จี้อี้ขมวดคิ้ว “อืม?”
โควโควใช้หัวของมันเข้าไปคลอเคลียคอของเขา อย่างเอาใจ “เมี้ยวๆๆๆ (แน่นอนว่านอกจากเจ้านายแล้วมันไม่ทำแบบนี้กับใครหรอก)
จี้อี้พยักหน้าอย่างพอใจพลางลูบหัวมันไปมาพลางยิ้ม ให้คังเสว่มี่
“มันชอบดื่มนม ชอบกินขนมกุ้ยฮวาแล้วก็ชอบของหวาน สิ่งที่ปรารถนามากที่สุดก็คือกินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เจ้าว่ามันไม่เหมือนเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
คังเสว่มี่ ยิ่งอายขึ้นไปอีก “ชอบกินแล้วมันอย่างไรเล่า! หวีขนกับหวีผมจะเหมือนกันงั้นหรือ? เจ้านะไม่ใช่โอรสสวรรค์หรอกเจ้าน่ะมันคนหลอกลวง”
ช่วงแรกที่นางนั่งโง่ๆปล่อยให้จี้อี้หวีผมให้แถมยังชื่นชม เขาว่าหวีให้นางสวยเสียด้วย
ในสายตาของเขาก็เหมือนมองนางเป็นแมวน้อยที่กำลังหวีขนที่จริงมันน่าเกลียดมากจริงๆ!
จี้อี้มองเด็กสาวที่โกรธจนขนหัวพองทันใดนั้นก็ถอน หายใจออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“ถอนหายใจทำไมข้าพูดผิดหรือไง? เจ้านะรู้แต่วิธีรังแกข้า!"
คังเสว่มี่ คิดสภาพตัวเองเป็นแมวอ้วน ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะกำลังหยอกตนเล่นอยู่แน่ๆยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
จี้อี้หันมากล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ
“ตอนนั้นสถานการณ์มันเร่งรีบไปหมด ข้าเห็นเจ้ากลับไปให้ชวนหลันหวีผมให้เวลาก็ไม่ทันกาล
ไปสายแล้วยังถูกสวี่จี้จิ๋วทำตัวไม่ดีใส่อีก ข้านั้นไม่เคยหวีผมให้ใครมาก่อนถึงจะบอกว่าเคยหวี ขนให้เพียงโควโคว คิดว่าหวีให้เจ้าก็คงไม่ยากเท่าไร ใครจะไปรู้ว่าวันนี้กลับถูกเจ้า...."
น้ำเสียงของจี้อี้นั้นมีความน้อยใจอยู่ในนั้นมันนุ่มนวล และแผ่วเบาอยู่มาก ฟังแล้วทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
คังเสว่มี่ที่กำลังโกรธเมื่อสักครู่พลันก็ได้หายเป็นปลิดทิ้ง นิสัยของนางนั้นเป็นคนพูดจาตรงๆแต่ก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร
ยิ่งใครที่มาไม้แข็งกับนางด้วยนางยิ่งแข็งกว่าหลายเท่า ถ้าหากมาไม้นวมใจของนางก็โอนอ่อนยิ่งกว่าน้ำเสียอีก
ครั้งนี้เห็นจี้อี้หลับตาใบหน้างดงามราวหยกเนื้อดีหายไปกับความมืดครึ่งหนึ่งก็เริ่มครุ่นคิด
ดูเหมือนว่าเขานั้นจะเพราะถูกนางเข้าใจเจตนาผิดถึงได้ดูเศร้าสลดเช่นนี้ นึกไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็เหมือนกับที่จี้อี้พูด
เพราะ ว่านางตัดสินใจไม่ได้จี้อี้เลยอาสามาหวีผมให้นาง ถ้าหากเป็นอย่างที่จี้อี้พูดจริงๆ นางที่เพิ่งจะตำหนิเขาไปนั้นมันก็ไม่ถูกต้องจริงๆ
นางเงยหน้ามองจื้อี้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขากับนางนั้นจะทะเลาะโหวกเหวกโวยวายกันตลอดที่พบหน้า แต่ทว่าเขาก็ช่วยนางทุกครั้งที่นางพบเจอปัญหา
ครั้งนี้นางจะคุยกับเขาเรื่องการสมานฉันท์เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องชะงักงันก็แล้วกัน
“อะแฮ่ม...” คังเสว่มี่กระแอมไอออกมาอย่างไม่สบายใจเท่าไหร่พลาง มองไปที่เขา
“ที่จริงแล้วข้าก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..……"
จี้อี้หลบตาต่อไปใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา
