โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่121 ร่วมมือกันเถอะ

บทที่121 ร่วมมือกันเถอะ

“คุณฉู หนานฉิง ช่างบังเอิญนัก” หลี่จื่อเชียนพยักหน้าอย่างสุภาพ ขณะยืนเคียงข้างเป้ยฉ่ายเวย

คนรอบตัวดูเหมือนจะระเบิดออกมาด้วยคำถามฉันคำหนึ่งเธอคำหนึ่ง

“เวยเวย คุณหลี่หล่อขนาดนี้ ยังหนุ่มขนาดนี้ เธอยังไม่ยอมตกลงแต่งงานกับเขาอีกหรอ”

“รีบตกลงรับปากเถอะ งานดีขนาดนี้ ระวังจะถูกงาบไปรับประทานนะ”

“เธอคงไม่ได้หมายถึงตัวเธอเองใช่ไหม” คนข้างๆหัวเราะขึ้นมา

หญิงสาวแสยะยิ้มพูด “ก็กล้าพูดเนอะ ขอแค่คุณหลี่ชายตามองฉัน แค่นี้ฉันก็ฟินแล้วล่ะ”

จะว่าไปหลี่จื่อเชียนก็เป็นพ่อหนุ่มเนื้อทองอันดับต้นๆของเมืองจิ่นอัน ถ้าหากว่าได้เข้าตระกูลหลี่ล่ะก็คงจะเหมือนหนูตกถังข้าวสาร แต่คงต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกมาก

ได้เป็นคุณนายช่างดีแค่ไหน เพลิดเพลินไปกับความมั่งคั่งอันไม่มีวันสิ้นสุด ที่สำคัญคนก็ทั้งใจกว้างและอ่อนโยน รูปร่างหน้าตาก็ดูดี

โลกนี้จะมีผู้ชายกี่คนกันที่มีคุณสมบัติเช่นนี้

เอาล่ะโชคดีที่ได้พบแล้วสองคน แต่ว่าทั้งสองก็มีคู่อยู่แล้ว

เป้ยฉ่ายเวยไม่กล้าสบตาฉูเจ๋อหยาง เพื่อที่จะให้หนานฉิงวางใจ เธอจึงจำต้องพูดออกมา “ทุกคนอย่าเพิ่งเข้าใจผิด เรายังไปไม่ถึงขั้นนั้นกันค่ะ”

แต่นั่นก็ทำให้หลี่จื่อเชียนสุขใจไปอีกนานเลย

“ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงพวกเรา ไว้มีเวลาผมขอเชิญทุกคนออกไปทานของว่างด้วยกัน รบกวนทุกคนช่วยดูแลเวยเวยซึ่งอีกหน่อยจะเป็นสมาชิกของครอบครัวผมด้วย”

หลี่จื่อเชียนใช้คำว่า “สมาชิกของครอบครัวผม” ไม่กี่คำนี้ทำให้มีคนแข็งทื่อเป็นน้ำแข็ง

คนอื่นเมื่อได้ยินว่าหลี่จื่อเชียนเป็นคนสปอร์ตต่างก็พากันประจบประแจง

“คุณหลี่สุภาพขนาดนี้ พวกเรามีเวลาให้เสมอค่ะ”

“ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ เอาของกินมาล่อขนาดนี้ คุณหลี่สบายใจได้ พวกเราจะดูแลเวยเวยให้เป็นอย่างดีแน่นอน”

“ไม่อยากเลิกงานกันแล้วรึ ถ้าอย่างนั้นก็ทำโอทีกันต่อเลยแล้วกัน” เสียงอันเย็นเฉียบของฉูเจ๋อหยางทำให้บรรยากาศมาคุขึ้นมาในทันที

คนอื่นๆพากันร้องเสียงตกใจ ไม่กล้าพูดอะไร

“อาเจ๋อทุกคนแค่พูดล้อเล่น อย่าโมโหเลยค่ะ” หนานฉิงพูดแทรกขึ้นมากลางวง

เมื่อคนอื่นเห็นหนานฉิงพูดแทนคนอื่น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเธอด้วยความรู้สึกขอบคุณ

หนานฉิงรู้สึกภูมิใจ นี่คือสิ่งที่เธอต้องการ “ดึกแล้ว ทุกคนเลิกงานกลับบ้านกันได้แล้วล่ะ”

ทุกคนเห็นฉูเจ๋อหยางไม่ได้ว่าอย่างไร ต่างคนจึงแยกย้ายกันไปทั้งสี่ทิศ

เป้ยฉ่ายเวยวางมือทั้งสองไว้ที่ต้นขา คนที่ฉูเจ๋อหยางให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือหนานฉิง หนานฉิงพูดคำเดียวก็สามารถดับไฟโกรธของเขาได้

