องค์ชายหกที่ถูกคนสาดเลือดหมาใส่ ตอนก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เขาใช้เท้าเตะออกไป เห็นไดชัดว่า ใช้แรงเยอะมาก
เห็นพวกเขาตั้งนานแล้วก็ไม่ขยับ หัวคิ้วของคังเสว่มี่ก็ยกขึ้นสูงมาก ฝีปากประชด หัวเราะเยาะ
“ทำไม ขณะนี้ปีศาจอย่างข้ายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเจ้ากลับไม่สาดแล้ว หรือว่าคนที่ พวกเจ้าจะสาดตั้งแต่แรกก็คือองค์ชายหก?”
“คังเสว่มี่ เจ้าไม่ต้องพูดไปเรื่อย ข้าจะรู้ ได้อย่างไรว่าองค์ชายหกจะมา ของพวกนี้ถูกเตรียมพร้อมไว้อย่างดีเพื่อเจ้า ใครเขาตั้งใจจะไปสาดองค์ชายกัน!”
ชายารองติงโต้แย้ง ถึงแม้หน้าของไป๋หลี่เหลียนจะมีเลือดหมาหยดลงมา พัดที่จับในมือกลับเสถียรมาก ไม่ได้ทำลายบุคลิกที่สง่างามของเขาแม้แต่น้อย.
เขาหันหน้าแล้วมองไปที่ชายารองติง
“ชายารองติง ตอนข้าเข้ามาได้ยินอย่าง ชัดเจนมาก นักบวชลัทธิเต๋าผู้นั้นพูดว่าเลือด เทวดาติดตัวภูตผีปีศาจ ก็จะมีแสงทองปรากฏ”
เขาดึงแขนเสื้อครึ่งข้างที่ย้อมเลือดแล้วส่องแสงขึ้น ในตาที่ราวกับดอกพีชแฝงความ สลัวที่เดาไม่ออก บนหน้ากลับยิ้มแย้ม
“เจ้าดู ตัวของข้าต่างก็เป็นแสงทอง นี่มัน หมายความว่าข้าถูกภูตผีปีศาจสิงร่าง!มิใช่หรือ
ถึงแม้เสว่มี่ไม่ได้ถูกพวกเจ้าจับได้ แต่จับ ข้าได้ก็ไม่เลวนี่
ตอนนี้เจ้ารีบไปบอกกับท่านอ๋องคัง ให้เขา รีบไปรายงานเสด็จพ่อของข้า"
ได้ยินคำพูดนี้ ทั้งตัวของชายารองติงสั่น
ไปหมดแล้วจริงๆ นางสาดเลือดสกปรกใส่พระราชโอรสของกษัตริย์ก็ถือว่า เป็นโทษหนักหนาแล้ว
แล้วยังจะกล้าไปบอกกับฝ่าบาทอีกได้อย่างไร ชายารองติงรีบขอร้องอย่างน่าสงสาร
“องค์ชายหกเพคะ คือความผิดของข้าน้อยเอง นักบวชลัทธิเต๋าที่ข้าน้อยเชิญมามีตาหามีแววไม่
คาดไม่ถึงว่าจะเอาเลือดหมาของที่สกปรก แบบนี้มาสาดที่ตัวขององค์การหก องค์ชายหกใจกว้าง ขอพระองค์ประทานอภัย ยกโทษให้ข้าน้อยด้วยเถอะเพคะ
ถึงแม้เลือดหมาจะเป็นนักบวชลัทธิเต๋าเป็นคนลงมือสาดก็เถอะ แต่ข้าน้อยเป็นคนเชิญเขามาเองดังนั้นความผิดก็อยู่ที่ข้าน้องขอองค์ชายหกอย่าได้ถือสาเลยเจ้าค่ะ”
ถ้าโวยวายไปถึงพระราชวัง นักบวชลัทธิ เต๋าต้องมีโทษแน่
หลังจากไป๋หลี่เหลียนจับแขนเสื้อสะบัด
แล้วสะบัดอีก หมุนกายไปที่ในสวน หาเก้าอี้ แล้วนั่งขึ้นลงไป ไม่ถือสาที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดที่กำลังหยดลง
เขายังส่ายพัดหยกเขียวต่อไป หันหน้ามอง ชายารองติงแล้วพูดอย่างอ่อนโยนเป็นกันเอง ว่า:
“ชายารองติง เจ้าไม่ผิด เวลานี้มันก็กำลังกระพริบไปด้วยแสงสีทองแล้ว ต้องมีปัญหาแล้วอย่างแน่นอน เจ้ารีบๆไปเถอะ”
เขาพูดจบ. ก็ไม่สนใจว่าสีหน้าของชายา รองติงจะเปลี่ยนไปได้ไม่ดีขนาดไหน, โบกมือ ไปที่คังเสว่มี่ว่า:
“เสว่มี่ เจ้าหาเก้าอี้มานั่งที่นี่สักตัวสิ เดี๋ยวมาช่วยชายารองติงเอาภูตผีปีศาจออก จากตัวของข้าด้วยกัน”
คังเสว่มี่พูดลับๆว่า ในใจของไป๋หลี่เหลียน ต้องรู้สึกไม่สบายแน่ แต่นี่มันเก๊กท่าเตรียมจะแกล้งชายารองติงใช่ไหม
นางดูไป๋หลี่เหลียน เพราะตอนที่พุ่งเข้าไป ที่ค่ายกลหลิงหลง มงกุฎของไป๋หลี่เหลียน หลวมเล็กน้อย เสื้อผ้าที่ตัวก็ฉีกขาดเป็นหลายเส้น
หนังสือกองอย่างสูงๆก็บังหน้าของเขา
ตอนที่เขามาก็ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไร จึงไม่ได้แสดงตัวตนให้คนไปส่งข่าว
คนใช้ที่ส่งข่าวคงคิดว่าเป็นองครักษ์หน้าจวนประตูจวนอ๋องที่ยกหนังสือเข้ามาส่งนาง
คนในตำหนัก เลยไม่ได้รายงานกับชายารองติง
ครั้งนี้ เป็นนางเองที่เดือดร้อน นางเดินไป มองไป๋หลี่เหลียนแล้วพูดว่า:
“ขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าช่วยข้ายก หนังสือเลือดนี้น่าจะสาดที่ตัวของข้า.."
