โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 149 จูบแรกของข้าคือเจ้าเจ้า

คังเว่มี่ตกใจสุดขีด นางกระโดดถอยหลังกลับไปสามก้าวในทันที จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาปิดที่ริมฝีปากของตนเองอย่างตื่นตระหนก

“จี้อี้ เจ้าถูกผีเข้าสิงแล้วหรืออย่างไร? เหตุใดถึงได้ชอบมาพูดใกล้หูของข้านัก!”

พูดเสร็จนางก็ยกมือขึ้นมาปิดที่ริมฝีปาก เมื่อสักครู่นี้ริมฝีปากของนางชนกับริมฝีปากของจี้อี้ใช่ไหม

ใกล้มากถึงเพียงนั้นไม่โดนก็เป็นเรื่องแปลกแล้ว ไม่สามารถเป็นจมูกได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่อย่างแน่นอน!

จี้อี้มองไปที่ใบหน้าเล็กๆที่แดงเล็กน้อยของนาง แล้วยิ้มเบาๆแล้วยืดตัวขึ้นตรง ร่างกายที่สูงบางเหมือนกับลำต้นของต้นสนของเขาดูงสูงสางสง่างาม

เขายกนิ้วมือขึ้นค่อยๆลูบไล้ช้าๆบนริมฝีปาก ท่าทางนั้น เต็มไปด้วยความดึงดูดใจ

เขาเคลื่อนไหวอย่างช้าๆปลายนิ้วสีหยกขาว ริมฝีปากสีแดงอ่อน รวมกันแล้วดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นิย่างมาก

ถ้าหากให้คนเห็นเขาในท่าทีเยี่ยงนี้เข้า กลัวว่าเลือดกําเดาคงจะพุ่งออกมาสักสามลิตรและ คงจะต้องบ้าคลั่งเขาไปอีกสามชาติ

เห็นคังเสว่มี่ตัวสั่นไปทั้งตัว มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหยิบมีดผ่าแตงโมแล้วตะโกนเสียงดังว่า ข้าจะตัดดอกท้อของเจ้าออกในคราเดียว!

"หัวเราะอะไรของเจ้า เจ้าอุบายจี้เจ้าหน้าด้านไร้ยางอาย!"

นางโต้ตอบเขาเช่นนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรือหายใจไม่ออก จนหน้าเล็กๆของนางแดงระเดื่อขึ้นมา

จากนั้นนางก็ตะคอกใส่เขา

“ที่ข้าชนก็ไม่ใช่ตั้งใจเสียหน่อยเจ้ายิ้มอะไร?”

แม้ว่านางจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเขาบ้าง แต่เจ้าอุบายชั่วร้ายนี่ก็ไม่สามารถใช้ความรู้สึกดีนี้ของนางหลอกล่อให้นางหลงไหลด้วยท่าทางเช่นนี้ได้!

จี้อี้มองไปที่ใบหน้าเล็กๆสีแดงของนาง มีรอยยิ้มอยู่ในดวงตาแล้วเอ่ยด้วยเสียงที่ต่ำและมีเสน่ห์

“หืม.. เจ้าจงใจใช้โอกาสนี้มาสัมผัสริมฝีปากของข้า แล้วยังจะไม่อนุญาตให้ข้าลูบที่ที่โดนเจ้าสัมผัสอย่างนั้นหรือ?”

คังเสว่มี่เห็นเขายิ้มอย่างลึกซึ้งแฝงด้วยความหมายนัยจึงเอ่ยด้วยความโกรธเคือง

เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั๊วนะ ข้า...ข้า ตรงที่ข้าชนนั้นเป็นจมูก จมูกเข้าใจไหม! ข้าไม่ได้ชนโดนปากของเจ้า" ให้ตายนางก็ไม่ยอมรับ นั่นมันจูบแรกของนางนะ

จี้อี้ส่ายหน้าไม่เห็นด้วยแล้วเอ่ย "ชนโดนจมูก หรือริมฝีปาก มีเพียงเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ด้วยตนเองเท่านั้นจึงจะรู้ได้

เจ้าบอกว่ามันเป็นจมูก ข้าบอกว่าเป็นปาก เช่นนั้นแล้วไม่สู้อิงตามตำแหน่งเดิมที่เพิ่งนั่งลงเมื่อครู่นี้ แล้วลองมันอีกสักครั้งดีไหม

เช่นนั้นแล้วโดนจมูกหรือริมฝีปากข้าหรือเจ้าที่พูดผิดพูดถูกจะได้รู้กัน!"

