โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่317 ทำข้อตกลงกัน

บทที่317 ทำข้อตกลงกัน

“....” หน้าซาลาเปาของรุ่ยรุ่ยซุกลงในทันที เขาว่ามันเร็วมันไปรึเปล่า

เป้ยฉ่ายเวยเห็นอากัปกิริยาท่าทางไม่พออกพอใจของเขา ในที่สุดเธอก็กลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ “แม่ล้อเล่นหรอกน่า”

รุ่ยรุ่ยหน้าแดงขึ้นในทันที เขายืดตัวนั่งตรง “แม่ครับ ทำไมแม่ทำอย่างนี้ล่ะ”

“อย่างนี้ คืออย่างไหนหรอ” เป้ยฉ่ายเวยมองเขาด้วยความตลกขบขัน สายตาคู่นั่นช่างดูอ่อนโยน

รุ่ยรุ่ยรีบซุกหัวเข้าไปในอ้อมอกเป้ยฉ่ายเวย รอยยิ้มในดวงตาของเขาบ่งบอกได้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหน

----

หนานฉิงกลับไปก็โมโหขว้างปาข้าวของภายในห้อง ถึงใจเธอจะโกรธ แต่ก็รู้ว่าถ้าไปหาฉูเจ๋อหยางและถามเอาตอนนี้ นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก

แต่เธอก็ไม่สามารถกล้ำกลืนความไฟโกรธนี้เอาไว้ได้ ดังนั้นเธอจึงเรียกให้คนไปตารางกิจกรรมช่วงนี้ของเป้ยฉ่ายเวย ที่จริงเธอแค่อยากจะสร้างความลำบากให้แก่เป้ยฉ่ายเวยเล็กๆน้อยๆ

แต่สุดท้ายแล้วเธอกลับได้พบเรื่องน่าประหลาดใจ---ไอ้ลูกนอกคอกนั่นมีนัดฉีดยาซ้ำในวันพรุ่งนี้

โอ้ เรื่องนี้สำหรับเธอแล้ว มันทำให้ไฟโกรธในใจนั้นจู่ๆก็ดับลงได้

หนานฉิงรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว เธอให้หลี่อ๋าวส่งลูกน้องแอบไปซุ่มอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น

“พวกแกคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ อย่าให้ใครหน้าไหนเข้ามาใกล้” หนานฉิงใช้มือม้วนปอยผม เธอออกคำสั่งอย่างหยิ่งยโส

ชายทั้งสองพยักหน้าด้วยความเคารพราวกับพวกเขาเป็นองครักษ์เฝ้าประตูทั้งสองข้าง คอยปิดกั้นประตูทางเข้าเอาไว้ คอยรับคำสั่งการเปิดปิดประตูจากหนานฉิง

เดิมทีแล้วนี่เป็นเวลาพักผ่อน หมอประหลาดใจที่เห็นสาวสวยหุ่นดีเดินนวยนาดเข้ามา ยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ประตูห้องพักก็ถูกคนปิดลง

“ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมีธุระอะไรรึเปล่าครับ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาพบแพทย์ ถ้าหากว่าคุณต้องการพบต้องรอให้ถึงเวลาก่อน….”

หนานฉิงไม่สนใจหมอ เธอสำรวจเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง เธอพบเก้าอี้ที่นับว่าสะอาดตัวหนึ่ง เธอปูกระดาษทิชชู่ลง จากนั้นก็ฝืนใจนั่งลง เรียบร้อยแล้วเธอจึงมองไปที่คุณหมอ

เธอกล่าวด้วยท่าทีจองหอง “คุณคือหลี่เหว่ยสินะ”

ตั้งแต่ที่หนานฉิงเข้ามาหลี่เหว่ยก็เห็นใบหน้าอันหยิ่งยโสนั้น ถึงแม้จะดูออกว่าฐานะเธอคงจะไม่ธรรมดา แต่เขาเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียง เขาก็มีศักดิ์ศรีของเขาเหมือนกัน น้ำเสียงเขาจึงไม่ได้แสดงถึงความอกเกรงใจเหมือนเช่นตอนแรก “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาออกตรวจ รบกวนคุณออกไปด้วย”

หนานฉิงไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา เธอแค่เคาะลงบนโต๊ะ ประตูห้องก็ถูกคนเปิดออกจากด้านนอก ลูกน้องของหลี่อ๋าวยื่นหัวเข้ามา พร้อมถามด้วยความเคารพ “คุณหนูหนาน มีคำสั่งอะไรรึเปล่าครับ”

สายตาของหนานฉิงมองอย่างเหยียดหยามไปที่คนตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง วินาทีต่อมาเมื่อเห็นว่าเธอพาลูกน้องมาด้วยสีหน้าหมอก็เปลี่ยนไปในทันที แพทย์ผู้มีชื่อเสียงอันโด่งดังที่ไหนกัน ก็แค่หมอบ้านๆเท่านั้นล่ะ

“คุณหมอหลี่ ตอนนี้ว่างมั๊ยคะ”

หลี่เหว่ยมองที่ผู้หญิงที่กำลังข่มขู่ตนอย่างไม่เปิดเผยตัว มือทั้งสองของเธอเผลอกำแน่นโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อมองลอดผ่านประตูเหล็กออกไปก็เห็นร่างชายผู้ไม่ได้มาดีอยู่ที่ด้านนอกประตู ผ่านไปหลายวินาที เขาสามารถระงับความโกรธในใจเอาไว้ได้ ก่อนที่จะพยักหน้า

หนานฉิงผิวปาก โบกไม้โบกมือ จากนั้นประตูห้องก็ถูกปิดลงอย่างเงียบๆ เธอชอบเสวนากับคนมีกึ๋น เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลากันทั้งสองฝ่าย

“คุณหมอหลี่อย่าได้ถือสา ฉันแค่อยากจะคุยกันอย่างตรงไปตรงมา” หนานฉิงปากก็กล่าวขอโทษ แต่ใบหน้าไม่แสดงว่ารู้สึกผิดเลยสักนิด ยังคงทำท่าทางสูงส่ง

หลี่เหว่ยกระแอมอย่างไม่เกรงใจ พร้อมกับกล่าวเหน็บแนม “ผมถือแล้วจะมีประโยชน์อะไร”

“ไม่มีประโยชน์ค่ะ” หนานฉิงยิ้มหวาน “คุณหมอหลี่เป็นคนฉลาด”

“คนฉลาดแต่กลับไม่รู้จักฐานะตัวตนของอีกฝ่าย” หลี่เหว่ยคือหมอที่ก่อนหน้านี้ไม่นานหลี่จื่อเชียนได้เปย์ไปอย่างหนักเพื่อที่จะดึงตัวเขากลับมาจากจังหวัดอื่น เพื่อมาเป็นรองผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลอันดับสองของเมืองจิ่นอัน เขาไม่รู้จักตัวตนของหนานฉิงหรอก

หนานฉิงวางกระดาษลงบนโต๊ะแผ่นหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆลากนิ้วไปไม่เร็วไม่ช้า เธอใช้คำพูดและท่าทางที่เป็นกันเอง “คุณหมอหลี่ เรียกฉันว่าคุณหนูหนานก็ได้ค่ะ”

“คุณหนูหนานรึ คุณคือลูกสาวของผู้อำนวยการหนานเรอะ” ถึงหลี่เหว่ยจะไม่เคยเจอหนานฉิงมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลหนาน เขารีบกลายเปลี่ยนความโมโหโกรธาที่ผ่านมา กลายมาเป็นยิ้มแย้มด้วยความตื่นเต้นในทันที

ถึงตอนนี้เขาจะเป็นคนมีชื่อเสียง แต่ก็ยังไม่ค่อยมีเส้นสาย ถ้าหากว่าสามารถทำประโยชน์ให้กับลูกสาวตระกูลหนานได้ มันย่อมเป็นผลดีกับเขาแน่

หนานฉิงดูเหมือนจะพอใจกับความพึงใจของหลี่เหว่ย เธอพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า “ใช่แล้ว”

“ไม่ทราบว่าคุณหนูหนานลำบากลำบนมาถึงที่นี่มีธุระอะไร”

