โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 145 เดิมพัน

คังเสว่มี่ยกยิ้มริมฝีปากสีแดงอมชมพูอ่อนๆของนางโค้งขึ้นยังคงงดงามเช่นเคย แล้วเอ่ยออกมาด้วยความเสียดาย

“เหตุใดข้าถึงยังรู้สึกว่าข้านั้นยังพอมีโชคดีได้อยู่อีกมาก พวกเจ้าอยากจะคิดไตร่ตรองเปลี่ยนมันสักหน่อยหรือไม่?”

เหยาเมิ่งฉิงเหล่ตาชำเลืองมองไปที่หลี่ฟางแล้วพูด “หลี่ฟาง เจ้าได้ยินหรือไม่ นางถามเจ้าว่าต้องการเปลี่ยนข้างไหม?'

หลี่ฟางยังคงเสแสร้งสร้างความน่ารักและไร้เดียงสาไว้บนใบหน้า “พวกเจ้าพูดไปแล้วว่า ไม่มีเรื่องดีเกินสามครั้ง เพื่อไม่ให้แพ้ ข้าก็ยังขอเลือกซื้อตามพวกเจ้าละกัน!”

“ในเมื่อพวกเจ้าต่างก็ยืนกรานกันเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นก็ดี!”

คังเสว่มี่เหลือบมองไปที่หลี่ฟางและไม่ได้มีความโกรธ ช่างเหมือนกับคนโง่จริงๆ ถูกคนดูหมิ่นเยี่ยงนี้ แต่ก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด

นางเพียงแค่ยกมือขวาขึ้นมาเบาๆ แล้วพูดกับจางเสี่ยวชี

“เปิดเลย!”

จางเสี่ยว เหลือบมองไปที่นาง เขาเริ่มรู้สึกว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ได้โง่เขลาเหมือนกับที่คนเล่าลือกันมา

ในดวงตาที่ใสสะอาดคู่นั้นของนาง กลับมีความบริสุทธิ์ที่พิเศษแตกต่างจากคนอื่น

เขามีความลังเลใจเล็กน้อยที่จะเปิดมัน เหยาเมิ่งฉิงกระโดดออกมาอีกครั้ง ยังคงท่าทีที่มั่นใจเยี่ยงนั้นเช่นเคย แล้วหันไปพูดกับจางเสี่ยวชีอย่างไม่เกรงใจ

“จางเสี่ยวซี เจ้ายังไม่รีบพูดเงื่อนไขอีก พูดเสร็จก็เปิด อย่ามามัวชักช้า เจ้ายังอยากจะเรียนหนังสือหรือไม่?"

ในสายตาของเหยาเมิ่งฉิงมีแสงแห่งอำนาจและ เผด็จการครอบงำอยู่ ชำเลืองมองไปที่จางเสี่ยวชี มั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาจะต้องทำตามคำสั่งของนางอย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินสิ่งที่เหยาเมิ่งฉิงกล่าว จางเสี่ยวชีก็สั่นไปทั่วทั้งตัว มีความเบื่อหน่ายผ่านเข้ามาในหน้าตาของเขา แต่ทว่าก็ยังคงเชื่อฟังคำพูดของนาง ปิดตาลงไม่ได้มองคังเสว่มี่แล้วรีบพูดให้จบอย่างรวดเร็ว

“เงื่อนไขของข้าก็คือ ถ้าหากว่าเจ้าแพ้ ก็เพียงแค่ใส่ชุดคลุมหน้าอกแล้ววิ่งไปรอบๆภายในโรงเรียน แล้วตะโกนดังๆว่า ข้าเป็นผู้หญิงแพศยา ตกลงรับเงื่อนไขหรือไม่?”

หลังจากที่จางเสี่ยวซีพูดเงื่อนไขออกมาแล้ว คังเสว่มี่ที่คาดเดาเอาไว้ในใจว่าคนพวกนี้จะใช้เงื่อนไขอะไรออกมาต่อรองกับนาง สุดท้ายในสถานที่ที่มีคุณภาพระดับสูงเช่นนี้คนเหล่านี้ก็ยังคงมีความคิดที่ไม่ดีแบบนี้อยู่

สิ่งที่พวกเขาต้องการให้นางทำที่แท้ก็คือสิ่งนี้นี่เองแต่ว่า ทั้งอันตรายทั้งเสียหาย!

คังเสว่มี่ยกมือทั้งสองข้างโอบหน้าอกไว้ในทันที

มีรอยยิ้มจางๆอยู่ที่มุมปากของนาง ทำให้เห็นเมฆสีแดงลอยขึ้นมาบนแก้มสีขาวมากยิ่งขึ้น เลียนนแบบท่าทีของจางเสี่ยวชีก่อนหน้านี้ เชิดคางขึ้นแล้วเอ่ย

“ชักช้าอยู่ใย เปิดสิ ดูสิว่าอยู่ในชามที่สองใช่หรือไม่?"

