โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 297 ทัศนคติของคุณแม่หลี่

บทที่ 297 ทัศนคติของคุณแม่หลี่

เป้ยฉ่ายเวยไม่กล้าวางใจ เมื่อเธอมั่นใจแล้วว่ารุ่ยรุ่ยไม่ได้ไอเธอถึงจะนั่งกลับลงไปอีกครั้ง เมื่อเธอเห็นสีหน้าตำหนิตัวเองของรุ่ยรุ่ย เธอก็รู้สึกปวดใจจึงลูบแก้มเขาเบาๆและพูดอย่างอ่อนโยน “รุ่ยรุ่ย ลูกจำเอาไว้นะ ว่าแม่คือคนที่รักลูกมากที่สุดแค่นี้ก็พอแล้ว”

“แม่….” รุ่ยรุ่ยทำเสียงพึมพำ แต่ว่าร่างกายเขาอ่อนแอเกินไป ตั้งแต่ฟื้นมาก็พูดไปเยอะแล้ว ตอนนี้ถึงทนมาจนถึงขีดสุดแล้ว เปลือกตาเขาค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆ

เวยเวยดูออก เธอวางตัวเขาลงบนหมอนอย่างระมัดระวัง เธอดึงเขามาหอมพร้อมพูดว่า “รุ่ยรุ่ยคนดี นอนพักก่อนสักตื่นหนึ่งนะ รอตื่นขึ้นมาแล้ว แม่สัญญาว่าจะอยู่ข้างๆลูกไม่หนีไปไหน”

“อื้อ” รุ่ยรุ่ยอดไม่ได้ที่จะลืมตามองเป้ยฉ่ายเวยอีกแวบหนึ่ง จากนั้นก็หลับตาลงอย่างเชื่อฟัง

เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ไปไหน เธอเอนตัวลงข้างๆรุ่ยรุ่ย มืออันอ่อนนุ่มลูบผมเขาซ้ำๆ รุ่ยรุ่ยสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและกลิ่นที่คุ้นเคยของเป้ยฉ่ายเวย เขาจึงหลับได้อย่างสนิท

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็ถึงเวลากลับประเทศแล้ว

เพื่อดูแลรุ่ยรุ่ย หลี่จื่อเชียนตั้งใจจ้างหนึ่งในทีมหมอผ่าตัดกลับประเทศไปด้วย ด้วยเช่นนี้หากว่าร่างกายรุ่ยรุ่ยเกิดอะไรขึ้นหรือว่ามีเหตุอะไรฉุกละหุกจะได้จัดการได้ทัน

พอเป้ยฉ่ายเวยรู้เธอก็ซาบซึ้งใจมาก ความคิดที่จะแต่งงานกับหลี่จื่อเชียนก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นนัก ยกตัวอย่างเช่นเมื่อพ่อแม่ของหลี่จื่อเชียนจะแต่งงานกับครอบครัวที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ในตระกูลกลับมีหญิงอาวุโสท่านหนึ่งที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วยนัก

แต่ต่อมาภายหลังเห็นว่าลูกชายสามสิบกว่าหนุ่มแน่นแล้วยังไม่คิดแต่งงาน พวกเขากระตุ้นอย่างไรก็ไม่เป็นผล พวกเขาจึงเป็นห่วงว่าลูกมีปัญหาเรื่องรสนิยมทางเพศหรือไม่ ตอนนี้เห็นพาหญิงสาวมาคนหนึ่ง ตราบใดที่ครอบครัวหล่อนไม่มีมลทิน พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะยอมรับ

แต่เมื่อได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีเงื่อนไขธรรมดา กลับมีลูกติดมาด้วย อยู่ๆพวกเขาก็เลยจะไม่ยอมให้ลูกคบกับเป้ยฉ่ายเวยเด็ดขาด

บุคลิคหลี่จื่อเชียนทั้งอ่อนโยนและพูดจาดี แต่เรื่องความรักกลับไม่ค่อยประสีประสานัก คุณแม่หลี่ทานข้าวไม่ลงอยู่หลายวัน ในที่สุดก็ทัดทานลูกชายไม่ไหว ได้แต่ยอมเห็นด้วยกับเขา

"เธอคือเป้ยฉ่ายเวยสินะ"

