โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 299 ยั่วโมโหเขาได้สำเร็จ

บทที่ 299 ยั่วโมโหเขาได้สำเร็จ

“พอหรอ เป้ยฉ่ายเวยคุณติดหนี้ผมไกลเกินกว่าคำว่าพอ” ริมฝีปากบางเฉียบของฉูเจ๋อหยางเผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คำพูดที่ออกมากลับโหดร้ายหาที่เปรียบไม่ได้

เป้ยฉ่ายเวยสั่นเล็กน้อย เธอบอกกับตัวเองไม่ต้องไปกังวลกับคำพูดของเขา

เธอมองไปที่ทิวทัศน์นอกหน้าต่างจึงได้พบว่ารถเคลื่อนตัวไปไม่เร็วเท่าไหร่ ตายเป็นตาย อย่างมากก็เสียโฉม เธอกัดฟัน เอามือจับที่เปิดประตู หาจังหวะที่จะเปิดประตูและกระโดดออกไป

ฉูเจ๋อหยางเห็นการเคลื่อนไหวของเป้ยฉ่ายเวยก็เข้าใจว่าเธอกำลังจะทำอะไร ครู่หนึ่งที่ดวงตาเขาเป็นเพลิงไฟ เสียงเย็นเฉียบถึงขีดสุด “เป้ยฉ่ายเวย ถ้าหากว่าคุณกล้ากระโดดออกจากรถ ผมจะทำให้บริษัทหลี่จื่อเชียนต้องพินาศ เชื่อผมเถอะ ผมพูดจริงทำจริง”

เป้ยฉ่ายเวยไม่กระโดด เธอทุบฉูเจ๋อหยางอย่างบ้าคลั่ง ด้วยกำปั้นเล็กๆ ทั้งตีทั้งด่าเขา ทำเอาผมเผ้ายุ่งเหยิง ทำเอาดูเธอเหมือนผู้หญิงที่กำลังคลุ้มคลั่งจนเป็นบ้า

เธอทนไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าทางจิตใจหรือจิตวิญญาณ เธอเสียสติไปแล้ว

“ฉูเจ๋อหยาง ไอ้โรคจิต ฉันเป็นหนี้คุณหรอ คุณจะบังคับฉันอย่างนี้ อยากให้ฉันตายใช่ไหม ถึงจะยอมปล่อยฉัน ทำไมพวกคุณต้องบีบบังคับฉันด้วย ทำไม!”

ตีจนกระทั่ง เธอหมดแรงไปเอง หัวใจอันหนักหน่วง เธอเหนื่อยล้าจริงๆ แค่อยากเห็นรุ่ยรุ่ยเติบโตอย่างสงบสุข ทำไมมันยากอย่างนี้ เธอผิดไปแล้ว ไม่กล้าแล้ว ไม่คาดหวังอีกต่อไปแล้ว

ถอยแล้วยังไม่พออีกหรอ ให้เธอทำยังไงอีก คนพวกนี้ถึงจะพอใจ ถึงจะหยุดได้สักที

ฉูเจ๋อหยางไม่เข้าใจทำไมอยู่ๆเป้ยฉ่ายเวยถึงสติแตก แต่เขาจับได้ว่าเธอใช้คำว่า “พวกคุณ” ยังมีใครไปหาเรื่องเป้ยฉ่ายเวยอีกหรอ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงหนานฉิงซึ่งหมู่นี้อยู่ๆก็เงียบหายไป

เงียบเกินไปนั่นหมายความว่าไม่ได้หายไปไหน ผู้หญิงตรงหน้าถึงได้ต้องการหนีจากเขาไป เป็นเพราะคำขู่ของหนานฉิงใช่หรือไม่ “หล่อนไปหาคุณหรอ”

เป้ยฉ่ายเวยนั่งตัวตรงวางมือทั้งสองข้าง เธอเบนหน้าไม่ต้องการเห็นฉูเจ๋อหยางอีกต่อไป ริมฝีปากเย็นเฉียบค่อยๆกล่าวคำปฏิเสธ “เปล่า”