ถ้าอย่างนั้นเธอก็เลือกถูกแล้วใช่ไหม

ถอนตัวจากปัญหาระหว่างพวกเขาทั้งสอง นั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด

ฉูเจ๋อหยางมองลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว เขาก้าวเดินไปข้างหน้าโดยยังไม่ออกไปจากออฟฟิศ

หนานฉิงมองทุกคนด้วยสายตาขอโทษ ราวกับว่าเป็นตัวแทนฉูเจ๋อหยางในการกล่าวขอโทษและเดินตามไปอย่างสงบเสงี่ยม

“เวยเวย เราไปกันเถอะ” หลี่จื่อเชียนมองเหม่อไปที่เป้ยฉ่ายเวย มุมปากเขาปรากฏความขมขื่นเล็กน้อย

“อื้อ” เป้ยฉ่ายเวยได้สติกลับมา และพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการขอโทษ

ทั้งคู่ออกจากอาคาร เป้ยฉ่ายเวยจึงได้พูดขึ้นว่า “จื่อเชียน ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อสักครู่ดึงคุณเข้ามาเกี่ยวด้วยโดยไม่ได้ถามความเห็นชอบจากคุณก่อน”

“เวยเวยคุณไม่จำเป็นต้องขอโทษผม ผมดีใจที่คุณยอมรับว่าผมเป็นแฟนของคุณ” หลี่จื่อเชียนพูดอย่างมีชีวิตชีวา

เป้ยฉ่ายเวยขยับริมฝีปาก เธอไม่สามารถสงบใจได้ “จื่อเชียน ถ้าหากว่า ฉันหมายถึง ถ้าหากว่าคุณพบผู้หญิงคนอื่นที่คุณชอบ เธอจะต้องทำให้คุณมีความสุขมากแน่ๆ”

หลี่จื่อเชียนเพ่งมองเป้ยฉ่ายเวยด้วยสายตาจริงจัง เขาพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ตกลง ผมรับปากคุณ”

แต่ว่ามันยากที่จะทำได้

เมื่อหลี่จื่อเชียนรับปาก เป้ยฉ่ายเวยก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เธอพูดด้วยรอยยิ้ม “”ไปเถอะ เราไปทานข้าวกัน”

เธอเลือกที่จะลืมความรู้สึกอันไม่พึงประสงค์เหล่านั้นชั่วคราว

“ครับ” หลี่จื่อเชียนยิ้มให้ด้วยหัวใจอันอ่อนโยน เขาสตาร์ทรถและขับออกไป

อีกด้านหนึ่งคือหนานฉิงซึ่งไล่ตามฉูเจ๋อหยางซึ่งเดินออกมาแล้ว ในที่สุดก็ตามเขาทัน แต่เมื่อเธอลงมาถึงชั้นล่าง รถของฉูเจ๋อหยางก็ขับออกไปแล้ว

เธอกระทืบเท้าด้วยความโกรธ อาเจ๋อทำอย่างนี้กับเธอได้อย่างไร

หนานฉิงรู้สึกได้ทันทีว่ามีคนกำลังเข้ามาใกล้ เธอจึงรีบหันกลับไปมองอย่างระมัดระวัง “ใครน่ะ แอบตามฉันมาทำไม ออกมาให้ฉันเห็นเดี๋ยวนี้นะ”

บริเวณเสาที่ลานจอดรถ เงาร่างหนึ่งก็โผล่ออกมา คือหลวี่อานหรานซึ่งซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานานแล้ว เธอไม่ได้อยากหลบซ่อน แค่เห็นเป้ยฉ่ายเวยจากที่ไกลๆเธอก็แทบจะทนไม่ไหวอยากจะเข้าไปฉีกทึ้งหล่อน

ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน เธอเห็นว่าหนานฉิงกับเป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ลงลอยกันเท่าไร ดังนั้นเธอนึงวางแผนที่จะลองเสี่ยงโชคกับหนานฉิงดู ไม่น่าจะทำให้เธอผิดหวัง

“คุณหนูหนาน สวัสดีค่ะ”

“ทนายหลวี่หรอคะ” หนานฉิงประทับใจในตัวหลวี่อานหรานอยู่บ้าง ตอนแรกเธอคิดว่าผู้หญิงในครอบครัวอาเจ๋อก็คือผู้หญิงคนนี้ แต่หลังจากที่รู้ว่าเป็นเป้ยฉ่ายเวย เธอจึงได้กัดหล่อนไม่ปล่อย

หลวี่อานหรานคนนี้คิดกับอาเจ๋ออย่างไร เธอมองปราดเดียวก็รู้ ก็แค่ผู้หญิงเลวที่ต้องการจะแย่งอาเจ๋อไปอีกคน

