นักบวชลัทธิเต๋าที่ได้ยินเสียงนั้นเข้า สีหน้าเปลี่ยนไป ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหนูใหญ่ ตำหนักนี้ถึงกลายเป็นเสียงผู้ชาย
คนทั้งคนก็ถูกเตะจนลอยข้ามขึ้น กระเด็นไปทับอยู่บนตัวของชายารองติง ทั้งสองล้มด้วยกันอยู่บนพื้น
คังเสว่มี่ฟังความเคลื่อนไหวในเมื่อครู่นี้ก็ เหมือนมีอะไรที่ไม่ปกติ ตอนนี้เพิ่งจะได้ขยับเดินเข้าไปจากหน้าประตู
สายตาของนางกวาดมองไปที่เหตุการณ์ในสวนแว็บหนึ่ง
กลางสวนวิหารหลิงหลงวางโต๊ะที่ทำพิธี ของนักบวชลัทธิเต๋าอยู่อันใหญ่ๆอยู่ใบหนึ่ง ข้างบนมีอุปกรณ์ที่ทำพิธีอยู่หลายๆอย่าง
ชวนหลันถูกคนมัดอยู่อีกข้าง ในปากยัดผ้าเช็ดมืออยู่อันหนึ่ง ในสวนทั้งหมดเลวร้ายมาก ติดยันต์กันผีสีเหลืองไปทั่ว
คังเสี้ยเหอยืนอยู่ที่ข้างหลังของชายารอง ติง เห็นคังเสว่มี่เดินเข้ามาจากประตู บนหน้าของนางมีความแปลกใจไม่อยากจะเชื่อปรากฎ นางยกมือชี้ออกไปแล้วร้องลั่น
“เจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่ถูกเลือดหมาสาด!”
“เพราะคนที่เจ้าสาดคือองค์ชายหก!” ใน สายตาของคังเสว่มี่มีความเยือกเย็นที่ปรากฏออกมา เดินไปหลายก้าวนำหนังสือไปวางที่บนเก้าอี้
แล้วปล่อยเชือกดึงผ้าเช็ดมือที่อยู่ในปากของชวนหลันออก
คังเสี้ยเหอตะลึง มองไปที่คนที่เดินเข้ามา อย่างตกตะลึง
เส้นผมที่ดำขลับมีหยดเลือดหมาที่ดำแดงหยุดลง มาอย่างปรอยๆ ไหลลงมาที่ใบหน้างดงามที่ราวกับไห่ถางทีละหยด
บนเสื้อคลุมยาวสีฟ้าหิมะเริ่มมีรอยเลือดสี ดำแดงปรากฎออกมา ตาที่เป็นดอกพีชเสมือนย้อมน้ำแข็งเป็นชั้นๆ กำลังมองคนทั้งหมดในสวนอย่างโกรธ
หน้าใบนี้ เป็นองค์ชายหกชัดๆ!
ชายารองติงถูกนักบวชลัทธิเต๋าลอยทับไว้ บนตัว ร่างทั้งร่างทับซ้อนอยู่ที่พื้น กระดูกชนจนจะหักอยู่แล้ว
นางยื่นมือแล้วผลักนักบวชลัทธิเต๋าที่อยู่บนตัว ตะโกนต่อสองข้างว่า: “ยังไม่รีบประคองข้าขึ้นไปอีก"
คังเสี้ยเหอตอนนี้เพิ่งจะตื่นจากการตกใจ ผลักนักบวชลัทธิเต๋าทิ้ง แล้วประคองชายา รองติงขึ้นมา ทำหน้าเศร้าซึมว่า
“ท่านแม่ เมื่อกี้คนที่นักบวชลัทธิเต๋าสาด คือองค์ชายหก"
“อะไรนะ?” สีหน้าของชายารองติงแข็งทื่อขึ้น ดวงตาเบิกกว้างแล้วพูดเสียงดังฟังชัดด้วยความตกใจว่า
“เป็นไปไม่ได้ คนใช้บอกว่านางแพศยาคัง เสว่มี่นั่นถือหนังสือเข้ามาไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงเป็นองค์ชายหก?”
นางก็ไม่สนความเจ็บแล้วรีบลุขขึ้นมา แล้วมองดีๆไปที่คนที่เลือดหมาเต็มตัวนั้น ไม่ใช่ องค์ชายหก แล้วจะเป็นใครล่ะ!
ทันใดนั้นในใจก็สั่นขึ้นมา ชายารองติง บังคับตนเองให้สงบนิ่งไว้ รีบเดินไปข้างหน้า อีกหลายก้าว ทำความเคารพอย่างกล้าๆกลัวๆว่า:
“ถวายบังคมองค์ชายหกเพคะ!”
