“เจ้ายังมีความปรารถนาอะไรที่ยังไม่เกิดผล อีกไหม ให้ข้าช่วยทำให้เกิดผลอีกหรือไม่?” “อื้ม..”
เสียงของแม่นางชัดเจนละเอียดมากขึ้นถึงความดีใจ
คำพูดในตอนนี้กลับฟังแลดูลื่นหูมากขึ้น ไม่เห็นเจ้าปิดตัวเองแล้ว คังเสว่มี่ตำหนิขึ้นมาทันใดว่า
“ข้าอยู่ในกายเจ้า ช่วยเจ้านำความปรารถนาให้บังเกิดผลได้ แต่ ข้ามีเงื่อนไข ข้อแรก ช่วยให้เจ้าแต่งงานกับบุรุษที่เจ้ารัก เช่นนี้ไม่ได้ ข้อสอง ฆ่าคนหรือจุดไฟเผาโดยไม่มีสาเหตุก็ไม่ได้
ถึงแม้ว่านางจะแฝงตัวเป็นสายลับและมักจะเคยติดต่อสัมพันธ์กับคนในเงามืดอยู่บ่อยครั้งทำเรื่องที่เหยียบเส้นตายบางเรื่องมาหลายครั้งก็ตาม
แต่โดยแก่นแท้แล้ว นางก็เป็นคนดีมากคนหนึ่งเชียวหล่ะ
สองวันติดต่อกันมานี้ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นภายในตำหนักอ๋องคัง
หลังจากที่อ๋องคังได้ให้หมอหลวงตรวจแผลให้คุณหนูใหญ่แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้บันดาลโทสะออกมา แล้วออกคำสั่งให้จับชายารองติงไป
หลังจากซักถามกันแน่ชัดแล้วแล้วก็ได้รู้ว่าอ๋องคังนั้นให้คนพาชายารองติงไปยังศาลบรรพบุรุษของวงศ์ตระกูล คุกเข่าอยู่ที่นั้น แล้วทบทวนถึงการกระทำของตัวเองให้ดีๆ เป็นเวลาเจ็ดวัน
ว่ากันว่าตอนที่ชายารองติงโดนคนพาตัวออกมา ใบหน้าที่บำรุงดูแลมาอย่างดีของชายารองได้บวมเป่งด้วยรอยประทับของฝ่ามืออย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่คังเสี้ยเหอก็ได้ร้องไห้พร้อมกับวิ่งไปฟ้องอ๋องคังว่าคุณหนูใหญ่คังเสว่มี่นั้นได้ขัดขานาง ทำให้นางไม่สามารถกระโดดโลดเต้นได้อีก อยากให้อ๋องคังจัดการแทนนางด้วย
ในเวลาปกติหากอ๋องคังเห็นคุณหนูสามร้องห่มร้องไห้ก็มักจะแสดงความรู้สึกเจ็บปวดใจออกมาในทันที
แต่ในวันนี้อ๋องคังไม่เคยพูดคำปลอบโยนใดๆออกมามาหนำซ้ำยังดุด่าคุณหนูสามคังออกไปด้วย
จากข่าวสารที่กระจายมาจากคนรับใช้ภายในตำหนักส่วนตัวของอ๋องคัง
วันนั้นเสียงของท่านอ๋องที่ตะโกนตวาดคุณหนูสามก็ได้ดังออกมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน จากในห้องของอ๋องคังและเสียงร้องไห้สะอื้นของคุณหนูสามคังเสี้ยเหอก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย
สุดท้ายแล้วในเวลาต่อมา ทุกคนก็ได้เห็นน้ำตาที่นองหน้าของคุณหนูสามที่มีใบหน้าซีดเผือด รูปลักษณ์ที่ดูเสื่อมโทรมราวกับดอกเบญจมาศที่ถูกลมพัดปลิวหายไป
