แต่..
เมื่อสายตาตกไปอยู่บนตัวอักษรคำว่า “ร้านอาหารจุ้ยเซียน” บนป้ายหน้าร้านนั้น ดวงตาก็หยุดลงชั่วคราว
ลักษณะของคำๆนี้ช่างดูใสสะอาด ลงปากกาด้วยศิลป์วรรณกรรม แต่กลับไม่บ่งบอกปัจจุบันไม่บ่งบอกถึงโบราณ ก่อร่างขึ้นมาเป็นคำเดียว
ไม่มีใครรู้ว่าคนไหนเป็นผู้ลงลายมือให้แก่ซ่องนี้ ทำให้แผ่นป้ายเดี่ยวๆนี้ที่มีชื่อว่า “ร้านอาหารจุ้ยเซียน” ดูสูงขึ้นไม่น้อย
ถึงแม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลายามบ่ายได้ไม่นาน ก็ตาม แต่ “ร้านอาหารจุ้ยเซียน” ก็เปิดร้านค้าขายกันแล้ว ส่วนด้านหน้าของประตูใหญ่ ก็มีรถม้ามาจอด เหล่าบรรดาบุรุษน้อยใหญ่ที่สวมเสื้อผ้าดุจหยกก็ต่างพา กันถลันเข้าไป
คังเสว่ที่รู้ว่า ในสมัยโบราณนั้น หญิงสาวที่ครอบครัวดีมีฐานะสูงส่งจะไม่มีทางมาซ่องเช่นนี้ ถึงจะต้องผ่าน ก็ยอมที่จะเดินอ้อมประตูซ่องไป เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นขี้ปากของผู้อื่น
นางไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้นัก สถานที่ซ่องแห่งนี้ บุรุษต่างก็สามารถเข้าไปทำเรื่องอย่างว่ากัน ได้
ทำไมแม่นางจะเข้าไปได้ดูสักหน่อยไม่ได้ละ
นางละสายตาไปมองชวนหลันแวบหนึ่ง เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูลังเลใจ จึงไม่บีบบังคับแต่อย่างใด ถึงอย่างไรความคิดของทุกคนก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว จึงพูดกับนางเบาๆว่า “หากเจ้าไม่อยากเข้าไป เช่นนั้นก็ไปหาร้านน้ำชาฝั่งนั้นรอข้าแล้วกัน”
ชวนหลันมองไปทางร้านอาหารจุ้ยเซียน จากนั้นก็มองมาทางคังเสว่มี่อีกครั้ง สุดท้ายก็กัดริมฝีปาก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันไพเราะว่า “คุณหนูไปไหน ชวนหลันก็จะไปที่นั้นด้วยเจ้าค่ะ!”
นางเคยกล่าวไว้ว่าจะต้องอยู่กับคุณหนู แค่เพียงซ่องก็ทำคอหดเสียนี่ มันใช้ได้เสียที่ไหน
คังเสว่มี่หันหน้าไปยิ้มกับชวนหลัน “เอาละ ไปกันเถอะ เราไม่ได้เข้าไปนอนกับหญิงสาว ไม่ได้ไปขายเรือนร่าง ไม่มีอะไรที่น่ากลัว”
นางยืดตัวตรงไม่เกรงกลัวแม้เงาจะเอนเอียง แล้วเข้าไปทำเรื่องที่ต้องทำ เมื่อเปรียบเทียบกับบุรุษเหล่านั้นแล้ว นางถูกทำนองคลองธรรมยิ่งกว่า
ทั้งสองคนเดินไปยังหน้าประตูของร้านอาหารจุ้ยเซียน ถึงแม้ว่าในเวลานี้จะไม่มีคนพลุ่งพล่านเท่าไหร่ก็ตามแต่ตึกแถวที่มีเป็นจำนวนมากของถนนสายนี้ ก็กลายเป็นเสมือนซ่อง ร้านอาหารจุ้ยเซียน เหล่านี้ไปแล้ว
แม่นางที่มีชีวิตลำบากกว่าแม่นางภายนอกมัก จะปรากฎตัวขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ดังนั้นเมื่อเห็นคังเสว่มี่ที่แต่งตัวสะอาดบริสุทธิ์
และชวนหลันเหยียบย้ำไปบนเส้นนี้ สายตาของผู้คนไม่น้อยก็ต่างหยุดลงบนตัว ของพวกนาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคังเสว่มี่ที่แต่งชุดเต็มยศ อันหรูหรา อีกทั้งยังงดงามสง่านั้นเมื่อเห็นท่าทางที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนโยน ทำไมถึงได้ไปปฏิสัมพันธ์กับนางซ่องกันเล่า?