“ไม่เป็นไร! หนังสือนี้คือข้าดันจะช่วยเจ้ายกเอง”
“ไม่สาดข้า งั้นก็ต้องสาดที่ตัวของเจ้า! ให้ หน้าของเจ้าติดเลือด อย่างไงถึงต้องเป็นโทษใหญ่ของข้า”
ครึ่งหน้าที่สวยงามของไป๋หลี่เหลียนย้อม เลือดโสมม ดูเหมือนว่าเกินมุมตลกไปหน่อย
แต่คังเสว่มี่ไม่รู้สึกว่ากิริยาท่าทางที่สง่างามและหล่อเหลาของเขาจะถูกทำลายไป แม้แต่นิด ในใจรู้สึกร้อนขึ้นมา ก็ไม่พูดอะไร มากมายอีก
นางยกเก้าอี้มานั่งข้างๆเขา มองเขาแล้วยิ้ม
“ได้ งั้นข้ามานั่งด้วยกันกับเจ้าที่นี่ รอท่าน พ่อกลับมา, ดูสิว่าตัวของข้าจะมีภูตผีปีศาจสิงร่างจริงๆหรือไม่”
ชายารองติงดูคังเสว่มี่กับไป๋หลี่เหลียน สองคนหนึ่งคนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เหมือนท่านอ๋องคังไม่มาก็จะไม่ไปเด็ดขาด
นิ้วมือกุมอย่างแน่หยุดเหลียวมองไปมาที่ตัวของทั้งสองอย่างไม่หยุด
สุดท้ายตกลงมาที่รอยเลือดที่ตัวของไป๋หลี่เหลียน แววตากระพริบ ยิ้มอย่างเอาใจว่า
“องค์ชายหกเพคะ เดี๋ยวข้าไปเรียกท่านอ๋องของตำหนักมาเอง
แต่ว่าอากาศร้อนอบอ้าว องค์ชายเพคะเลือดโสมมติดตัวไปทั่วเลย ต้องไม่สบายมากแน่
ไปอาบน้ำทำความสะอาดที่ตำหนักก่อนจะดีกว่า ท่านอ๋องก็มาพอดี แบบนี้องค์ชายหกคิดว่าเป็นอย่างไรพคะ?”
ไป๋หลี่เหลียนพับพัดเข้า ส่ายหน้าแล้วพูดว่า:
“ไม่ได้ ต้องไม่ได้แน่นอน ข้าพระราชโอรสในตัวมีภูตผีปีศาจ ล้างเลือดเทวดา ทิ้งแล้ว ภูตผีปีศาจก็หนีล่ะสิ”
คังเสว่มี่เหลียวมองหน้าที่ขาวซีดของชายา รองติงอยู่แวบหนึ่ง พูดในใจว่า:
ชายารองติง เจ้าอย่าคิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่ไปหมด นี่ล้างอย่างสะอาดสะอ้าน ก็เท่ากับ ว่าจัดหลักฐานทั้งหมดทิ้ง
ไป๋หลี่เหลียนเป็นท่านอ๋องที่เจ้าชู้ แต่ อย่างไรก็ตามก็ออกมาจากพระราชวัง กล อุบายแค่นั้นของเจ้าหลบไม่พ้นใต้ตาเขาหรอก
เมื่อ เห็นชายารองติงยังอืดอาดไม่ที่สุดไป๋หลี่เหลียนก็แสดงความไม่พอใจ ยกคิ้ว
ก็ได้
“ถ้าเจ้าไม่อยากเชิญท่านอ๋องคังมา งั้น
ข้าก็ไปหาเสด็จพ่อและเสด็จย่าเอง จำต้องเชิญคนเอาภูตผีปีศาจในตัวของข้าออก"
เห็นองค์ชายหกจะไปจริงๆ ทั้งตัวนี้ถ้าให้ ฝ่าบาทเห็นเข้า งั้นต้องเป็นเรื่องแน่
ถึงแม้ชายารองติงจะไม่เต็มใจมากที่ให้คนไปเชิญท่านอ๋องคังกลับมา
นางดึงคังเสี้ยเหอมา อยู่อีกข้าง ฉวยโอกาสช่วงเวลานี้
ดูว่าจะหาวิธีได้หรือไม่ ให้องค์ชายหกช่วย พวกเขา
“ทำไงดี ท่านแม่ ถ้าท่านพ่อกลับมาเห็น เข้า ต้องโมโหอีกแน่นอน!” คังเสี้ยเหอจับชายา รองติงไว้ ใบหน้าที่เหมือนดอกไม้เต็มไปด้วย ความกลัว