“ได้ เกรงว่าเจ้าจะใส่ร้ายข้า!” คังเสว่มี่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ นั่งลงบนหินที่ตั้งอยู่ดังเดิมแล้วเอ่ยอย่างวางมาดเอาจริง เอาจัง

“มาเลย เจ้ามาดู เมื่อครู่ข้าก็นั่งอยู่ตรงนี้และเจ้าก็มาจากด้านหลังข้า มาชิดหลังหูข้าแล้วข้าก็หันหน้า......"

นางพูดอย่างจริงจัง โดยที่ไม่ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในดวงตาใสสะอาดของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเลยสักนิด

จี้อี้ก้าวเท้าเดินมาหยุดที่เดิมจากนั้นเขาได้โค้งตัวลงมา

เพียงนางหันหน้ามา ลมหายใจที่เยือกเย็นก็อ่อนลงอย่างเงียบๆไร้ซึ่งเสียง ริมฝีปากขาวนุ่มประกบเข้ากับกลีบริมฝีปากสองกลีบที่ อ่อนนุ่มของนาง

นัยน์ตาของคังเสว่มี่หดเข้าอย่างกระทันหัน แม้แต่จะผลักปฏิเสธเพื่อขัดขืนก็ลืมมันไปแล้ว

นางมองไปที่ดวงตาหงษ์ที่สวยงามขยายใหญ่ทั้งสองข้างที่อยู่ตรงหน้า

ลูกตาดำมืดทั้งสองราวกับราตรีมืดมิดอยู่ตรงหน้านาง

สายตาของเขาจ้องมองที่นางจมูกของเขาแตะโดนนาง ริมฝีปากของเขาจูบนางพอดี

กลิ่นนั้นอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง ลมหายใจที่แผ่วเบากำลังล้อมรอบตัวนางอยู่ นำมาซึ่งอุณหภูมิของร่างกายที่อุ่นๆผ่านผ้าที่โปร่งบาง

ค่อยๆซึมเข้าไปในผิวหนังของนางแล้วซึมเข้าไปถึงในใจของนาง

ตรงเข้าไปยืดหัวใจของนางให้ตรงกับลมหายใจอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเข้าพอดี

นางกระพริบตาปริบๆ เหมือนถูกทำให้เคลิบเคลิ้มด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่

ถูกลมฤดูร้อนพัดมาและเหมือนกับการเผชิญหน้ากับความรู้สึกไม่สบาย

ดวงตาที่หดรัดแน่น

จากนั้นก็รู้สึกว่าเลือดทั้งหมดได้ทะลักไหลเข้าไปในหัวสมอง มีเพียงเสียงหึ่งๆๆ

และยังมีสัมผัสที่อ่อนนุ่มและเย็นนิดๆโดนบนริมฝีปาก

จี้อี้มองดูดวงตาคู่นั้นของนางค่อยๆมองเห็นเลือนราง ในนัยน์ตามีแสงสดใสและเงางามผ่านแวบไปอย่างรวดเร็ว

ครั้งนี้ คงไม่ต้องมากไปกว่านี้แล้ว ในวันข้างหน้าโอกาสยังมีอีกเยอะ

ริมฝีปากของเขาเหมือนกับปีกผีเสื้อในบทกวีบินมาเบาๆ

มาหยุดอยู่ที่กลิ่นหอมๆตรงมุมปากของนางเพียงชั่ว พริบตาเดียว ก็หันกลับแล้วบินจากไป

มีเพียงเสียงกังวานดุจพิณที่นุ่มนวลและดึงดูดใจแพร่ กระจายอยู่ในสายลม

“อืม เมื่อครู่ตอนที่เจ้าชนเข้ากับจมูกข้า ข้าแค่กำลังคิดว่า ยังดีที่เจ้าไม่ได้ชนเข้ากับปากของข้า