หลังจากที่รู้ฐานะของหนานฉิงแล้ว หลี่เหว่ยก็ยิ่งเกิดความสงสัย เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ แต่เมื่อเห็นสาวงามตรงหน้าสีหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจก็มีพลังสม่ำเสมอ ดูไม่เหมือนกับคนที่มีปัญหาโรคหัวใจนะ

คิ้วของหนานฉิงบีบแคบเข้าหากันเป็นเชิงถามอย่างไม่ตั้งใจ “ได้ยินว่าไม่นานมานี้คุณหมอรับคนไข้วีไอพีไว้คนหนึ่ง”

“ที่ไหนกัน คุณหนูหนานล้อเล่นแล้ว” หลี่เหว่ยหลบสายตายั่วยุของหนานฉิง จะให้บอกว่าได้รับเงินเดือนละแสนได้อย่างไรกัน มันจะดูไม่ค่อยงามด้านจริยธรรม

จะว่าไปเขาก็แอบเซ็นสัญญาให้เก็บความลับ ไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับบุคคลอื่นใดได้ ถึงแม้ว่าอยากจะประจบคนตรงหน้า เขาก็ไม่อยากจะทำลายชื่อเสียงของตัวเอง

หนานฉิงนั้นชัดเจน เธอค่อยๆหยิบสมุดเล่มเล็กๆออกจากกระเป๋า เธอหันไปยิ้มกับหลี่เหว่ยเล็กน้อย “จะรังเกียจไหมถ้าฉันจะขอยืมปากกาคุณหน่อย”

หลี่เหว่ยอึ้งพูดติดๆขัดๆ “ไม่ ไม่รังเกียจ”

หนานฉิงพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก เธอหยิบปากกาจากนั้นก็เขียนตัวเลขลงบนสมุดเล่มเล็กนั้น แล้วจึงวางลงต่อหน้าหลี่เหว่ย “คุณหมอหลี่ไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นแค่สินน้ำใจเล็กๆน้อย”หน่วย สิบ ร้อย พัน หมื่น…หลี่เหว่ยนับจำนวนเลขศูนย์ตรงหน้า เขาตกอกตกใจ พระเจ้าช่วยมีศูนย์ทั้งหมดเจ็ดตัว ตระกูลใหญ่ตระกูลโตมักจะทำอะไรหน้าใหญ่ใจโต นั่นเกือบจะเท่าเงินเดือนของเขาทั้งปีแม้ว่าใจจะต้องการ แต่ว่าเขารู้ดีว่าโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เขาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “คุณหนูหนานใจดีเกินไปแล้ว ไม่ได้ทำอะไรให้ไม่กล้ารับ เงินเป็นจำนวนมากขนาดนี้ คุณเก็บกลับไปเถอะ ถ้าหากว่าในอนาคตต้องการความช่วยเหลืออะไรก็ค่อยว่ากัน”หลี่เหว่ยพูดพร้อมผลักเช็คใบนั้นกลับไปตรงหน้าหนานฉิง นิ้วเขายังไม่ทันได้หดกลับไป เขาก็รู้สึกได้ว่าตรงหน้า มือขาวนวลนั้นจรดอยู่ที่ปลายอีกด้านหนึ่งของเช็คเขาเงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นหนานฉิงยิ้มให้ ใจเขาเต้นรัวและพูดติดอ่าง “คุณ คุณหนูหนาน นี่ นี่หมายความว่ายังไง”“คุณหมอหลี่อาจจะเข้าใจผิด สินน้ำใจเล็กๆน้อยๆนี้เป็นเพียงแค่มัดจำเท่านั้น” แววตาหนานฉิงส่องประกายความดุร้าย ทำไมเธอจะดูอาการชายหัวล้านที่เกือบจะห้าสิบตรงหน้าไม่ออก แค่รอคำพูดตอนสุดท้าย อดใจแทบไม่ไหวแล้วล่ะสิ ไม่ต้องมาทำเป็นมีคุณธรรมอะไรหรอก ก็คางคกอยากกินเนื้อหงส์กันทั้งนั้น ไว้เสร็จเรื่องเมื่อไหร่ค่อยกลับมาจัดการกับเขา“หืม?” แค่เงินมัดจำแปลว่าหลังจากนี้ยังมี….

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์