โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 298 คนที่ทำให้เธอสั่น

บทที่ 298 คนที่ทำให้เธอสั่น

“ผมเสียใจที่ไม่พาคุณออกมาให้เร็วกว่านี้ เวยเวยผมทำให้คุณลำบากใจแล้ว ผมไม่รู้ว่าท่านจะพูดแบบนี้” หลี่จื่อเชียนกล่าวขอโทษสั้นๆ เขาไม่รู้ว่าแม่เขาจะมาไม้นี้

เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไร ที่จริงคุณป้าพูดแบบนั้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ใครให้เราตัดสินใจกันกะทันหันแบบนั้น คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ย่อมจะตกใจเป็นเรื่องธรรมดานะ”

“เวยเวย คุณวางใจเถอะ รอให้พวกท่านรู้จักคุณก่อน ต้องเห็นความดีของคุณแน่นอน” หลี่จื่อเชียนพูดอย่างแน่วแน่

เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ใส่ใจ “ค่อยเป็นค่อยไปเถอะ จื่อเชียนเรากลับกันเถอะ”

พักฟื้นมาเกือบสิบวันแล้ว ตอนนี้รุ่ยรุ่ยไม่ได้เดี๋ยวหลับเดี๋ยวตื่นอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าถ้าเธอหายไปนาน เขาก็อาจจะอารมณ์เสียได้

“ได้ เวยเวย ผมจะส่งคุณกลับไปก่อน ผมยังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่บริษัท อาจจะกลับเย็นนิดหน่อย” หลี่จื่อเชียนไม่ได้พูดความจริงกับเป้ยฉ่ายเวย เขาเดินทางไปกลับต่างประเทศร่วมครึ่งเดือน เอกสารงานค้าง อาจจะต้องสะสางถึงสามวันสามคือไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน

“จื่อเชียน คุณไปจัดการเถอะ ฉันกลับเองได้” เมื่อเป้ยฉ่ายเวยได้ยินหลี่จื่อเชียนบอกว่าที่บริษัทมีงาน เธอคิดว่าตัวเองเรียกแท็กซี่กลับเองจะดีกว่า

แน่นอนว่าหลี่จื่อเชียนต้องไม่ยอมให้เธอกลับไปคนเดียวแน่ เขายังคงยืนยันจะไปส่งเธอก่อนถึงจะไป

เป้ยฉ่ายเวยเห็นรถของหลี่จื่อเชียนขับไกลออกไป คิ้วเธอขมวดเป็นปม และเผลอถอนหายใจออกมา จากปฏิกิริยาของคุณแม่หลี่ เธอก็รู้แล้ว เรื่องของเธอกันจื่อเชียนต้องถูกขัดขวางแน่ แค่หวังว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ทำให้จื่อเชียนเสียใจ

“ทำไม ไม่อยากแยกจากแฟนหรอ”

เป้ยฉ่ายเวยได้ยินเสียงอันคุ้นหูดังมาจากข้างหลัง เธอยืดตัวขึ้น หลังเธอแข็งทื่อ ร่างกายเหมือนหุ่นเชิด ค่อยๆหันกายช้าๆเหมือนเครื่องจักร มองร่างผู้ชายที่ไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้

---ฉูเจ๋อหยาง

ฉูเจ๋อหยางโยนบุหรี่ในมือลงกับพื้น เขายกเท้าขึ้นขยี้สองสามครั้ง นัยน์ตาสีเข้มส่องประกายความเยือกเย็น “ทำไม เห็นผมแล้วทำให้คุณกลัวขนาดนั้นเลยเรอะ”

เขาได้ข่าวตั้งแต่วันแรกที่เป้ยฉ่ายเวยกลับเข้าประเทศมาพร้อมหลี่จื่อเชียน จะพูดให้ถูกก็คือ ตั้งแต่วินาทีที่เธอขึ้นเครื่องบิน เขาก็รู้แล้ว พวกเธอลงจอดที่ไหนเมื่อไหร่ ที่รอมาจนถึงตอนนี้ ก็เพราะว่าอยากจะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้จะมีท่าทีอย่างไร

ที่เขาผิดหวังในวันนี้ก็คือยังไม่เห็นเธอได้หมั้น น่าเสียดาย เขาได้เตรียม “ของขวัญล้ำค่า” เอาไว้ให้

