โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 51 เหตุใดต้องบันดาลโทสะ

“ในเมื่อนางไม่โง่เขลา เหตุใดจึงได้เข้าไปในซ่องเล่า ที่แห่งนั้น เพียงแค่แม่นางเข้าไป ข่าวลือไร้สาระจำนวนไม่น้อยก็จะดังกระฉ่อนไปทั่วปฐพีแล้ว นางเป็นเพียงแค่เด็กสาวคนหนึ่งจะไปทนแบกรับได้หรือพะย่ะค่ะ?”

ฉวี่ซางเกิดความสงสัยขึ้นเล็กน้อย แม่นางผู้อื่นหลีกเลี่ยงซ่องแห่งนี้กัน มีอย่างที่ไหนดันพาตัวเองเดินเข้าไป

จี้อี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ขนตาเรียวยาวที่ใช้บดบังแสงแดดที่สาดส่อง ผ่านเข้ามาทางกระจก แววตานั้น เข้าใจทั้งหมดนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ก่อนหัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า

“เจ้าคิดดูสิ คนที่มีความสัมพันธ์กับคังเสว่มี่ ใครกันที่อยู่ในร้านอาหารจุ้ยเซียน?"

ฉวี่ซางอ้าปากโดยไร้เสียงออกมา คิดทบทวนถึงคนที่มีความสัมพันธ์กับอ๋องคัง และคังเสว่มี่ ไม่กี่ชั่วอึดใจ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปทางจี้อี้ทันใด “ท่านอ๋องหมายถึงคังซื่อจื่ออย่างนั้นหรือพะย่ะค่ะ?”

คางอันงดงามของจี้อี้เชิดขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นการตอบรับ

ฉวี่ซางมองไปทางร้านอาหารจุ้ยเซียน แล้วพูดขึ้นพร้อมกับขมวดปมคิ้วว่า “นางไปหาคังซื่อจื่อทำไมกัน แม่นางที่บุกเข้าในไปซ่องโดยที่ไม่สนใจ ความสมเหตุสมผลเช่นนี้คนเดียว ไม่ใช่เพราะคิดจะลากคังซื่อจื่อกลับตำหนักอ๋องคังหรอกนะ?”

แม่นางอยู่ในทำนองคลองธรรมที่ไหนกันจะเข้าไปในซ่อง การกระทำเช่นนี้ช่างองอาจเกินไปแล้ว

จี้อี้มองไปทางฉวี่ซางแวบหนึ่ง สายตามองแฉลบผ่านใบหน้าของเขาไป จนเข้าใจความคิดของเขาอย่างชัดเจน

“ฉวี่ซาง เจ้าอย่าได้ให้ความคิดของเจ้าถูกประเพณีครอบงำ ปิดบังไปเสียหมด ปิดบังซ่อนเร้น เช่นนี้จะทำให้เจ้าพลาดความจริงที่ซ่อนอยู่ ภายใต้ความเป็นจริงนี้ไป"

นํ้าเสียงของเขาที่ฟังดูไพเราะเพราะพริ้ง กลับแฝงไปด้วยพลังจนน่าตกใจ ทุกคำที่เข้ามาในหู ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น่าเคารพเลื่อมใสทั้งนั้น

ฉวี่ซางรีบก้มหน้าลง เพื่อให้ตัวเองทบทวนความสะเพร่าและความรู้ตื้นๆเมื่อสักครู่ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้อมรับคำสอน แต่ ข้าน้อยก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าจุดประสงค์ที่คุณหนูใหญ่คังเข้าไปในซ่อง คือต้องการไปตามให้คังซื่อจื่อกลับไปในเส้น ทางที่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ?”