“ที่จริงแล้วข้าไม่ได้หมายความว่าเจ้าหวีผมให้ข้าไม่ดี.... เพียงแต่ตอนที่เจ้าพูดถึงโควโควข้าก็นึกว่าเป็นใครสักคนในวังของเจ้า
ใครจะไปรู้ว่ามันจะเป็นแมวก็เลยรู้สึกรับไม่ได้นิดหน่อยเท่านั้นเอง"
คังเสว่มี่มองแมวที่เกาะอยู่บนไหล่ของจี้อี้ก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบ นางกับเจ้าแมวอัปลักษณ์จะเหมือนกันได้ยังไง นางเป็นถึงสาวงามเชียวนะ
“เจ้าก็รู้นี่ คนธรรมดาคนหนึ่งไปถูกเปรียบเทียบกับแมวมันก็แปลกอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
จี้อี้ยังรักษาท่าทางหลับตาอยู่เหมือนเดิมและพูดอก มาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ก็รู้นานแล้วว่าข้าไม่ควรไปช่วยเจ้าหวีผมเหมือนข้านั้นทําคุณบูชาโทษ ข้าน่าจะทำอย่างที่เจ้าพูด ทําเป็นใจจืดใจดำ เย็นชาไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นอะไร และไม่ยืนยันที่จะไปช่วยเจ้าหวีผม เช่นนั้นแล้วเจ้าคงไม่มาตำหนิข้าเหมือนวันนี้”
เด็กสาวก้มหน้ายกนิ้วขึ้นมาเคาะปลายจมูกของตัวเอง
คังเสว่มี่สูดหายใจเข้าลึกคิดถึงครั้งนั้นก็ต้องขอบคุณ เขาที่เกล้าผมให้นางเสียสวยงามและยังทันเวลาอีกด้วย
แต่ในส่วนที่ถูกเขาแกล้งนั้นก็ไม่ใช่แค่เพียงครั้งสองครั้ง จะมากจะน้อยก็ไม่ต่างกัน
นางตัดสินใจยืนขึ้นและเดินวนรอบตัวเขา ดวงตากลมโตมองไปที่เขาตาปริบๆ ใบหน้าอ่อนโยนไร้เดียงสาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ข้าไม่ได้ว่าเจ้าเสียหน่อย ในวันนั้นเป็นครั้งแรกที่เจ้าช่วยคนอื่นหวีผมทําผม เอาจริงดูไม่ออกหรอกนะว่าเป็นครั้งแรก
สมแล้วที่เป็นองค์ชายอันดับหนึ่งของประเทศฉีเทียนถึงได้ทําผมเก่งกว่าคนอื่น ดูเหมือนว่าหลังจากที่เจ้าเกล้าผมให้ข้าแล้ว
จากนี้ไปข้าคงไม่ต้องให้ใครมาช่วยข้าเสียแล้วต่อไปนี้ข้าจะให้เจ้าทำผมให้ข้าดีมั้ย?"
ในที่สุดจี้อี้หันมามองหญิงสาวที่เท้าแขนกับเก้าอี้ข้างๆตน แววตาเป็นประกาย
“เจ้านี่คิดคำนวณมาเป็นอย่างดีเลยนะให้ข้าทำผมให้เจ้าทั้งชีวิตคือจะให้ข้าเป็นบ่าวรับใช้ติดตัวเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
คิดยังไงให้จี้อี้ที่มีฐานะเป็นองค์ชายอันดับหนึ่งไปเป็นข้ารับใช้
คังเสว่มี่คิดสังหรณ์ใจถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆตนนั้นจะถูกเขานั้นแกล้งทุกวัน และคงถูกคนที่อิจฉานางเกลียดนางมองมาด้วยสายทิ่มแทงนับร้อยนับพัน
ใจนางสั่นระรัวและปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
"ไม่ใช่เสียหน่อย ทำผมก็ทำผมสิไม่ได้จะให้เจ้ามาเป็นข้ารับใช้ของข้า
ยังมีอีกตั้งหลายอย่างที่เป็นได้อย่างเช่นเพื่อนก็ช่วยกันทําผมได้นะ"
“เพื่อนหรือ? เพื่อนของเจ้านี่ต่างก็ทำให้ผมให้กันได้งั้นหรือ?” จี้อี้หลับตาไม่ยอมมองที่คังเสว่มี่อีก
ตายล่ะนี่เขาไม่เรียกว่าใจดำหรอกนะแต่เรียกว่าปากไม่ตรงกับใจต่างหาก
เพียงแค่คิดว่าจะให้ใครไม่รู้มาลูบผมตัวเองคังเสว่มี่ก็รับไม่ไหวแล้ว
เรื่องผมแล้วสำหรับผู้หญิงเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่าง หนึ่งเหมือนกัน
คังเสว่มี่ จับผมตัวเองไปมา
“ไม่ใช่ว่าเพื่อนทั้งหมดจะทําได้ แต่กับเจ้ามันไม่เหมือนกัน เจ้านะทำได้ข้าอนุญาตดีหรือไม่?"
