โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่238 ภูเขาน้ำแข็งละลาย

บทที่238 ภูเขาน้ำแข็งละลาย

รุ่ยรุ่ยเข้าประตูไป ทุกคนหันมาเหลือบมองเป็นตาเดียว ครู่เดียวเขาก็มองเห็นฉูเจ๋อหยางซึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เขาเผลอยกมือขึ้นสยายผม จากนั้นก็สำรวจความเรียบร้อยเสื้อผ้าของตัวเอง ตรวจสอบว่าไม่มีอะไรผิดพลาด

จากนั้นก็สูดหายใจลึกๆ และก้าวไปหาเขา

“ลุงฉูให้คุณลุงรอนานแล้ว”

ฉูเจ๋อหยางตอบอื้อคำหนึ่ง สายตาเขาจ้องไปที่แก้มซาลาเปาของรุ่ยรุ่ย เขาจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอหน้าของเขาไม่ได้ขาวอย่างนี้ น่าจะเพราะเป็นผลจากการที่พ่อแม่ไร้ความผิดชอบแน่ ถึงได้กลายเป็นแบบนี้

รุ่ยรุ่ยถูกฉูเจ๋อหยางจ้องจนเขม็งจนรู้สึกเขิน แม้ว่าแป้งจะหนาแค่ไหนก็ไม่สามารถบดบังสีแดงบนแก้มของเขาได้ “ลุงฉู ผมรบกวนลุงรึเปล่าครับ”

“เปล่านี่” เขาหยุดจ้อง เสียงเจี๊ยวจ๊าวรอบๆตัวทำให้เขาขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ชอบสถานที่ที่เสียงดังเกินไป ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะว่าต้องรอเด็กน้อยคนนี้ เขาไม่มีทางมาที่แบบนี้เด็ดขาด

“โว้ ผู้ชายคนนั้นหล่ออะ”

“เด็กนั่นไม่ใช่ลูกเขาใช่ไหม เท่ห์ระเบิด สองคนยืนอยู่ด้วยกัน คิ้วท์มากอ่ะ”

“ใช่แล้ว หน้าตาก็ละม้ายคล้ายกัน ใจฉันสั่นไปหมดแล้ว”

พวกเขาคล้ายกันรึ ฉูเจ๋อหยางบังเอิญได้ยินบทสนทนานั้น ตาเขาลอยไปที่หน้าเจ้าซาลาเปาน้อย จางนั้นก็หันไปจ้องตาดำตาขาวของตัวเอง

ยากที่จะเจอเด็กที่กล้าหาญเช่นนี้

เมื่อได้กลิ่นไก่ทอดลอยมา รุ่ยรุ่ยที่ “หิวโหย” มาเป็นเวลานอนก็ลูบท้องตัวเอง เขาพูดอย่างน่าสงสาร “ลุงฉู ผมหิวแล้ว”

ยังไงก็ตาม “พ่อตัวแสบ” ก็เป็นพ่อของเขา ขอกินเคเอฟซีมื้อหนึ่งก็คงจะไม่มากเกินไป

ฉูเจ๋อหยางคิดว่าปู้ติงคงจะหิวจนต้องหนีออกมา ใจเขาจึงเริ่มประณามผู้ปกครองที่ไร้ยางอาย เขาถามด้วยเสียงอ่อนโยน “อื้อ ลุงจะพาไปทานข้าวนะ”

ในสายตาฉูเจ๋อหยาง เคเอฟซีจัดว่าเป็นอาหารขยะ ไม่เหมาะสำหรับเด็กกำลังโต

“ลุงฉู ผมอยากกินมันบด กับปีกไก่” รุ่ยรุ่ยกระพริบตาปริบๆพร้อมพูดด้วยเสียงไร้เดียงสา

อย่ากินเคเอฟซี เขาจะมาทำไมที่นี่ พักนี้แม่เข้มงวดมาก คุณป้าเอากลับมาทีไรก็แอบเก็บเอาไปหมด เขไม่ได้กินมันบดมานานแล้ว