แม่นางที่มีฐานะ ครอบครัวดี ใครเขามาที่แห่งนี้กัน หรือว่า “ร้านอาหารจุ้ยเซียน ตั้งใจจะเปลี่ยนรสนิยมในเร็วๆนี้กันนะ ผลักไสเด็กสาวไร้เดียงสาบริสุทธิ์เช่นนี้ ดูท่าแล้ว เมื่อเติบใหญ่ขึ้น ก็คงจะไม่ต่างจากนางโลมที่งดงามอะไรมากมาย อย่างแน่นอน
ในสายตาที่ชวนหลงใหลของพวกเขา คังเสว่มี่พาชวนหลันที่ไม่เคยพบเจอเช่นนี้มาก่อน เดินเข้าไป
เวลาเดียวกันที่ร้านอาหารชิงเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหาร จุ้ยเซียน จี้อี้ที่สวมชุดคลุมยาวสีม่วงอ่อนกำลังนั่งอยู่ ข้างโต๊ะไม้ไผ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าบานหน้าต่าง บนชั้นสาม สายตาทอดมองลงไปเบื้องล่าง ดวงตาจ้องมองไปยังแม่นางที่ไม่เข้าพวกกับ คนอื่น ๆบนถนนเบื้องล่างทั้งสองคน ใบหน้าที่นิ่งเฉยได้หัวเราะเยาะออกมาเบาๆ
เมื่อชำเลืองไปเห็นซื่อจื่อที่กำลังหัวเราะด้วย ใบหน้าเรียบเฉยนั้น ฉวี่ซางจึงได้หันหน้ามองออกไป ก่อนที่นัยน์ตาจะเบิกกว้างออกมาด้วยความตกใจ “นั้นใช่คุณหนูคังเสวีมี่และสาวใช้ของนางใช่ หรือไม่พะยะคะ? ทำไมถึงได้เข้าไปในซ่องเล่า?”
หลังจากคราวที่แล้วที่เขาได้ไปสืบสาวหยิบยกเรื่องของคุณหนูใหญ่คังมารายงานซื่อจื่อ
เขาก็ดูสนใจเรื่องของคุณหนูใหญ่คังท่านนี้ขึ้นมาทันใด
“ข้าน้อยเห็นคุณหนูใหญ่คังที่ดูไม่เหมือนโง่เขลา ตรงกันข้ามกลับมีความเฉลียวฉลาดไหวพริบดียิ่งกว่าบรรดาบุตรสาวคนอื่นๆของอ๋องคังด้วยซ้ำพะยะ ค่ะ
เหตุใดผู้คนถึงบอกว่าคุณหนูใหญ่ผู้นี้โง่เขลากันเล่า หนำซ้ำว่านางเป็นใบ้เสียอีก ทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย"ฉวี่ซางผู้ที่สามารถยืนอยู่ข้างกายของจื้อี้ได้ ทั้งวิสัยทัศน์ธรรมชาติ ทั้งความรู้สึก ทั้งความสามารถล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดาอย่าง แน่นอนเมื่อมองออกไปยังแม่นางที่ยืนอยู่หน้าประตู ร้านอาหารจุ้ยเซียนเมื่อสักครู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้าอะไรมากมายก็ตาม แต่กลับมองเห็นได้ถึงความเฉลียวฉลาด ไม่ใช่ความโง่เขลาเบาปัญญาแต่อย่างใดจี้อี้พยักหน้า “อื้อ นางไม่โง่เขลา”“ในเมื่อนางไม่โง่เขลา เหตุใดจึงได้เข้าไปในซ่องเล่าพะย่ะค่ะ ที่แห่งนั้น เพียงแค่แม่นางเข้าไป ข่าวลือไร้สาระจำนวนไม่น้อยก็จะดังกระฉ่อน ไปทั่วปฐพีแล้ว นางเป็นเพียงแค่เด็กสาวคนหนึ่งจะไปทนแบก รับได้หรือ?”
copy right hot novel pub