“ธรรมะ อธรรม ทุกอย่างอยู่ที่ว่าทุกคนจะคิดเช่นไร เจ้ายังไม่เห็นสิ่งที่ถูกปกคลุมอยู่ภายในใจ เลย”

รอยยิ้มที่คลี่ออกมาจากปากของจี้อี้ ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย

พร้อมกับยกนิ้วขึ้นมาอย่างสง่า

“จุดประสงค์ของนาง เป็นเรื่องที่เจ้าเองก็ไม่กล้าคาดเดาอย่าง แน่นอน”

กลิ่นชาที่ตลบอบอวลไปทั่วทั้งสี่ทิศ ทำให้ห้องนั้นอบอุ่นและเงียบสงบเป็นอย่างมาก

ฉวี่ซางมองไปทางจี้อี้ที่ไม่ค่อยพูดคุยเรื่องแม่นางกับตัวเอง อีกทั้งใบหน้าก็ยังไม่แสดงสีหน้าท่าทางใดๆออกมาสักนิดด้วย จึงได้ตื่นตกใจอยู่เงียบๆในใจ ไม่กล้าแสดงสีหน้าออกมาอีก

เมื่อได้ยินคําพูดของจี้อี้ ฉวี่ซางก็ทบทวนอยู่เงียบๆครู่หนึ่ง ทันใดนั้นดวงตาจึงได้เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ขึ้นมาในทันที

“ซื่อจื่อ ทุกคนต่างรู้ดีว่าคังซื่อจื่อเป็นลูกผู้ดีสูงศักดิ์ คนแรกของประเทศฉีเทียน ที่นอกจากการศึกษาที่สูงแล้ว ก็มีเพียงการดื่มกินเที่ยวเตร่เท่านั้นไม่มีอะไรโดดเด่นเลยนะพะย่ะค่ะ หลังจากที่ไม่ได้กลับไปตำหนักแรมเดือน ร้านอาหารจุ้ยเซียนก็เปรียบเสมือนตำหนักของคังซื่อจื่อไปแล้ว

ทุกคนต่างพูดว่าไม่อยากให้บุตรสาวของตนมีความสัมพันธ์ใดกับคังวี่จิ่นเลย คุณหนูใหญ่คังจะสามารถพาคังซื่อจื่อกลับ ตำหนักด้วยกำลังตัวเองได้อย่างนั้นหรือ?”

เขาไม่ได้สงสัยในความสามารถของคุณหนูใหญ่คังหรอก แต่คังซื่อจื่อเป็นบุตรชายคนเดียวในตระกูลที่เอาแต่ใจตัวเองไม่สนใจรับฟังคำทัดทานใดๆของใครเลย

อ๋องคังบันดาลโทสะไปเท่าไหร่ ลงมือไปตั้งเท่าไหร่เพื่อเขา แต่หลังจากดุด่า หลังจากตีแล้ว คังซื่อจื่อก็ยังเป็นคนยโสโอหัง เอาแต่ใจ ไม่มีการโศกเศร้าและสำนึกตัวเลยสักนิด

แทบจะใช้คำว่าเชื่อฟังมาอธิบายกิริยานี้ของเขาไม่ได้เลย จะโน้มน้าวคนเช่นนี้ให้เชื่อฟังด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคได้อย่างไรกัน“เจ้าก็น่าจะรู้ว่าตำหนักอ๋องคังเกิดเรื่องอะไร ขึ้นภายในสองสามวันมานี้?”จี้อี้ไม่ได้ตอบคำถามเขาโดยตรง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย นิ้วชี้ดุจหยกได้หมุนไปบนยอดมังกรหยกบนนิ้วของเขาอย่างช้า ๆ จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วถูอย่างช้า ๆ ตามอำเภอใจฉวี่ซางพูดด้วยความเคารพ “ซื่อจื่อจะกล่าวว่าอ๋องคังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เรื่องคุณหนูสามและชายารองติง จึงให้พวกนางทั้งสองคนแยกกันไปอยู่ ณ ศาลเจ้าและตำหนักเพื่อให้ทบทวนเรื่องที่เกิด ขึ้นใช่หรือไม่พะยะคะ?”“อื้อ ” จี้อี้พยักหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดอ๋องคังจึงได้ทรงโทสะกระทันหันเช่นนี้?”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์