เขาน่าสงสารมากเห็นไหม

“ของพวกนี้เธอไม่ควรทาน ลุงจะพาไปทานข้าว” ฉูเจ๋อหยางไม่เห็นด้วย เขายังมีหลายเรื่องที่ต้องทำ แต่ก็ทนไม่ได้เพราะเด็กน้อยคนนี้ เขายอมละทิ้งทุกเรื่องและไปยังสถานที่ที่ตัวเองไม่ชอบเพื่อรอเขา

นี่เป็นเรื่องที่ท้าทายเขาอย่างมาก

“คุณลุง ผมหิว…” รุ่ยรุ่ยพูดพร้อมเบะปาก ดวงตาทั้งคู่ฝ้าฟางไปไปหนึ่งชั้น

ฉูเจ๋อหยางเห็นดวงตาคู่นั้นของรุ่ยรุ่ยช่างเหมือนเป้ยฉ่ายเวย เขาเหม่ออีกเป็นครั้งที่สอง เขาไม่รู้ว่าทำไมเมื่อตอนที่อยู่กับเด็กน้อยที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับเป้ยฉ่ายเวยแต่กลับทำให้นึกถึงเงาของเป้ยฉ่ายเวยได้ถึงสองหรือสามครั้ง

“ปีนี้เธอห้าขวบจริงๆหรอ” เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถามประโยคนี้ออกไป ใจมันสั่งให้เขาพูดสิ่งที่คิดนี้ออกไป

รุ่ยรุ่ยเผลอเอามือลูบหูตัวเอง อีกมือหนึ่งก็เหยียดออกไปที่ด้านหน้าฉูเจ๋อหยาง “ใช่ครับ ผมห้าขวบแล้ว”

ฉูเจ๋อหยางเห็นการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวเล็ก นัยน์ตาของเขาดำดิ่งลึกลง ทำไมเวลาพูดโกหกก็ยังทำท่าทางได้เหมือนกันอีก ทุกคนล้วนมีพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดยไม่รู้ตัว

อย่างเช่นเวลาที่เป้ยฉ่ายเวยโกหกเธอมักจะแตะติ่งหู หรือว่ากระพริบตาสองสามครั้งด้วยความรู้สึกผิด

ทันใดนั้น ใบหน้าเขาก็ปรากฏสีหน้าที่ให้ความรู้สึกที่ว่าผู้หญิงที่เขาคิดถึงอยู่เสมอกลับไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น สีหน้าหมองหม่นลงในทันใด

รุ่ยรุ่ยเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของฉูเจ๋อหยางอยู่ข้างๆ ด้วยสัญชาตญาณของเขามันบอกกับเขาว่า นี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ เขาพูดขึ้นด้วยเสียงไร้เดียงสา “ลุงฉู ทานไม่ได้ใช่ไหมครับ”

ฉูเจ๋อหยางสะดุ้งเล็กน้อย เขาจ้องใบหน้าเด็กน้อยหลายวินาทีก่อนจะพูดว่า “ไม่ใช่ เธออยากทานอะไรล่ะ”

รุ่ยรุ่ยรีบตอบอย่างว่องไว “ชุดเด็กครับ”

“...” ฉูเจ๋อหยางปรายตาไปที่เคาเตอร์และตัดสินใจพาเด็กออกไปก่อน จากนั้นก็บอกให้เลขาของตัวเองมาซื้อ

“ไปกัน อีกครู่หนึ่งจะมีคนเอาชุดเด็กมาให้”

ฉูเจ๋อหยางจูงมือเล็กอวบๆของเขาเดินออกไปนอกร้านอย่างเป็นธรรมชาติ

“ถ้างั้นเราไปไหนกันหรอครับ” รุ่ยรุ่ยหูแดงไปหมด เขาก้าวขาช้าๆเพื่อให้ฉูเจ๋อหยางชะลอลง เขาตามไปอย่างลังเล