ก่อนจะมีคนมาประคองแล้วเดินกะเผลกออกไปจากตำหนัก
หลังจากที่เข้ามาในเรือนเหอลู่แล้ว ก็ได้ยินเพียงแค่เสียงของสิ่งของที่แตกหักดังเพล้ง ๆปัง ๆติดต่อกันเท่านั้น โดยที่คุณหนูสามไม่ออกมาอีกเลย
ตั้งแต่ในช่วงเวลานี้ สิ่งดีๆในตำหนักอ๋องคัง เริ่มถูกส่งไปยังวิหารหลิงหลงของคุณหนู่ใหญ่คังอย่างต่อเนื่อง ที่เดิมทีคุณหนูใหญ่คังเจ้าของเรือนผู้นี้ก็คือผู้ที่ถูกคนดูถูกมาอย่างเนิ่นนาน
เหล่าคนรับใช้บ่าวนางกำนัลในตำหนักนั้นอารมณ์ก็พลันอ่อนไหวเอนเอียงไปตามทิศทางลมเกิดความมั่นใจมากใน สองเรื่องนี้ ด้านหลังของตำหนักอ๋องคัง ก็ไม่ใช่อาณาบริเวณของชายารองติงเพียงคนเดียวอีกต่อไป
ทุกคนต่างทอดมองไปยังวิหารหลินหลวของคุณหนูใหญ่คังเสว่มี
แววตาของพวกอยากจะเข้าไปสำรวจตรวจตราสถานการณ์ที่ที่ถูกผู้อื่นมองข้ามแต่น่าเสียดาย เจ้าของที่อยู่ภายในกลับไม่มีทีท่าว่าจะเปิดประตูต้อนรับแต่อย่างใด
สองวันมานี้ นอกจากจะเปิดประตูในตอนที่มีคนมาส่งข้าวส่งน้ำ ยังยื่นมือออกไปรับของที่ท่านอ๋องส่งมาด้วย เท่านั้นแล้ว มือข้างเดียวอีกด้วย ในช่วงเวลาอื่นก็ยังปิดสนิทอยู่เช่นเดิม
คุณหนูใหญ่เกรี้ยวกราดต่อท่านอ๋องมาก ได้ยินมาว่า ไม่สนใจท่านอ๋องเลย
ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เช่นนี้ คังเสว่มี่ไม่ได้สนใจหรือมีความโกรธเคืองของอ๋องคังแต่อย่างใด นางเพียงแค่หลับไปเท่านั้นเอง
ร่างกายที่สูญเสียเลือด ไม่ใช่ว่าจะฟื้นคืนกลับมาในชั่วพริบตาเดียว ดังนั้นสองวันมานี้ นางจึงกิน ดื่ม ลดน้อยลง แล้วพักรักษาตัวให้ร่างกายฟื้นฟูขึ้นมาเมื่อได้ยินข่าวซุบซิบนินทาเหล่านี้ที่ชวนหลัน พูดออกมา นางก็โก่งคิ้วกระพริบตา สำหรับแม่กับลูกสาวอย่างชายารองติงที่ต้อง พบเจอเรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจสักนิด“การฟ้องร้องที่เน้นหนักไปทางศิลปะชิ้นนี้ ออกมาจากปากตัวเองไม่สู้เท่าออกมาจากปากผู้อื่น!"ชวนหลันเองก็กระพริบตาปริบๆ “ถึงแม้ว่าเรื่องที่คุณหนูพูดมา ชวนหลันจะไม่เข้าใจก็ตาม แต่ก็สัมผัสได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมากอย่าง แน่นอนเจ้าค่ะ!"ใบหน้าของคังเสว่มีปรากฏเส้นสามขีดขึ้นมา “คำคม” ที่ล้วนแล้วแต่ออกมานี้ ชวนหลันเจ้ายังจะเชื่อถือได้ทั้งที่ตนเองไม่รู้ความหมายได้อยู่อีกหรือ?“เอาละๆ อย่าไปใส่ใจเรื่องพวกนี้เลย หยิบเสื้อผ้าให้ข้าชุดหนึ่ง เราจะออกไปข้างนอกกัน!”
copy right hot novel pub