หลวี่อานหรานแสร้งพูดอย่างไม่มีพิษภัย​ "คุณหนูหนานไม่ต้องระวังตัว​กับฉันมากก็ได้ ฉันไม่ใช่ศัตรู​ของคุณสักหน่อย"

หนานฉิงสงบนิ่งและพูดจาเหยียดหยาม​ "แน่นอนว่าคุณ​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของฉัน จะบอกว่าไม่ใช่ศัตรู​ก็คงจะใช่ เพราะคุณเหมือนแมลงวันตัวหนึ่งที่แค่บินว่อนไปมา"

หลวี่อานหรานหน้าเสียเล็กน้อยแต่เมื่อเธอคิดถึง​เรื่องที่กำลังจะทำ เธอก็จำต้องระงับอารมณ์​โกรธ​นั้นเอาไว้ “ฉันรู้ว่าตัวเอง​ไม่ควรทำและไม่ควรคิดอะไรทั้งนั้น แต่ว่าฉันทนเห็นคุณหนูหนานต้องรับกรรมไม่ได้"

" เธอหมายความว่าอย่างไร" หนานฉิงถามอย่างเคลือบแคลง​" เมื่อเช้าฉันมีเรื่องขัดแย้งกับเป้ย​ฉ่า​ย​เวย​ผู้ช่วยตัวน้อย​ ​ตอนนี้สถานะทนายเหรียญ​ทองของฉันได้กลายเป็นทนายธรรมดา​แล้ว" หลวี่อานหรานกระพริบตา เธอจงใจปิดบังรายละเอียดที่สำคัญ"อะไรนะ อาเจ๋อทำกับเธอเพื่อหล่อนขนาดนี้เลย​หรอ" หนานฉิงฉุน​เฉียว ที่แท้อาเจ๋อก็ปล่อยนังผู้หญิง​สารเลวนั่นไปไม่ได้ ถึงเป้ยฉ่ายเวยจะคบกับอาเจ๋อแค่สามปี แต่พวกเขาสองคนก็รู้​จักกันมานานแล้วถึงแม้หนานฉิงจะโกรธ​แต่ว่าผู้หญิง​ตรงหน้าก็มีเจตนา​ไม่บริสุทธิ์​ เธอไม่น่าจะมีเจตนาดี" ทนายหลวี่มาบอกฉันเรื่องพวกนี้​ทำไม​คะ" "คุณหนู​หนานเรียกฉันว่าอานหรานก็ได้ค่ะ ที่มาพูดกับคุณเพราะว่าฉันรู้สึก​ว่าไม่ได้รับความยุติธรรม​หลังจากทำงานหนักมาสามปี ฉันอยากแก้แค้น และฉันก็คิดว่าคุณหนูหนานก็คงยินดีที่จะช่วยเหลือ" หลี่อาหรานพูดและแสดงความจริงใจเธอแค่อยากทำให้เป้ยฉ่ายเวยสำนึกเสียใจที่มาเหย็มกับเธอ เสียใจที่ทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้" ทำไมฉันจะต้องเชื่อคุณด้วย" หนานฉิงไม่ได้โง่ ถึงแม้เธอจะเกลียดเป้ย​ฉ่า​ย​เวย​แต่เธอก็ไม่อยากถูก​คนหลอกใช้" เพราะว่าศัตรู​ของเราเป็นคนคนเดียวกัน เพราะว่าคุณหนูหนานก็อยากเห็นเป้ยฉ่ายเวยตายทั้งเป็นไม่ต่างจากฉัน" หลวี่อานหรานพูดอย่างไร้พิษ​ภัย "คุณหนู​หนานช่วยฉันก็เหมือนกับช่วยตัวเอง เราต่างคนก็ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เราทั้งคู่​ก็เห็นๆกันอยู่ คุณ​ต้องการทนายฉู ส่วนฉันต้องการตำแหน่งที่สูงขึ้น" หนานฉิงคำรามเสียงไม่ได้ตอบว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เธอแค่บอกว่าจะลองทบทวนดูหลวี่อานหรานไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งคู่แยกจากกัน ณ ลานจอดรถ ก่อนไปเธอก็เสริมขึ้นอีกประโยค" คุณหนู​หนานอย่าหาว่าฉันปากมาก ฉันเห็นเป้ยฉ่าย​เวย​เข้าไปในห้องทำงานของทนายฉูหลายต่อหลายครั้ง​ และแต่ละครั้งก็อยู่ในห้องทำงานทนายฉูอยู่สองนาน" หนานฉิงไม่ได้พูดอะไร ได้แต่กำสองมือแน่นและซ่อนความเกลียดชัง​ไว้ในแววตา

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์