หน้าใบนิ่งของไป๋หลี่เหลียนไม่มีรอยยิ้ม แบบลมที่พัดในฤดูผลิอีก ไม่ว่าใครถูกสาดเลือดแดงๆทั้งตัว ก็ยิ้มออกมาไม่ได้ เขาฮึเสียง อย่างเย็นๆแล้วเอ่ย
“ชายารองติงใช่ไหม เมื่อสักครู่ข้าได้ยินว่า ข้าถูกปีศาจสิงร่าง จะมัดข้าเอาไว้ใช่ไหม?”
เสียงของเขาไม่ดัง แต่ชายารองติงกลับ ได้ยินจนตัวสั่นทั้งตัว รีบก้มหน้าลง
“องค์ชายหกเพคะ เมื่อสักครู่เป็นการเข้าใจ ผิด นางมารที่ข้าพูดถึงนั้นไม่ใช่ท่านเจ้าค่ะ”
“ไม่ได้ชี้ถึงข้าแล้วชี้หาใครล่ะ?” ไป๋หลี่เหลียนหรี่ตาลงเล็กน้อยมองไปที่ชายารองติง ในตาดอกพีชแข็งตัวเป็นน้ำแข็งหนึ่งชั้น
ชายารองติงตะลึง คนที่นางจะสาดคือคังเสว่มี่ แต่ตอนนี้คังเสว่มี่นี่กลับมาด้วยกันกับองค์ชายหก ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายหกจะช่วยใคร
นางไตร่ตรองว่าจะพูดยังไงดีกว่า
“องค์ชายหกเพคะ ชายารองติงจะสาดท่านได้อย่างไร ต้องเป็นคนที่ถูกปีศาจสิงร่าง คนนั้นแน่นอนคือสาดคังเสว่มี่สิ!”
คังเสี้ยเหอเห็นชายารองติงก้มหน้าลงไม่ยอมเอ่ย ก็เลยพูดออกมาเองไม่ว่าอย่างไร สาดคังเสว่มี่ดีกว่าสาดองค์ชายหก องค์ชายหกเป็นถึงพระโอรสขององค์ฮ่องเต้
ชั่วพริบตาเดียวทั้งตัวของไป๋หลี่เหลียนก็แพร่กระจายไปด้วยความรู้สึกที่หนาวเย็น เทียบกับเมื่อสักครู่แล้ว เวลานี้ยังทำให้คนรู้สึกหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น
ดวงตาราวกับน้ำแข็งเกาะเป็นกลุ่ม ยิ้มเยาะแล้วพูดขึ้นว่า
“ใช่หรอ? ที่แท้แล้วจะสาดเสว่มี่หรอ!”
“ใช่เพคะ ใช่เพคะ” คังเสี้ยเหอรีบพยักหน้า ไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของ ไป๋หลี่เหลียน แต่เดิมนางก็จะสาดคังเสว่มี่อยู่แล้ว
ไม่มีอะไรใครเขาจะไปสาดพระราชโอรสของแคว้นกัน
“คุณหนู ได้ยินหรือยังเจ้าคะ? ตั้งแต่ชวนหลันจากลากับคุณหนูแล้ว พอกลับมาถึงตำหนักผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็พุ่งเข้ามาอย่างกระทันหัน
พูดว่าวิหารหลิงหลงมีปีศาจอยู่ จะเข้ามา ทำพิธี ขจัดพลังปีศาจ
บ่าวไม่ยินยอมให้พวกเขา เข้ามาทำเรื่องด่างพร้อยให้สวนที่นี่ของคุณหนู พวกเขาเลยผลักข้าน้อยทิ้ง แล้วพานักบวชลัทธิเต๋านั้นเข้ามา.
แล้วมาติดยันต์เหลืองพวกนั้นที่สวน แล้วยังสาด “น้ำขจัดปีศาจ”อะไรที่เละเทะก็ไม่รู้
ยังบอกว่าพลังปีศาจในห้องนอนของคุณหนูแรงที่สุด บ่าวขัดขวางพวกเขาไม่ไหวจริงๆ บอกว่าจะไปหาคุณหนู พวกเขาก็เอาบ่าว มัดเอาไว้แล้วยังยัดผ้าขี้ริ้วอันนี้อีก!"