แต่ตอนนี้ข้าแน่ใจแล้วว่าที่เจ้าพูดมันไม่ผิด ที่เจ้าชนเข้าเป็นจมูกอย่างแน่นอน”

คังเสว่มี่ลืมตาขึ้นในทันที มองไปที่เขาที่ยืนตัวตรง ดูเขาหัวเราะเบาๆดั่งสายลม ดูคลื่นน้ำในดวงตาของเขาจากสายตาที่เลือนรางของนาง ใบหน้าเล็กๆยิ่งร้อนแดงผ่าวมากขึ้นกว่าเดิม!

เมื่อครู่นางกำลังคิดอันใดอยู่? ทั้งๆที่นางถูกจี้อี้จูบเบาๆ แม้แต่จะขัดขืนก็ลืมมันไปหมดเลย!

นี่มันบ้าจริงๆ นางจะต้องถูกเสน่ห์ของเขาทำให้ลุ่มหลงแล้วอย่างแน่นอน! นางก้าวถอยหลังไปสองก้าว เพื่อเพิ่มช่องว่างระยะห่างของตนเองกับเขา

“จี้อี้ เจ้าตบตาใช้ประโยชน์จากข้าอีกแล้วนะ! " จี้อี้ยิ้มแล้วมองคังเสว่มี่ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความสนุกสนานเล็กน้อย

“เป็นเจ้าเองที่บอกว่าต้องการพิสูจน์ว่าที่ชนโดนจมูก หรือว่าปาก

เพียงแค่ว่าครั้งนี้ ชนไม่ได้แม่นยำถึงเพียงนั้นก็เท่านั้นเอง

แต่มันก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าครั้งที่แล้วที่เจ้าชนโดนนั้น เป็นจมูกของข้า

เพราะว่า......ความรู้สึกที่ชนบนริมฝีปากมันต้องนุ่ม มากกว่าชนจมูกอยู่แล้ว”

คังเสว่มี่มองดูใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา แต่รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆซ่อนอยู่ภายในสายตาของเขาที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ในใจรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ต้องระมัดระวังให้มากขึ้นกว่านี้อีก นางเดินถอยหลังมาสองก้าว“ไม่ว่ายังไงก็ตาม นี่มันเป็นจูบแรกของข้า แต่ก็มาถูกเจ้าไม่ระมัดระวังเอามันไปเสียแล้ว!”นี่เป็นสิ่งที่ตนเองปกป้องรักษาไว้ไม่ยอมมอบให้ใครมาแล้วสองชั่วชีวิตคังเสว่มี่ทั้งเดือดดาลทั้งยิ่งสงสารตัวเองมากขึ้นเจ้าจี้อี้นี่ ก่อนหน้านี้มีกู่เมิ่งเสวียน หลังมามีโควโควน้อย แน่นอนว่าไม่บริสุทธิ์แล้ว!นางเสียหายอย่างมากคำพูดของคังเสว่มี่ยิ่งทำให้จี้จี้หัวเราะอย่างมีความสุข มากยิ่งขึ้นเขายื่นมือออกไปเด็ดดอกไม้มาหนึ่งก้านอย่างง่ายดาย นิ้วหยิกงอเล็กน้อย คีบขึ้นมาไว้ใต้จมูกแล้วสูดดมเบาๆก้มหัวหน้าลงพระจันทร์หิมะตรงหน้าผากลำแสงเล็กๆทำให้เกิดสีหน้าที่งดงามสง่าผ่าเผยดั่งสาวงามเด็ดบุปผา เมาพันปีไม่รู้ว่าดอกไม้ช่วยเขา หรือว่าเขาช่วยดอกไม้ บางทีอาจจะเป็นหญิงงามดุจดอกไม้ก็เป็นได้

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์