โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่240 ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ

บทที่240 ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ

ฉูเจ๋อหยางขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม ในโลกนี้ยังมีพ่อที่เลวร้ายขนาดนี้อยู่ คนเช่นนี้ไม่สมควรที่จะเป็นพ่อคน ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นสามีที่มีความรับผิดชอบ

เขาอดเห็นใจแม่ที่ไม่เคยได้เจอกันของปู้ติงไม่ได้ ผู้หญิงตัวคนเดียวเลี้ยงลูกคนเติบโต สามีเป็นคนประเภทไหนกันที่ไม่สนใจไยดี ช่างน่าสมเพศ

เขาจ้องใบหน้าอันขาวนวล ไม่รู้ว่าทำไม ในใจถึงรู้สึกสงสาร “จะไปเมื่อไหร่”

“น่าจะอีกสัปดาห์หนึ่งครับ” รุ่ยรุ่ยจ้องไปที่ปลายเท้า เป็นเวลาครู่หนึ่งที่เขารู้สึกเหมือนกับว่าพ่อต้องกายกมือขึ้นมาเพื่อสัมผัสเขา

เขาน่าจะคิดไปเอง

ตอนนั้นเองก็มีคนเคาะประตู หลินไห่นำชุดเด็กของเคเอฟซีเข้ามาให้ เขาเห็นทนายฉูนั่งนิ่งอยู่กับเจ้าตัวเล็ก บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ช่างดูเป็นกันเอง เมื่อเห็นแล้วก็แอบคิดไปอยู่ครู่หนึ่งว่าช่างเหมือนพ่อลูกกำลังคุยกัน

หลินไห่รู้สึกงงตัวเองว่ามีความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวได้อย่างไร ไม่น่าใช่หรอก เขาวางถุงไว้บนโต๊ะและพูดด้วยความสัตย์ซื่อว่า “ทนายฉู ซื้อมาแล้วนะครับ”

“อื้อ ออกไปเถอะ” ตอนที่ฉูเจ๋อหยางพูดกับหลินไห่เหมือนกับเป็นคนละคนที่เย็นชา

ความแตกต่างนี้มันทำให้หลินไห่อยากจะร้องไห้ เขาพูดไว้อย่างไร เขาคอยติดตามเจ้านายด้วยความซื่อสัตย์ขยันอดทน ทำไมยังสู้เด็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เลย

ปวดใจ ได้แต่ออกไปเลียแผลตัวเอง

“คลิก” เสียงหนึ่ง ประตูห้องทำงานถูกปิดลงอย่างนุ่มนวล

ฉูเจ๋อหยางพูดกับรุ่ยรุ่ยเสียงเขาอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว “ทานสิ”

“อื้อ ขอบคุณครับลุงฉู” รุ่ยรุ่ยมองดูอาหารบนโต๊ะ ตาเป็นประกาย ว้าว มีหลายอย่างที่แม่ห้าม รสชาตที่โหยหามานาน

ฉูเจ๋อหยางเห็นว่ารุ่ยรุ่ยหิวโซ แต่เวลาทานกับทานอย่างเรียบร้อย แถมอาหารพวกนี้ล้วนเป็นของโปรดเขาทั้งนั้น เห็นได้ว่าแม่ของเขาก็สอนมารยาทในการรับประทานอาหารให้เขาได้ไม่เลวเหมือนกันนะ

เขาดูปู้ติงทานเคเอฟซีด้วยความพึงพอใจเงียบๆ

ถึงรุ่ยรุ่ยอยากจะทานอีกสักหน่อย แต่เมื่อถึงสภาพร่างกายของตัวเอง เขาก็ไม่กล้าทำตามใจตัวเองจนเกินไป แต่ว่ากระเพาะของเขาใหญ่แค่นี้ กินนิดเดียวก็อิ่มแล้ว ได้แต่มองดูอาหารที่เหลือที่ยังไม่ได้แตะต้อง

เขาอดไม่ได้ที่จะเหลียวไปมองชายที่จิบกาแฟอยู่เป็นครั้งคราว เขาถามด้วยเสียงเบาๆ “ลุงฉูไม่ทานหน่อยหรอครับ มันอร่อยมากเลยนะ”

“อื้อ ลุงไม่ทาน” เขาไม่ชอบอาหารขยะ ไม่เหมือนใครบางคนที่ชอบอาหารแบบนี้….

ฉูเจ๋อหยางรู้สึกหดหู่ เรื่องเล็กๆน้อยๆในวันนี้ทำให้เขาคิดถึงเวยเวยอยู่หลายต่อหลายรอบ คนที่หนีไปก็คือหล่อน ทำไมเขาจะต้องคิดถึงผู้หญิงใจร้ายคนนั้นด้วย

รุ่ยรุ่ยไม่รู้ว่าฉูเจ๋อหยางกำลังคิดเรื่องอะไร เขาพูดอย่างเสียดาย “หรอ ถ้าอย่างนั้นที่เหลือผมขอห่อกลับไปได้ไหมครับ”

แม่บอกว่าทานอาหารเหลือทิ้งเป็นเรื่องไม่ควรทำ ช่างน่าเสียดายที่ต้องทิ้งอาหารที่ยังไม่ได้แตะต้องพวกนี้ ให้เขาเอากลับไปยังจะดีกว่า

“เธอจะกลับแล้วหรอ” คิ้วฉูเจ๋อหยางคลายออกขณะที่มองเด็กน้อย

รุ่ยุร่ยพยักหน้ารับคำ “ใช่ครับ เย็นแล้วผมต้องกลับแล้ว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง”