"สวัสดีค่ะคุณป้า หนูเป้ยฉ่ายเวย ขอโทษที่มารบกวนหวังว่าคุณป้าจะไม่ถือสานะคะ" เป้ยฉ่ายเวยมองดูผู้หญิงอันสูงศักดิ์และสง่างามตรงหน้าเธอ เธอรู้ว่าหล่อนคงไม่ชอบเธอนัก แต่เพื่อเห็นแก่หน้าจื่อเชียน หล่อนจึงจำต้องทักทายเธอ

จะว่าพวกเขาที่ไม่ชอบก็คงไม่ได้ ด้วยสถานะของเธอ เป็นใครก็คงไม่ชอบใจ แล้วยิ่งพวกเขาอยู่ในแวดวงสังคมด้วยแล้ว หน้าตาเป็นเรื่องใหญ่มาก

แต่ตราบใดที่จื่อเชียนยืนกราน เธอก็จะไม่ถอนตัวง่ายๆ ถ้าหากว่าเธอถอนตัวเช่นนี้ นั่นยิ่งเป็นการทำผิดต่อหลี่จื่อเชียน

คุณแม่หลี่มองเป้ยฉ่ายเวยด้วยหางตาและชักสายตากลับไป จะว่าไปดูแล้วก็เหมือนกับสาวน้อยบริสุทธิ์ใสซื่อ น่าเสียดายที่เคยแต่งงานและเคยมีลูก แต่เธอคิดดูแล้วก็ยังไม่ค่อยชอบใจ

“รบกวนรึเปล่าเธอก็รู้อยู่แก่ใจ เด็กสาวสมัยนี้ไม่ค่อยใส่ใจขนบธรรมเนียมประเพณี เดินพลาดก้าวหนึ่ง พลาดไปทั้งชีวิต ไม่มีอะไรง่ายดายขนาดนั้นหรอก…”

“แม่!” หลี่จื่อเชียนทนฟังคำพูดคุณแม่หลี่กล่าวหาเป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ เขาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ พร้อมกับเน้นย้ำว่า “เวยเวยมาที่บ้านเราครั้งแรก แม่อย่าทำให้หล่อนตกใจ นี่อาจจะเป็นลูกสะใภ้คนเดียวของแม่ก็ได้”

“เฮ่อ พ่อลูกคนดี ที่แม่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าหวังดีกับลูกนะ” คุณแม่หลี่เห็นว่าลูกชายที่ฉลาดและว่าง่ายของเธอขัดแย้งกับเธอเพื่อผู้หญิงคนอื่น เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นสายตาของเป้ยฉ่ายเวยเธอยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่

ยังไม่ทันได้แต่งเข้ามา ก็ทำให้แม่ลูกแตกแยกกันแล้ว ถ้าแต่งเข้ามาจริง มีหวังปีนหัวขึ้นมาขี้รดบนหัวเธอ

เป้ยฉ่ายเวยไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าคำพูดของคุณแม่หลี่นั้นมีความนัย ครั้งแรกที่เดินเข้าประตูบ้านมาก็ทำเอาหลี่จื่อเชียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่ไม่ใช่ความตั้งใจของเธอ เธอดึงหลี่จื่อเชียนที่ยังต้องการจะพูดต่อเอาไว้

เธอส่ายหัวให้เขา สื่อให้เขารู้ว่าไม่ควรพูดต่อไป พูดต่อไปก็ยิ่งจะมีแต่เถียงกันเปล่าๆ

หลี่จื่อเชียนเองก็เข้าใจ แต่ว่าเขาทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเธอถูกดูหมิ่น เห็นชัดๆว่าเขาต้องการปกป้องเธอตลอดชีวิต ตอนนี้มาพบพ่อแม่เขาครั้งแรกก็เกิดเรื่องเสียแล้ว

“คุณป้า เรื่องนี้หนูคิดไม่รอบคอบเอง หนูควรที่จะมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้าก่อนหน้านี้ เรื่องของหนูกับจื่อเชียน เวลาค่อนข้างกะทันหัน เลยทำให้คุณลุงคุณป้าเป็นห่วง”

คำพูดนอบน้อมของเป้ยฉ่ายเวยฟังแล้วรื่นหู สีหน้าคุณแม่หลี่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ขอเพียงไม่ต้องหมั้นกันเร็วขนาดนี้ เกมส์อาจจะพลิก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ยังไงเธอก็ต้องลองสักตั้ง