ฉูเจ๋อหยางเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกหนักเท้า มือค่อยๆคลาย จากนั้นก็ย่อตัวลงประสานสายตากับรุ่ยรุ่ย จากนั้นก็ค่อยๆอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนและเดินออกไป

ฉูเจ๋อหยางไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ แต่รุ่ยรุ่ยที่รู้ทุกอย่างกลับหัวใจเต้นรัว ใบหน้าน้อยๆแดงฉ่า ท่าทางหยิ่งผยองอยู่ได้ไม่ถึงสามวินาที จากนั้นเขาก็ซุกหัวลงที่บ่าของฉูเจ๋อหยาง

แน่นอนว่าเขาไม่ได้อยากใกล้ชิดกับพ่อ เพราะว่ากลัวว่าตัวเองจะถูกทิ้ง

ผิวนุ่มของรุ่ยรุ่ยสัมผัสที่ต้นคอของเขา ฉูเจ๋อหยางหยุดฝีเท้าอยู่สองสามวินาที จากนั้นราวกับไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น อุ้มเขาเดินตรงไปที่ออฟฟิต

อวี๋ซือซือซึ่งแอบอยู่ในร้านกาแฟหัวมุมถนนฝั่งตรงข้าม กำลังทานเค้ก ในใจกำลังคิดว่าอีกสักครู่จะเดินไปรับรุ่ยรุ่ย เธอซื้อเค้กหนึ่งชิ้นและกวาดสายตาออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่ตั้งใจ กาแฟที่จิบเข้าไปแทบพุ่งออกมา สายตาจับจ้องไปที่เขา

เธอยกมือขึ้นขยี้ตาราวกับว่าสายตาตัวเองเริ่มมีปัญหาตั้งแต่อายุยังน้อยหรือไม่ เธอมองให้แน่ใจอีกครั้ง ร่างใหญ่กับร่างเล็กนั่นเธอไม่ได้เห็นผิดไปใช่ไหมเป็นเช่นนั้นจริงๆเธออดอุทานออกมาไม่ได้ “แม่เจ้า ฉูเจ๋อหยางอุ้มรุ่ยรุ่ยตั้งแต่เมื่อไหร่ เขา เขาจะพารุ่ยรุ่ยไปไหนน่ะ”อวี๋ซือซือลนลานจะโทรหารุ่ยรุ่ย แต่เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเธอก็ต้องวางมันลงและพูดกับตัวเองว่า “ไม่ได้ ถ้าโทรหารุ่ยรุ่ยตอนนี้ก็ถูกจับได้แน่ ไม่ได้ ไม่ได้ ฉูเจ๋อหยางรู้ว่าฉันเป็นป้าของรุ่ยรุ่ยนี่ แต่เรื่องนี้มันดูไม่ค่อยจะเหมาะสม”เธอจะทำอย่างไรดีดูเหมือนรุ่ยรุ่ยจะมองเห็นท่าทางลนลานของอวี๋ซือซือ หางตาเขาแอบเหลือบมองฉูเจ๋อหยางด้านหน้า จากนั้นก็ทำสัญลักษณ์มือว่าตัวเองปลอดภัยดีให้กับอวี๋ซือซืออวี๋ซือซือเห็นรุ่ยรุ่ยส่งสัญญาณว่าปลอดภัยดีเธอก็พลอยยิ้มราวกับจะร้องไห้ออกมา ซวยแล้ว ถ้าหากว่าเวยเวยรู้ว่าฉูเจ๋อหยางพารุ่ยรุ่ยไป หล่อนเอาเธอตายแน่เธอไม่น่าเสี่ยงขนาดนี้เลย ได้แต่รอที่นี่สองชั่วโมง นี่เป็นเวลาที่ตกลงกันไว้กับรุ่ยรุ่ย รอสองชั่วโมงก่อน แล้วเธอจะขึ้นไปช่วยเหลือตัวประกันละนะหวังว่ารุ่ยรุ่ยจะมีไหวพริบ ไม่ถูกฉูเจ๋อหยางจับได้

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์