เป้ยฉ่ายเวยเห็นสายตากดดันของชายคนนั้น เธอกำมือทั้งสองแน่น เพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลง พร้อมกับแอบทบทวนกับตัวเอง เธอไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับชายตรงหน้าอีกต่อไปแล้ว เธอไม่จำเป็นจะต้องหวั่นเกรงเขา

เธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมสงบนิ่งด้วยอาการปรกติ พร้อมกับพูดอย่างไม่แคร์ “คุณฉู หวังว่าคุณพูดจาอะไรจะระวังหน่อย ตอนนี้จื่อเชียนคือคู่หมั้นของฉัน”

คู่หมั้นที่แสนดี สายตาฉูเจ๋อหยางฉายประกายเย็นชา เขาก้าวเท้าเดินเข้าใกล้ ระยะห่างระหว่างพวกเขานั้นไม่ไกล อีกเพียงไม่กี่ก้าว ก็ถึงตรงหน้าเป้ยฉ่ายเวย สายตาอันเฉียบคมจ้องมองผู้หญิงตัวเล็กที่แกล้งทำเป็นสุขุม ก็เห็นอยู่แล้วว่ากลัว ยังแกล้งทำว่าเอาอยู่ เธอหรอจะเอาใครอยู่

ความคิดนั้นเห็นได้ชัด

“คู่หมั้นของคุณหรอ” ร่างของฉูเจ๋อหยางค่อนข้างสะอาดสะอ้าน ผสานกับลมหายใจอันเป็นเอกลักษณ์ เหล่านั้นลอยไปเตะจมูกของเธอ

ฝ่ามือของเป้ยฉ่ายเวยเหงื่อออกเยอะมาก พวกเขายืนอยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนเธอแทบจะมองเห็นรูขุมขนบนใบหน้าของชายคนนั้น กับริมฝีปากอันบางเฉียบ เธอหายใจน้อยๆก่อนจะล่าถอยไป

“ใช่สิ ถ้าเขาไม่ใช่คู่หมั้นของฉันจะเป็นคู่หมั้นของใครล่ะ”

“เป้ยฉ่ายเวย คุณกล้ามากนะ” ฉูเจ๋อหยางไม่รอให้เป้ยฉ่ายเวยเท้าแตะถึงพื้น เขาเกี่ยวเอวของเธอเอาไว้และดึงเข้ามา เสียงเย็นยะเยือกของเขาพร้อมกับคำพูดเย็นชา “ต้องให้ผมเตือนสติคุณมั๊ย หึ๊?”

เป้ยฉ่ายเวยตกอยู่ในอ้อมแขนของฉูเจ๋อหยาง ทันใดนั้นจมูกของเธอก็กระทบถูกเนื้อแน่น น้ำตาถูกบังคับให้ไหลออกมาในทันที เจ็บ! แต่หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูด เธอก็ไม่ได้สนใจความเจ็บที่จมูกอีก เธอผลักเขาต้องการที่จะหนี

บ้าจริง เธอคิดว่าฉูเจ๋อยหยางคงจะลืมลูกเตะผ่าหมากของเธอไปแล้ว เอ่อ แต่ว่า เขาก็มีลูกแล้ว เป็นหมันก็ไม่เป็นไรหรอก

จิตใต้สำนึกของการหลบหนีของเธอ เธอไม่อยากให้ฉูเจ๋อหยางนึกขึ้นมาได้ เธอพยายามสะกดจิตตัวเองให้ลืม

“คิดหนีหรอ ฝันไปเถอะ” ฉูเจ๋อหยางรวบแขนแน่น เขาหนีบเป้ยฉ่ายเวยกลับไปที่รถของตัวเอง

เป้ยฉ่ายเห็นว่าตัวเองจะถูกลักพาตัวไป เธอพยายามคิดหาวิธีแก้เผ็ดฉูเจ๋อหยาง เธอควบคุมตัวเองไม่ได้จนทั้งเตะทั้งตีฉูเจ๋อหยาง เธอไม่ได้เป็นสุภาพสตรีที่เงียบๆเรียบร้อยอีกต่อไปแล้ว

“ฉูเจ๋อหยางไอ้บ้าปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!”