ไม่กี่วันที่ผ่านมานางได้ถูกกักตัวไว้ ไม่ง่ายเลยที่เวลาถึงแล้วได้ออกมา แต่ไม่คิดเลย ว่าจะถูกกักขึ้นมาอีก
ขณะนี้ชายารองติงก็คิดวิธีที่ดีไม่ได้แล้ว เลือดหมาทั้งตัวขององค์ชายหก ก็คือหลักฐานเต็มๆ
รออีกเดี๋ยวถ้าไม่ได้จริงๆ ก็เอาภาระโยนให้นักบวชลัทธิเต๋า พูดอีกว่าจะสาดคังเสว่มี่สาดนางดีกว่าสาดพระราชโอรส
เห็นชายารองติงไม่พูด คังเสี้ยเหอจับ ชายารองติงแล้วพูดสั่นว่า: “ท่านแม่ ทำไงดี ทำไม ท่านแม่ไม่พูด!”
“ไม่เห็นข้ากำลังคิดอยู่หรอ!” แต่เดิมชายา รองติงก็ร้อนใจแล้ว ถูกสั่นก็ยิ่งเวียนหัว จ้องคังเสี้ยเหออย่างแน่วแน่
ลูกสาวคนนี้ ความอดทนไม่ดี และไม่ชอบ
ใช้สมอง
เสียดายหรูรู่ไม่ได้อยู่ข้างๆ ถ้าหรูรู่อยู่ ต้องช่วยนางคิดวิธีอย่างแน่นอน
ค้งเสี้ยเหอถูกชายารองติงดุว่า ผลักมือของนางทิ้งอย่างไม่ไยดี หันหน้าไปดูองค์ชาย หกที่กําลังคุยกับคังเสว่มี่อยู่ เบะปากในแววตาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจคังเสี้ยเหอถูกชายารองติงตำหนิ ผลักมือ ของนางทิ้งอย่างไม่พอใจทันใดนั้นนางนึกถึงเรื่องหนึ่งแล้วเดินขึ้นไปตรงหน้าของชายารองติง “ท่านแม่ ข้า นึกถึงวิธีที่ดีอย่างหนึ่ง อาจสามารถทำให้องค์ชายหกเปลี่ยนความคิดเห็นได้”ชายารองติงกำลังรำคาญอยู่ เห็นนางมีวิธี จึงมีความสนใจที่จะฟัง “เจ้าพูด”“ท่านแม่ แต่ก่อนคังเสว่มี่ยังไม่รู้จักกับองค์ชายหกเลย แต่ตอนนี้กลับดันมาช่วยนาง ยังส่งนางกลับมาคงเป็นเพราะเห็นคังเสว่มี่นั้นยังถือว่าสวยถึงมีใจที่อยากทะนุถนอม ได้ข่าวว่าองค์ชาย หกเป็นคนเจ้าชู้มาก ดูแลเอาใจใส่คนสวย ใจกว้าง มิสู้ให้ลูกไปขอร้ององค์ชายหก ให้เขาเห็นลูก ก็คงหลุดปากก็ได้”คังเสี้ยเหอคิดในใจ นางสวยเพียงนี้ องค์ ชายหกเห็นนาง จะจำคังเสว่มี่ได้ที่ไหนถึงองค์ชายหกจะเป็นองค์ชายที่ไม่มีสิทธิใน อำนาจก็ตาม เทียบกับองค์รัชทายาทแล้วแตกต่างกันมาก แต่เพื่อท่านแม่นางยอมเสียสละความสวยตนเองหน่อย“ เช่นนั้นข้าน้อย ก็ขอขอบพระคุณองค์ชายหกมากนะเพคะ”ชายารองติงก็ดีใจขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าคังเสี้ย เหอออกตัวที เรื่องอะไรก็แก้ไขได้ง่ายดาย เพียงนี้ ลูกสาวคนนี้ก็ไม่ได้ถือว่าโง่ขนาดนั้นไป๋หลี่เหลียนขมวดแล้วขมวดหัวคิ้ว ไม่ เข้าใจว่า: “เจ้าขอบคุณข้าอะไร เจ้าพูดมา เยอะเพียงนี้ เจ้าคือใคร? แล้วท่านแม่ของเจ้า คือใครข้าล้วนไม่รู้?"
copy right hot novel pub