จางเสี่ยวชีเห็นสีหน้านางไม่ทุกข์ร้อนอันใดกับเงื่อนไขที่เขากล่าวไปก็รู้สึกลังเลอยู่เล็กน้อย

ไม่มีผู้หญิงธรรมดาที่เมื่อได้ยินเงื่อนไขที่โหดร้ายและสุดที่จะทนได้ประเภทนั้นแล้วจะไม่แสดงความโกรธแค้นลอยออกมา

แต่ที่น่าแปลกคือหน้าตาของนางมีบางอย่างปรากฎขึ้น เหมือนมีอารมณ์แห่งความสนุกสนาน เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ทำให้เขารู้สึกขึ้นมาทันทีว่าสิ่งที่ตนเองเชี่ยวชาญที่สุดนั้น

ราวกับว่าในสายตาของนางมันเป็นเพียงแค่ของเล่นเด็ก ที่เด็กเล่นกันอยู่ที่บ้านเท่านั้น

สีผิวที่ค่อนข้างดำของเขา แม้จะรู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างร้อนขึ้นมาเล็กน้อย ก็มองไม่เห็นอะไร เขาเปิดชามออกแล้วเอ่ย

“เจ้าดู!”

ริมฝีปากคังเสว่มี่ยกขึ้นเล็กน้อย แววตาไม่มีการเคลื่อนไหวหยุดลงอยู่ที่ดวงตาสองข้าง บนใบหน้าของจางเสี่ยวซี จากนั้นนางส่ายหน้าเบาๆแล้วเอ่ย

“ไม่จำเป็นต้องดู แน่นอนว่ามันไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว”

สายตาของทุกคนจับจ้องอยู่ใต้ชามที่สอง เป็นอย่างที่คิดไว้มันไม่มีจริงๆ

แต่ว่า นี่ก็คือสิ่งที่พวกเขาคาดหวังไว้

“ฮ่าๆๆ แท้จริงแล้วเจ้าก็เป็นคนโง่จริงๆ รู้ว่ามันไม่มีก็ยังทาย! แพ้แล้วยังยืนหัวเราะอยู่ที่นี่!"

เหยาเมิ่งฉิงตะโกนขึ้นมาเป็นคนแรก หันไปโบกไม้โบกมือให้คังเสว่มี่

“แพ้แล้ว เจ้ายังไม่รีบไปถอดเสื้อผ้า...……….."

เพี๊ย! ฝ่ามือเล็กๆแต่แรงมหาศาลตบลงบนใบหน้าของนาง ทำเอาเสียงหัวเราะของเหยาเมิ่งฉิงถูกหยุดไว้ในทันที!

แม้แต่หางตาคังเสว่มี่ก็ไม่ได้ให้นางสักนิด ค่อยๆเก็บมือกลับแล้วสะบัดฝ่ามือช้าๆด้วยความเจ็บเล็กน้อยเหลือบมองไปที่จางเสี่ยวชี แล้วเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“การเคลื่อนไหวมือของเจ้าช่างว่องไวยิ่งนัก แต่ว่า เมื่อเทียบกับข้าแล้วเจ้ายังห่างชั้นอีกไกล”

ในตอนที่พูดคำแรกออกมา มือของคังเสว่มี่ก็รวดเร็วราวกับสายฟ้า ยึดเอามือข้างซ้ายของจางเสี่ยวชีไว้แน่น

จากนั้นนางก็เปิดชามอีกสี่ใบที่เหลือขึ้นทีละใบด้วยมือข้างขวา

แต่ละชามล้วนเป็นเหมือนเช่นเดียวกันกับชามที่สอง มันไม่มีลูกบอล

คังเสว่มี่ยิ้มเบาๆ ถือโอกาสหยิบลูกบอลเล็กออกมาจากมือของเขามาไว้ใต้ชามที่เดิมที่มันควรอยู่ เขย่าอยู่ด้านหน้าของจางเสี่ยวชี เสียงกินใจเหมือนนกขมิ้น

“วิธีการโกงเยี่ยงนี้ มันล้าสมัยไปแล้ว!"

เมื่อตอนที่นางยังเด็กได้ติดตามพ่อของตนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้รู้เทคนิคการโกงพวกนี้แล้ว

บางคนชอบใช้กลอุบายเหล่านี้บนริมถนนเพื่อต้มตุ๋นหารายได้

ให้ผู้คนทายว่าลูกบอลเล็กแท้ที่จริงแล้วอยู่ในชามใด ในตอนที่เพิ่งเริ่มต้นมักจะให้ผู้คนทายถูก

รอจนกว่าเกมการพนันจะเริ่มต้นขึ้น ทุกคนก็ไม่เคยทายถูกได้อีกเลยว่าลูกบอลเล็กนั้นอยู่ ใต้ชามใด

แท้จริงแล้วลูกบอลเล็กนี้จะไปปรากฏขึ้นที่ใด ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมโดยคน เทคนิคของพวกเขาฝึกฝนมาอย่างชำนาญและว่องไวในตอนที่ผู้คนไม่เห็นนั้น

ลูกบอลเล็กก็ได้ถูกเก็บซ่อนไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว

แท้จริงแล้วในชามทั้งหมดไม่มีลูกบอลเล็กอยู่ ไม่ว่าจะทายอันไหนก็ล้วนแต่เสียทั้งนั้น

จางเสี่ยวชีถูกนางเปิดโปงต่อหน้าสาธารณชน สีหน้ามีความลำบากใจเล็กน้อย พยายามดิ้นให้หลุด ค้นพบว่าตนเองเป็นผู้ชายแต่กลับดิ้นสู้แรงของหญิงสาวที่ดู บอบบางอ่อนโยนที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้

“เจ้าปล่อยข้า!”

