเสว่มีถูกนางลากเข้าไปข้างใน กระพริบตาปริบๆ
หลี่ฟางหันกลับมา “เจ้ามาเจ้าก็จะรู้เองน่ะแหละ
ได้ยินเสียงไหม ข้างในยังมีคนอยู่อีกเยอะเลย!”
เสียง แน่นอนว่านางได้ยินแล้ว ดูเหมือนจะเป็นฝูงคนที่มารวมตัวอยู่ด้วยกัน
รอเดินผ่านแผ่นศิลาจารึกไป ในที่สุดคังเสว่มี่ก็ได้เห็นแผ่นศิลาจารึกขนาดใหญ่ มหึมาและป่าดอกไม้ที่อยู่เคียงคู่กันมา เจริญงอกงามและเขียวขจีจนไม่เห็นถึงเงาของคน
ที่อยู่ด้านหลังนี้คือนักเรียนกลุ่มใหญ่ที่มารวมตัวอัดอยู่ด้วยกันในนี้เยอะแยะเรียงรายหัวต่อหัว ฝูงชนกำลังปลุกใจตัวเองให้ฮึกเหิมด้วยการร้องตะโกน
“ตรงกลาง ตรงกลาง อยู่ตรงกลาง!”
เมื่อคังเสว่มี่เห็นท่าทางเหล่านี้ก็รู้ได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วการพนันสีเหลืองมันเป็นที่รู้กันดีอย่างชัดแจ้ง
ได้ยินสโลแกนที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ และเห็นท่าทางที่ถลกแขนเสื้อขึ้นที่ต้นแขน จากนั้นก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของเอ็นโดรฟินที่แพร่กระ กายอยู่ในอากาศ ก็รู้ได้แล้วว่าที่นี่เป็นแหล่งเล่นการพนัน!
มุมปากยกขึ้นอย่างช้าๆ ดูเหมือนว่าหลี่ฟางผู้นี้พานางมาที่แห่งนี้ก็ไม่ได้มีจุด ประสงค์ที่ดีสักเท่าไหร่
บนใบหน้านางกลับแสดงความประหลาดใจเพียงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถาม “นี่พวกเขากำลังทำอันใดก้นหรือ?”
ท่าทางนี้ตกเข้าไปอยู่ในสายตาของหลี่ฟาง เปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มที่มีความพึงพอใจ หันไปมองนางแล้วเอ่ย
“เวลาในการหยุดพักนานเกินไป อีกทั้งไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ ดังนั้นพวกเราทุกคนจึงก่อตั้งของเล่นชิ้นเล็กๆที่นี่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่า”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง
ไม่ว่าสถาบันการศึกษาจะดีแค่ไหน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ภายในจะมีนักเรียนที่เรียนไม่เก่งไม่ รักในการเรียนหนังสือ
ลูกผู้ดีมีเงินบางคน ไม่มีใจฝักใฝ่ในการเรียนเลยสักนิด ทั้งยังทนแรงกดดันของพ่อแม่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ภายใน บ้านไม่ได้ จึงทำได้เพียงมานั่งอยู่ที่นี่แต่เมื่อต้องเข้าเรียน พวกเขาก็ยังสามารถอดทนได้แล้วเมื่อเลิกเรียน งั้นพวกเขาจะทำอย่างไรล่ะ ภายในโก๋วจื่อเจี้ยนนี้ก็ไม่ได้มีซ่องโสเภณี บ่อนกาสิโน และสนามต่อสู้สุนัขที่สามารถจัดขึ้นมาให้พวกเขาได้ ไปเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขดังนั้นพวกเขาจึงเปิดซ่องเล่นการพนันของตนเองแล้ว เสพติดไปกับมันนางกล่าวว่าทำไมจู่ๆถึงมีคนพานางมาที่แห่งนี้ ที่แท้ก็มาเพื่อสนามนี้ “ซ่องการพนัน”“แต่ว่า......" คังเสว่มี่ยิ้มเยาะในใจ แล้วแสดงสีหน้าดูเหมือนว่าหวาดกลัวเล็กน้อย หน้าผากเผยให้เห็นถึงความลังเลใจ “ข้าจําได้ว่าในสถานศึกษาเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ อนุญาตให้เล่นการพนัน"“โอ้ย นี่มันไม่มีอะไร พวกข้าก็ไม่ได้เล่นวางเดิมพันเอาเงิน นี่ก็แค่เล่นเอาสนุกๆเท่านั้นเอง มาเถอะ มาเถอะ"ก็รู้ว่านางนั้นหวั่นไหวแล้ว จึงเพิ่มแรงดึงนางเข้ามา หลี่ฟางเห็นนางไม่ได้หันหลังและเดินหนีไปคนที่อยู่ในกลุ่มนักพนันนี้มีทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิง มีบางคนที่คังเสว่มี่จําใบหน้าได้ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของนางและก็มีบางคนที่ไม่คุ้นเคย อาจเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอื่นหนึ่งในนั้นยังมีเหยาเมิ่งฉิงที่รู้จักเป็นอย่างดี แวบแรกที่นางเห็นคังเสว่มี่ดวงตาคู่หนึ่งก็ประกายแสง ลอดออกมาเล็กน้อย จากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกน“หลี่ฟาง ใยเจ้าถึงพาคังเสว่มี่คนโง่นี้มาที่นี่ได้ ก็รู้ว่านางเล่นสิ่งนี้ไม่เป็น ไม่ขายหน้าแย่เลย!
copy right hot novel pub