ชวนหลันจับผ้าขี้ริ้วเป็นก้อนนั้นขึ้นมา โยน ไปที่คังเสี้ยเหอ ในตาล้วนเป็นเปลวไฟที่ เดือดดาล
คังเสว่มี่ดูข้อมือที่ถูกมัดจนแดงของชวน หลัน ดวงตากรุ่นโกรธ นางแค่ไม่อยู่ตำหนักสักพักเอง ชายารองติงก็กล้าที่จะพุ่งเข้ามาในสวนของนาง
แววตาทั้งคู่กระจายอากาศเยือกเย็นที่ แตกต่างจากปกติ มองคังเสี้ยเหอกับชายารอง ติงอย่างเย็นๆ มุมปากยกยิ้มเงยหน้าขึ้นอย่างเฉยชาขมวดคิ้วพูดว่า
“ข้าก็อยู่ตรงนี้ พวกเจ้าไม่ใช่จะขับไล่ปีศาจหรอกหรอ? มาสิ เอาเลือดหมาดำสาดที่ตัว ของข้าเลย ข้าก็อยากจะดูว่าปีศาจที่พวกเจ้าพูดหน้าตาเป็นอย่างใด”
นางยิ้มแย้ม ท่าทางดูเหมือนคนพูดง่ายมาก แต่ยืนอยู่แค่ตรงนั้น ทั้งตัวกระจายไป ด้วยลักษณะพลังที่น่ากลัว
คนอื่นไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นอีก
ชายารองติงได้เสียเปรียบในมือของคังเสว่มี่มาสองครั้งแล้ว รู้ว่านางในตอนนี้ไม่ได้ งกๆเงินๆเหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นเม่นที่แทงมือไปทั่วถ้าไม่ระวัง
ก็เพราะท่าทางนางในตอนนี้แตกต่างกัน ราวฟ้ากับดินจากแต่ก่อน วันก่อนคังเสี้ยเหอ ได้ถูกกักตัวในที่สุดก็ได้ออกมาสักที
แผลที่ขาก็ใกล้ที่จะหายแล้ว ก็เลยไปหา
นาง
หลังจากได้ยินนางพูดถึงความเป็นมาของแผลบนหน้าที่ถูกลวก คังเสี้ยเหอก็บอกว่าตัวของ คังเสว่มี่มีภูตผีปีศาจอะไรหรือเปล่า?
พอดีช่วงเวลานี้แม้กระทั่งโก๋วจื่อเจี้ยนก็ เกิดเหตุการณ์ “ยี่สิบสองวิญญาณ” ชายารอง ติงก็เลยรู้สึกว่าคังเสว่มี่เปลี่ยนไปอย่างผิดปกติเลยอยากไปเชิญนักบวชลัทธิเต๋าคนหนึ่ง มาที่บ้านทำพิธีแน่นอน นางยังยัดถุงเงินให้นักบวชลัทธิเต๋า เพื่อทำกลอุบาย ไม่ว่าคังเสว่มี่จะถูกสิงร่าง จริงๆหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องกลายเป็น“ปีศาจ”เพื่อให้นางถูกขังขึ้นมาพอถึงตอนนั้นนางค่อยให้คนเอาคังเสว่มี่ ปลอมตัวทำตัวเป็นคนบ้าที่ข้างนอกก็บอกว่าเพราะถูกภูตผีปีศาจสิงร่างแล้วปราสาทเสียฉวยโอกาสวันนี้คังเสว่มี่ไม่อยู่ท่านอ๋องคังก็ออกไปแล้วเมื่อกี้คังเสว่มี่เพิ่งเข้าตำหนัก คนที่วางแผน ไว้เลยรีบมาบอกกับนาง นักบวชลัทธิเต๋าก็เลยเตรียมตัวดีๆก่อนคังเสว่มี่เข้ามาสาดให้นางอย่างรับมือ ไม่ทันใครจะคิดได้ว่าคำนวนทุกก้าว สุดท้าย กลับถูกองค์ชายหกที่ปรากฏออกมาอย่าง กะทันหันนี้ทำลายแผนไปจนหมดขณะนี้ชายารองติงก็ไม่สามารถที่จะให้ นักบวชลัทธิเต๋าสาดเลือดหมาอีก นักบวชลัทธิเต๋านั้นถูกองค์ชายหกใช้เท้าเตะไปป่านนี้ตับไตไส้พุงที่ถูกชนจนแรงมากคงช้ำไปหมดแล้ว ขณะนี้ยังล้มอยู่ที่พื้นอย่างอ่อนปวกเปียก ในปากยังมีเลือดสดไหลออกมาไม่หยุดอีกด้วย...
copy right hot novel pub