นางจับกุมมือของเขาแน่น เช่นเดียวกับตอนที่จับมือของจี้อี้คนที่สามารถหลุดพ้นจากการจับกุมของนางไปได้ มีไม่มากนัก

ศิลปะการต่อสู้ที่แปลกประหลาดของคนสมัยใหม่นั้น มีชั้นเชิงสูงถึงขั้นที่จี้อี้ขอยกเว้น

คังเสว่มี่หัวเราะราวกับดอกฮว๋ายที่เพิ่งร่วงหล่นลงบนพื้น บางเบาและไม่เป็นอันตราย แล้วเอ่ยถามอย่างช้าๆ

“ข้าจะปล่อยเจ้าอย่างแน่นอน แต่ว่า การเดิมพันของพวกเจ้าเมื่อครู่นี้ ข้ายังคงจำมันได้?"

สายตาของคังเสว่มี่กวาดตามองผ่านไปที่ฝูงคนที่กำลังตกตะลึง เห็นได้ชัดว่านางยิ้มอ่อนๆ แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่แผ่ขยายออกมา

และก็ดูเหมือนว่ารอยยิ้มนั้นเป็นส่วนหนึ่งในพลังอำนาจ ที่ทำให้ผู้คนนึกถึงรอยยิ้มของสุนัขจิ้งจอกที่อยู่ใน ตำนานเรื่องเล่าขาน

ในตอนที่สังหารเหยื่อก็ยังหัวเราะ

ก่อนหน้านี้ผู้ที่เริ่มการวางแผนเหล่านั้นต่างก็ยังคงเล่นกันอย่างมีความสุขสนุกสนาน

เพียงชั่วขณะเดียวเสียงของผู้คนที่กำลังสนุกสนานก็ต้องหยุดชะงักลงติดอยู่ในลำคอ บนใบหน้าซีดขาว

เหยาเมิ่งฉิงดูประหลาดใจมากที่สุด แม้แต่ตอนที่นางโดนตบนางก็ลืมที่จะไปเอาความเหยาเมิ่งฉิงเบิ่งตาค้างมองดูคังเสว่มี่คว้าเข้าที่มือของจางเสี่ยวซีจากนั้นก็ดึงนิ้วมือของเขาเปิดออกทีละนิ้วแล้วควักเอาลูกบอลเล็กหนึ่งลูกนั้นออกมาจากข้างในความอุ่นในฤดูร้อนปะปนมากับสายลมพัดผ่านเข้ามา หาทุกคน แสงพระอาทิตย์เคลื่อนไหวอยู่ยอดต้นไม้ ใบไม้ย้อมอยู่บนผ้าโปร่งบางสีทองเกิดจังหวะเสียงที่ไพเราะออกมาคังเสว่มี่ปล่อยมือของจางเสี่ยวชี จากนั้นก็หันข้างใช้ขาสองข้างกระโดดขึ้นไปบนเวที แล้วมองไปที่ทุกคนที่กำลังตกตะลึงอยู่ หางคิ้วก็ยกขึ้นเล็กน้อย“ดูเหมือนว่าทุกคนช่างมีความสุขเหลือเกินเมื่อเห็นผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ งั้นข้าก็จะไม่เกรงใจแล้วทุกคนต่างก็รู้ว่าข้าก็เล่นเกมนี้เป็นครั้งแรก เข้าใจไม่มากนักกับวิธีการเล่นก็เข้าใจไม่ชัดแจ้งดังนั้นแล้ว เงื่อนไขอย่างอื่นข้าก็คิดไม่ออกแล้ว งั้นก็เอาตามเงื่อนไขเดียวกันกับเจ้ามือละกันคนที่แพ้ทั้งหมดผู้หญิงใส่เสื้อคลุมอกส่วนผู้ชายใส่กางเกงซับใน วิ่งรอบสนามโรงเรียนหนึ่งรอบแล้วตะโกนออกมาเสียงดังๆ ว่า พวกเราเป็นชายโฉดหญิงแพศยา”ที่แห่งนี้คือโก๋วจื่อเจี้ยน เป็นสถานที่เรียนหนังสือที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต้องพูดถึงพฤติกรรมการกระทำที่อนาจารในที่สาธารณะที่ขัดต่อประเพณีและศีลธรรมจําพวกนี้เลย แม้แต่เครื่องแต่งกายไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยก็ล้วนถูกอาจารย์วิพากษ์วิจารณ์ติเตือนถ้าหากว่าทําสิ่งนี้ออกไป การประเมินผลการตรวจสอบความประพฤติและ คุณธรรม อาจจะปรากฏคำว่า “แย่” แค่หนึ่งตัวอักษรเป็นแน่

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์