เธอไม่ใช่พระแม่มารี ที่เกิดมาพร้อมจะให้อภัย เธอก็ต้องการให้หนานฉิงได้รับบทลงโทษ แต่เธอต้องการความปลอดภัยของรุ่ยรุ่ยมากกว่า เพราะเธอรู้ดี ฉูเจ๋อหยางไม่มีทางจัดการกับหนานฉิงแน่

ถึงจะอยากลงโทษ หนานฉิงก็คงจะไม่ยอมรับ และอาจจะยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายลงไปอีก

เธอกลัวแล้ว ไม่กล้าเดิมพัน วิธีแก้ปัญหาที่ต้นตอของหนานฉิงครั้งนั้น ทำให้เธอเข้าใจอะไรคือความแตกต่างของฐานะ อะไรคือสู้มือเปล่า

“มองผมสิ” ฉูเจ๋อหยางไม่ยอม

เป้ยฉ่ายเวยกัดริมฝีปากล่าง และปล่อยออก เธอจ้องหน้าเขาโดยไม่หลบสายตา “หนานฉิงไม่ได้มาหาฉัน ฉูเจ๋อหยาง ฉันรู้ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรจะหลอกเอาเงินคุณ ไม่ควรจะข่มขู่คุณ และไม่ควรจะเตะคุณ”

ครู่หนึ่ง ดูเหมือนเธอจะคิดได้ จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก และยังมีอารมณ์ยิ้มให้เขาอีก “ฉันมาที่นี่เพื่อขอโทษคุณ ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปได้ไหม”

อยู่ๆเป้ยฉ่ายเวยก็เปลี่ยนไป ทำเอาหัวใจฉูเจ๋อหยางรู้สึกเหมือนถูกใครบางคนตัดขาด เขากำลังตกเลือด เขาไม่ชอบเป้ยฉ่ายเวยเช่นนี้เลย คิ้วเขาขมวดม้วนพันกันแน่น เสียงก็ยังพูดอย่างเฉยเมย “คุณคิดว่าอย่างนี้แล้วผมจะใจอ่อนหรอ”

เป้ยฉ่ายเวยเลิกคิ้ว และพูดคำรื่นหู “ฉูเจ๋อหยาง เงินฉันจะทยอยคืนให้คุณทุกบาททุกสตางค์ ส่วนเรื่องอื่น คุณเสนอราคามา ฉันจะค่อยๆทยอยคือคุณ”

เธอทนทรมานจิตใจกับฉูเจ๋อหยางต่อไปไม่ไหว ถึงจะยังไม่ได้คุยกับจื่อเชียน แต่เพื่อตัดขาดกับฉูเจ๋อหยาง เธอยินดีที่จะเอ่ยปากขอยืมเงินจากเขา

อย่างน้อยติดเงินจื่อเชียน เธอยังพอมีความหวัง แต่ติดเงินฉูเจ๋อหยาง ไม่รู้เมื่อไหร่จะจบสิ้น

“ให้คู่หมั้นของคุณใช้เงินแทน” ฉูเจ๋อหยางหัวเราะด้วยความโกรธ ยิ่งรอยยิ้มนั้นสงบและอ่อนโยน ยิ่งแสดงว่าตอนนี้เขาโกรธมากแล้ว ณ จุดนี้

อย่างตอนนี้คงถึงจุดพีคแล้ว

“ใช่ ขอแค่คืนคุณได้ ฉันยอมรับได้ทุกอย่าง” เป้ยฉ่ายเวยไม่เงยหน้ามอง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่กล้าพูดออกมา

น่าเสียดายที่ทุกอย่างจบลงแล้ว เสียงของฉูเจ๋อหยางเหมือนดาบที่ห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง ปักเข้าที่หัวใจจนเกิดเป็นรอยแผลเป็น “ได้ แค่คุณนอนกับผมหนึ่งคืน บัญชีทั้งหมดจะถูกลบล้าง”

เป้ยฉ่ายเวยเงยหน้ามองชายคนนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ ราวกับคำพูดโหดร้ายนั้นไม่ได้ออกมาจากปากของเขา เธอพูดเสียงสั่น “ว่ายังไงนะ”

“เป้ยฉ่ายเวยไม่ต้องแกล้งแล้ว คุณก็ได้ยินที่ผมพูดแล้วนี่” ฉูเจ๋อหยางมองเป้ยฉ่ายเวยที่กำลังน้ำตาเอ่อล้น เขายิ่งสะใจที่ได้พูดจาเหยียดหยาม