“อื้อ ลุงไปส่ง” ปล่อยเขามาคนเดียวฉูเจ๋อหยางไม่วางใจ ตอนนี้ให้เขากลับไปคนเดียวยิ่งไม่ได้ ยังมีอีกเรื่อง ยังมีแรงจูงใจเล็กๆในใจที่บอกเขาที่อยากเห็นแม่ของปู้ติง ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงแบบไหน

ทำไมถึงได้ทนต่อผู้ชายเลวๆอย่างนั้นได้

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ลุงฉูผมมีเงิน ผมเรียกแท๊กซี่กลับได้” ล้อเล่น ถ้าหากว่าให้พ่อพากลับไปจริงๆ เขาจะยังต้องการแม่อยู่ไหม

รุ่ยรุ่ยปฏิเสธพลางจัดการเก็บอาหารบนโต๊ะ ค่อยๆเก็บลงถุง ฝีมือช่างประณีต ดูเหมือนว่าจะทำมาหลายครั้งจนเป็นนิสัย

สิ่งนี้เมื่อฉูเจ๋อหยางได้เห็น เขาแค่ห้าขวบแต่ดูโตเกินอายุ ไม่เพียงแต่ฉลาดและประพฤติตัวดี ทั้งยังสุภาพรู้เรื่องรู้ราวอีก เด็กคนนี้ถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมแบบไหนกัน

“กลับคนเดียวไม่ปลอดภัย ให้ลุงไปส่ง” ให้เขาได้มีโอกาสสั่งสอนพ่อของเด็กน้อยเสียหน่อย

รุ่ยรุ่ยโบกมืออย่างรวดเร็ว เขาพูดอย่างน่าสงสาร “ลุงฉูผมกลับไปเองได้ ผมแอบออกมา ถ้าหากว่าแม่รู้ จะต้องไม่พอใจแน่ๆ”

“ไม่เป็นไร ลุงจะอธิบายให้” ฉูเจ๋อหยางยืนกราน

“ลุงฉูไม่รู้จักแม่ของผม เธอผีเข้าผีออกนะ ไม่อย่างนั้นให้ผมโทรเรียกป้ามารับก็ได้” รุ่ยรุ่ยกังวลว่าฉูเจ๋อหยางอยากจะไปส่งเขาจริงๆ เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา และกดโทรหาอวี๋ซือซือ

เมื่อฉูเจ๋อหยางได้ยินว่าอวี๋ซือซือจะมาเขาก็ไม่ได้ดื้อดึงอีกต่อไป

พอห้าโมงอวี๋ซือซือก็จ้องนาฬิกาอยู่เป็นสิบรอบ คนหายไปเกือบสามชั่วโมงแล้ว ทำไมไม่ส่งข่าวเลย ตอนที่เธอกำลังจะคุ้มคลั่ง เบอร์รุ่ยรุ่ยก็โทรเข้ามา

เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร

รุ่ยรุ่ยที่ในสายฟังดูเสียงเป็นกังวล เขาก้าวไปข้างหน้าและส่งเสียงดังออกมาอย่างตั้งใจ “คุณป้า ผมอยู่กับลุงฉู รบกวนคุณป้ามารับผมได้ไหมครับ”

อวี๋ซือซือรู้ทันทีว่าฉูเจ๋อหยางอยู่ข้างกายรุ่ยรุ่ย เธอรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว “เธอไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง แม่เธอเป็นห่วงตายแล้ว ได้ เดี๋ยวป้ารีบไปรับนะ”

เวยเวยโทรมาหลายรอบ ถามว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะกลับ ถ้าหากว่าไม่พาคนกลับไป เวยเวยต้องออกมาฆ่าเธอแน่

“อื้อ ทราบแล้วครับป้า” รุ่ยรุ่ยตอบ วางสาย พร้อมอมยิ้มให้ฉูเจ๋อหยาง “ถ้าอย่างนั้นรบกวนลุงฉูส่งผมข้างล่างได้ไหมครับ”

ฉูเจ๋อหยางพยักหน้าและลุกขึ้นจากโซฟา จากนั้นก็ช่วยพยุงเขาลุกขึ้น “ไปกัน”รุ่ยรุ่ยนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า “อื้อ”พ่อยืนอยู่ข้างๆสูงจริงๆเลย ไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะสูงได้เท่านี้นะ เวลาผ่านไปไวมาก รู้ตัวอีกทีก็ต้องไปแล้ว ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะยังมีโอกาสได้พบกันอีกไหมปู้ติงที่บอกว่าจะไปอยู่ๆก็ยืนนิ่งทื่อเป็นท่อนไม้ ดวงตาคู่นั้นไม่รู้ว่าเปี่ยมไปด้วยความเศร้าโศกตั้งแต่เมื่อไหร่ ดูเหมือนว่ามีเรื่องบางอย่างทำให้เขาสะเทือนใจฉูเจ๋อหยางหยุดเท้า พร้อมยื่นถุงให้เขา “เอาไปสิ”“หือ อ้อ ได้ครับ” รุ่ยรุ่ยตอบค่อนข้างช้า เขาผงกศีรษะและรับถุงมาจากฉูเจ๋อหยางเมื่อรับถุงมาแล้ว ร่างนั้นก็ลอยขึ้นในอากาศอีกครั้ง ชายร่างสูงอุ้มเขาขึ้นฉูเจ๋อหยางไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น อุ้มเขาและเดินออกไปแววตาผิดหวังของรุ่ยรุ่ยเปลี่ยนกลายเป็นสุกใส มือน้อยๆเงอะงะอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอื้อมไปกอดคอฉูเจ๋อหยางเอาไว้ ใบหน้าแดงสดใสเหมือนกับลูกแอปเปิ้ลบนต้นไม้ ช่างน่ารัก

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์