ยังไงก็ต้องไม่ปล่อยให้เป้ยฉ่ายเวยคนนี้แต่งเข้าบ้านมาได้แน่ “คำพูดเสนาะหูพวกนี้ไม่ต้องหรอกนะ แต่ในเมื่อเธอพูดแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็ถือว่า วันเวลาที่พวกเธอจะหมั้นกันฉันขอให้ถอยร่นออกไปอีกสักหลายวันก็คงจะไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม”

“ไม่ได้”

“ได้ค่ะ”

ไม่ได้ แน่นอนว่าหลี่จื่อเชียนเป็นคนพูด กว่าเวยเวยจะยอมแต่งงานกับเขา เขาตั้งตารอคอยเพื่อที่จะป่าวประกาศให้โลกรู้ แม้แต่หนึ่งวินาทีเขาก็ไม่ต้องการให้ล่าช้าออกไป เขาไม่หมั้นกันไปก่อนก็ถือว่าให้เกียรติพวกท่านมากแล้ว

แน่นอนว่าเป้ยฉ่ายเวยไม่อยากให้จื่อเชียนขัดแย้งกับแม่เพื่อเธอ รออีกแค่ไม่กี่วันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

และแน่นอนคุณแม่หลี่ก็เลือกที่จะฟังคำตอบของเป้ยฉ่ายเวย เธอฝืนแสดงความ “อ่อนโยน” บนใบหน้าขณะที่พูดว่า “ตามนั้นก็แล้วกัน”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ก่อนที่คุณแม่หลี่จะพูดกับหลี่จื่อเชียน “อ้อ ใช่แล้ว จื่อเชียน เย็นนี้พ่อของลูกจะกลับมา อย่าลืมกลับมาทานข้าวด้วย ไปต่างประเทศตั้งสิบวันครึ่งเดือนไม่ได้เห็นหน้า ไม่รู้ตอนนี้คงคิดว่าลูกจะไม่กลับมาแล้วมั๊ง”

คุณแม่หลี่พูดว่า “ลูก” แน่นอนว่าไม่ได้หมายรวมเป้ยฉ่ายเวยด้วย นี่เป็นการตั้งใจสั่งสอนเธอ ฝ่ามือเธอนั้นถูกันแน่น เธอจ้องมองไปที่หลี่เจื่อเชียน ทันใดเธอก็เข้าใจความหมายในแววตาของเขา

เธอค่อยอุ่นใจ“แม่ครับ ทานข้าวน่ะได้ แต่ว่าว่าที่ภรรยาผมไม่มาด้วยมันจะเหมาะสมหรอ” หลี่จื่อเชียนบีบบังคับให้คุณแม่หลี่ยอมรับฐานะของเป้ยฉ่ายเวยสีหน้าคุณแม่หลี่เปลี่ยนไป คนที่เถียงก็คือลูกชายของเธอ เธอโกรธไม่ลง แต่ว่าจะให้เธอยอมรับฐานะของเป้ยฉ่ายเวย นั่นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างได้ เธอจึงยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “จื่อเชียน ลูกดูความจำของแม่สิ วันนี้พ่อของลูกไม่ได้กลับมา เจอกันไว้นัดเวลากันอีกทีดีกว่า ไว้จองโรงแรม แล้วเชิญพ่อแม่ของคุณเป้ยมาด้วย จะได้พบกันอย่างเป็นทางการ”“อย่างนั้นก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ผมไม่กลับมาทานข้าวนะครับ เวยเวยเราไปกันเถอะ” ทำไมหลี่จื่อเชียนจะไม่เข้าใจจิตใจแม่ตัวเอง พูดมาพูดไปก็คือไม่ยอมเห็นด้วยกับเรื่องนี้แต่ว่าเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ใครก็พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์“จื่อเชียน ทำไมลูกจะไปแล้วล่ะ จื่อเชียน…” คุณแม่หลี่มองตาละห้องเห็นหลี่จื่อเชียนพาเป้ยฉ่ายเวยออกไป เธอโมโหจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเดินออกจากบ้านเฮ่อไป เป้ยฉ่ายเวยอดถามไม่ได้ “จื่อเชียนออกไปเลยแบบนี้มันจะดีหรอ”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์