“คุณมันไร้ยางอาย” เป้ยฉ่ายเวยแทบไม่ต้องคิด เธอยกมือขึ้นตบไปที่ใบหน้าเย็นชาของฉูเจ๋อหยางในทันที

เสียงตบนั้นไม่ได้ดังขึ้น ข้อมืออันเปราะบางของเป้ยฉ่ายเวยถูกฝ่ามือใหญ่บีบรัดเอาไว้แน่น ดูเหมือนว่าถ้าเมื่อไหร่ผู้ชายคนนั้นออกแรง กระดูกข้อมือเธอคงจะแตกหักเอาได้ง่ายๆ

ชายหนุ่มหรี่ดวงตาอันตรายคู่นั้นลง ความแข็งแกร่งในมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นได้ชัดว่าสีหน้าของหญิงคนนั้นแทบจะทนไม่ไหวแล้ว แต่เธอก็ยังฝืนจ้องเขาอยู่ ทันใดนั้น เขาก็อมยิ้ม เหมือนกับหิมะในฤดูหนาว ตกลงบนหัวใจ หนาวเข้าถึงขั้วหัวใจ

“เป้ยฉ่ายเวย ยินดีด้วย ยั่วโมโหผมได้สำเร็จแล้ว”

เขาคิดว่าจิตใจของเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ไม่ถูกใครยั่วยุได้ง่ายๆ มีแต่ผู้หญิงตรงหน้าที่ยั่วโมโหเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และประสบความสำเร็จอยู่ทุกครั้ง แต่ยังไม่เคยถึงขีดสุดของเขาเหมือนในครั้งนี้

เป้ยฉ่ายเวย คุณมีความสามารถจริงๆ สามารถทำในสิ่งที่คนธรรมดาทำไม่ได้

เป้ยฉ่ายเวยจ้องนัยน์ตาอันเย็นชาของฉูเจ๋อหยาง ใจเธอหนาวเหน็บ เธอรู้ว่าชายตรงหน้าโมโหเธอมากแล้วจริงๆ แต่ว่าเธอไม่สามารถอยู่ในรถได้อีกต่อไป “ฉูเจ๋อหยาง คุณปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน”

ครั้งนี้ฉูเจ๋อหยางไม่พูดอะไรสักคำ เขายื่นมือไปกระชากเน็คไท จากนั้นก็มัดมือทั้งคู่ของเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้ รวบเธอไว้อย่างไร้ความปรานี

เป้ยฉ่ายเวยเห็นการกระทำของฉูเจ๋อหยาง เธอหวากลัวจนพยายามต่อสู้ดิ้นรน แต่เมื่อพูดถึงแรงของเธอกับแรงของฉูเจ๋อหยางซึ่งออกกำลังกายอยู่เป็นประจำแล้ว เขาแทบไม่ต้องออกแรงอะไรเลยเธอจะถูกฉูเจ๋อหยางเอาตัวไปไม่ได้ รุ่ยรุ่ยรอเธออยู่ที่บ้าน จื่อเชียนก็เชื่อใจเธอ เธอจะไปกับผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ไม่ได้เด็ดขาด“เป้ยฉ่ายเวย คุณทำอะไรน่ะ!” ฉูเจ๋อหยางตะโกนลั่นเป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าตัวเองกัดจนเลือดออก ของเหลวสีแดงไหลออกตามมุมปากหยดลงตามเสื้อผ้าเธอ ปากเธอยังคงพูดย้ำซ้ำๆประโยคเดิม “ฉันไม่อยากไปกับคุณ ไม่ไป ไม่ไป”ฉูเจ๋อหยางเห็นเธอกัดเอาเป็นเอาตายไม่ยอมปล่อย เขาไม่คิดอะไรทั้งนั้น เอานิ้วตัวเองเข้าไปแทนริมฝีปากเธอ วินาทีต่อมา เขารู้สึกเสียวซ่านไปตามผิวหนัง ณ เวลานี้เลือดที่ออกมา ไม่ใช่เลือดของเธออีกต่อไปแล้ว“เป้ยฉ่ายเวย คุณต้องรู้จัดมีขอบเขตกับผมนะ”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์