เธอจะหมั้นกับหลี่จื่อเชียนอยู่แล้ว ทำไมผู้ชายคนนั้นยังคอยตามมาหลอกหลอนอยู่

“หุบปาก ถ้าหากคุณอยากให้ทุกคนรู้ว่าหลี่จื่อเชียนถูกสวมเขาก็ร้องออกมาดังๆเลย”

ฉูเจ๋อหยางพูดออกมาแค่ประโยคเดียว เป้ยฉ่ายเวยก็เงียบเสียงทันที เธอไม่อยากให้จื่อเชียนต้องเดือดร้อน แต่ว่าเธอก็ไม่อยากถูกฉูเจ๋อหยางพาตัวไปอย่างนี้

เธอลดเสียงลงและพูดด้วยความโกรธ “ฉูเจ๋อหยางคุณปล่อยเดี๋ยวนี้ ถ้าหากว่าคุณยังจำลูกเตะวันนั้นได้ ถ้าหมดทางสู้ฉันจะเตะคุณให้อีกรอบ”

สีหน้าฉูเจ๋อหยางมืดมนจนดูน่ากลัว เขาไม่ใส่ใจคำพร่ำเพ้อของเธอ เขาเปิดประตูรถและโยนคนเข้าไป

แม้ว่าเบาะรถจะนุ่ม แต่ก็ยังทำเอาเป้ยฉ่ายเวยเวียนหัว เมื่อเธอสงบลงแนะนั่งขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเธอก็เห็นช่องว่างด้านหนึ่งของฉูเจ๋อหยาง เธอจึงรีบมุดตัวไป

“ปึ้ง” เสียงหนึ่ง เธอถูกคนโยนกลับเข้าไปอีกครั้ง

เสียงฉูเจ๋อหยางเย็นยะเยือกเหมือนวิญญาณร้ายที่คืบคลานออกมาจากนรก จากหนังสยองขวัญ “เป้ยฉ่ายเวย ถ้ายังคิดจะหนี เชื่อไหมว่าผมจะทำคุณในรถนี่แหละ”

เป้ยฉ่ายเวยนั่งตัวตรงขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง เธอเบียดตัวกับข้างหน้าต่างเพื่อที่จะอยู่ห่างจากเขา ฉูเจ๋อหยางบ้าไปแล้ว เธอเชื่อว่าเขาเป็นสัตว์ร้ายที่ไม่เหลือความเป็นคนอีกแล้ว

“ออกรถ”

ฉูเจ๋อหยางพูดเสียงเย็นชา

คนขับรถผู้เห็นเรื่องราวทั้งหมด ใบหน้าเขาไม่แสดงออกใดๆ เป็นเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไร้อารมณ์ เขารับคำด้วยความเคารพ จากนั้นก็สตาร์ทรถเป้ยฉ่ายเวยได้ยินว่าในรถยังมีเสียงคนอื่นอีก หน้าเธอก็แดงฉาน ท่าทางทุลักทุเลของเธอเมื่อสักครู่มีคนอื่นเห็นเข้าแล้วและยังอื่นๆอีก ฉูเจ๋อหยางเปลี่ยนมาใช้รถหรูมายบัคตั้งแต่เมื่อไหร่ ราคาน่าจะมากกว่ายี่สิบล้าน คิดคิดแล้วก็ไม่น่าแปลกอะไร ฉูเจ๋อหยางทำเงินได้มากมายขนาดนั้น จะขับรถแบบนี้ก็ไม่แปลก “ฉูเจ๋อหยาง ต้องทำยังไงคุณถึงจะปล่อยฉัน” เธอรู้สึกเสียใจที่ทำไมตัวเองไม่กลับไปย่านชุมชน ให้เห็นกับตาสักครั้งวิลล่าครั้งก่อนหลังจากเกิดเรื่องคราวที่แล้ว จื่อเชียนก็ไม่ยอมให้พวกเธอไปอยู่อีก เขาให้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ที่สงบกว่าเดิมไม่คิดว่าขนาดนี้แล้ว ฉูเจ๋อหยางยังจะตามหาเจออีก“นอนกับคุณ” ฉูเจ๋อหยางตอบง่ายๆอย่างหยาบคายเป้ยฉ่ายเวยหน้าซีดในทันที เธอคิดถึงแววตาชั่วร้ายของหนานฉิง แผลบนในหน้าซึ่งเห็นได้ชัดว่าหายดีแล้วอยู่ๆก็เจ็บปวดขึ้นมา เธอรู้ว่ามันเป็นเพราะปฏิกิริยาความทรงจำของคลื่นสมอง“ฉูเจ๋อหยาง คุณพอได้แล้ว”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์