นางไม่กล้าให้จี้อี้ มาเป็นข้ารับใช้หรอกถ้าให้เป็นเพื่อน ทำผมให้ก็คงไม่ถูกสายตาทิ่มแทงทำร้ายจนน่าสงสารหรอกกระมัง
ได้ยินดังนั้นจี้อี้ก็ยิ้มออกมาผ่านสีหน้าสบายๆ ความอบอุ่นและความเฉลียวฉลาดที่ซ่อนอยู่ภายใต้ ใบหน้างดงามนี้ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยหมอกจางๆ
“อือ เห็นว่าเจ้าแสดงความจริงใจออกมาขนาดนี้ พวกเรามาคุยถึงการสมานฉันท์ของเรากันดีกว่า”
“เจ้าจะยอมร่วมมือกับข้าแล้วอย่างนั้นหรือ?" คังเสวมี่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย
จี้อี้พยักหน้า
“แผนการที่เจ้าคิดทั้งหมดแบ่งเป็นข้ากับเจ้าคนละครึ่ง เจ้าพอใจหรือไม่?"
ตอนแรกนึกว่าจี้อี้จะเป็นพวกหยุมหยิมจุกจิกและบีบคั้นนางจนกว่าจะหมดเปลือกถึงจะปล่อยมือ
คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่เรียกเก็บเงินนางแม้แต่น้อยแค่ให้ข้อตกลงการร่วมมือของเราจะมีอะไรที่ไม่เห็นด้วยอีก นางออกความคิดเห็นก็พอแล้ว จึงพยักหน้าตอบตกลงไป
“พอใจมากเลยละ!”
คังเสว่ คิดถึงวันข้างหน้าที่จะมีเงินทองไหลมาเทมา แล้วก็ทำให้นางดีใจจนเผลอเข้าไปจับมือของจี้อี้อย่างไม่รู้ตัว
จี้อี้มองมือเล็กเรียวที่จับที่มือของเขาแน่น ปากก็ฉีกยิ้มกว้างราวกับทางช้างเผือกที่กำลังไหลทะลักพาความสุขสดใสที่ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่ออกมา
“อืม เจ้ามีความสุขก็ดีแล้ว...."
บรรยากาศกลับมาดีขึ้น แต่ว่ามีแมวบางตัวคงทนไม่ได้ที่จะให้เจ้านายของมันโดน “ดูหมิ่น”
เจ้าอ้วนกลมสีเหลืองกางกรงเล็บทั้งสองข้างของมันออก แล้วฉับพลันก็ข่วนไปที่หลังมือของคังเสว่มี่ที่กำลังจับจี้จี้เอาไว้ให้ปล่อยมือ
“เมี้ยวๆ! เมี้ยวๆ!” ถอยออกไปนะใครใช้ให้เจ้ามาโดนตัวเจ้านายผู้สูงศักดิ์ ของข้า!คังเสว่มี่ ดีใจอยู่ชั่วครู่ถึงได้เข้าไปจับมือจี้อี้ แต่เจ้าแมวอ้วนนั่นมันจะเกินไปแล้วนะ จี้อี้ไม่ยอมปล่อยมือนางมันเองก็ไม่ยอมให้นางมาโดนตัวจี้อี้ คังเสว่มี่จับโควโควปาไปติดกำแพงมีสัตว์เลี้ยงแบบนี้อยู่ข้างกายใครหน้าไหนก็อย่าได้เข้าใกล้จี้อี้!นางมองไปที่จี้อี้สายตาอ่อนโยนของเขากำลังจ้องมองเจ้าแมวอ้วนโควโคว"เมี๊ยว เมี๊ยว!" เจ้าโควโควร้องเรียกมองก็รู้ว่าเจ้าโควโควกำลังร้องเรียนนางกับเขา ใบหน้าของเขาดูอ่อนโยนไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมนางแอบถอนหายใจเบาๆ มื่อที่จับฝ่ามือร้อนของเขาอยู่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ตอนแรกที่โดนโควโควข่วนก็ไม่ได้อะไรหรอกนะแต่รู้สึกเหมือนกับตนนั้นกำลังเสียเปรียบให้กับเจ้าแมวอ้วนตัวนี้สายตาของจื้อี้มองตั้งแต่นางกำหมัดแน่นจนคลายมือออก จากนั้นนางก็ปล่อยมือ เจ้าโควโคววิ่งกลับไปหาจี้อี้อย่างรวดเร็วจี้อีเยกมือขึ้นลูบตัวของมัน พบางกับพูดกับมันว่า “ไม่ดีเลยคราวนี้เจ้าทำเกินไปแล้ว”คังเสว่มี่ปล่อยมือออกจากมือของเขามองดูรอยแผลที่แมวข่วนมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย สำหรับนางนั้นอย่างไรเสียก็เป็นคนสมัยใหม่การจับมือถือแขนไม่ถือว่าเป็นการสัมผัสกันความรู้สึกเจ็บแสบเล็กน้อยค่อยๆจางหายไป นึกถึงเรื่องทำเงินเมื่อสักครู่นี้ความดีใจก็ยังไม่หายไปพลาง
copy right hot novel pub