โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 133 เจ้าไม่ไปข้าก็ไม่ไป

ดังเสว่มี่หาวขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วย

“เสนาบดีเหล่านั้นเมื่อกินอิ่มแล้วก็ไม่ทำอันใด ไม่ไปสนใจความทุกข์ยากของประชาชนและบริหารราชกิจการ

แต่กลับมาคอยจ้องดูว่าข้าเข้าเรียนหรือไม่เข้าเรียน พวกเขาอยากจะทำอันใดก็ทำ อย่างไรซะข้าก็ไม่ไปโก๋วจื่อเจี้ยน!”

“คังเสว่มี่ เจ้าไม่ยอมไปโก๋วจื่อเจี้ยน แล้วจะให้ข้าไปทำไม!”

เสียงที่เบาและไวลอยมาอย่างทันใด คังวี่จิ่นสวมใส่ชุดคลุมสีฟ้า ก้าวเดินเข้ามาด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย ดวงตาคู่นั้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาจ้องเขม็งไปที่

คังเสว่มี่

ทันทีที่ท่านอ๋องเห็นเขา บนใบหน้าที่แฝงไปด้วยความโกรธ คิ้วข้างหนึ่งเลิกขึ้น เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หยาบ

“เจ้าออกมาทำอันใด ยังไม่รีบกลับไปนอนบนเตียง คราวหลังระวังเมื่อฝนตกจะปวดกระดูก!"

คังวี่จิ่นช้อนตาหันมามองที่เขา แล้วเดินต่อเข้าไปในห้องโถง หันมองไปที่ท่านอ๋องคังแล้วเอ่ยออกมาอย่าไม่สบอารมณ์

“ท่านกังวลเรื่องอันใด นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ท่านต้องการหรอกหรือ? ตอนนี้ขาข้าไม่ได้พิการ ทำให้ท่านผิดหวังแล้ว!”

เขาพูดเสร็จก็ไม่สนท่านอ๋องคังโกรธจนปลายหนวด เล็กๆทั้งสองข้างกระตุกขึ้น หน้ามุ่ยคิ้วขมวดหันไปจ้องคังเสว่มี่

“ข้ารู้ว่าเจ้านั้นเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวยิ่งนัก ตนเองไม่อยากไป ยังมาหลอกให้ข้าไป ข้าจะบอกเจ้าให้ ไม่มีทาง"

คังเสว่มี่เห็นเขาสีหน้าแดงก่ำ เต็มเปี่ยมไปด้วยร่างกายดูอ้วนขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหลายๆวันก่อนหน้านี้ รู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาเกือบจะหายดีแล้ว

ในดวงตาส่องแสงประกายแห่งความสุข เงยหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ย

“เรื่องที่เจ้าสัญญากับข้า อย่าหาข้อแก้ตัวมากลับคำพูด! มิฉะนั้นล่ะก็ อย่ามาโทษที่ข้าจะไม่ไว้หน้าเจ้า!"

พูดเสร็จ มือทั้งสองข้างก็ขยับสายเข้าหากันทำให้เกิดเสียงแช้บๆเบาๆ

ทำให้นึกถึงเรื่องคราวที่แล้วที่ถูกนางขัดขาให้ล้มลง คังวี่จิ่นถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว บนใบหน้าเต็มไปด้วยการตักเตือนแล้วเอ่ย

“ข้าจะบอกเจ้า คังเสว่มี่ ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ ข้าคือพี่ชายเจ้า มีครั้งที่หนึ่งย่อมไม่มีครั้งที่สอง ให้พูดอีกยังไงข้าก็คือพี่ชายเจ้า เจ้าไม่อาจไม่เคารพข้าได้!

ที่นี่มีคนนอก ตั้งเท่าไหร่ถึงจะไว้หน้าให้ข้าสักนิดได้หรือไม่?"

ประโยคสุดท้าย เขาลดเสียงให้ต่ำลงแล้วพูดที่ข้างหูของคังเสว่มี่อย่างเบาๆ

คังเสว่มี่ชำเลืองตามองไปที่จี้อี้ เขายังอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ต้องไว้หน้าให้พี่ชายตนเองสักหน่อย

จี้อี้ยิ้มเล็กน้อย เลิกคิ้วสูงให้กับนางแล้วพูดอย่างอ่อนโยนดั่งสายน้ำว่า

"เจ้าจัดการได้ตามสบายเลย ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น "

คังวี่จิ่นเบิกตากว้างมองไปที่จี้อื้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วถอยหลังไปสองก้าว มองเขาด้วยสีหน้าท่าทางเหมือนกับว่าชีวิตกำลังจะพัง ทลายลงมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“จี้ซื่อจื่อ ท่าน....นี่ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าท่านจะช่วยนางให้มารังแกข้า? การกระทำของท่านไม่ต่างอะไรกับเมียว่าอะไรผัวก็ว่าตามเห็น พ้องตามเมียไปด้วยแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ!”

ท่านอ๋องคังกำลังดื่มชามีเวลาให้หายใจได้ทั่วท้องไม่กี่อึดใจ ก็น้ำชาที่จิบเข้าไปไว้อยู่ในท่อกล่องเสียงกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ใบหน้าทั้งใบเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อได้ยินคำพูดของคังวี่จิ่น

เห็นหน้าท่านอ๋องของตนเอง นิ้วมือของอาชีสั่นเทา ใบหน้าก็ดูตกตะลึงเช่นกัน

จากนั้นเขาก็รีบเข้าไปทําให้ท่านอ๋องคังอารมณ์เย็นลง

ฉวี่ซางมองที่ท่านอ๋องดังอย่างเห็นอกเห็นใจ สามารถทนต่อลมและฝนได้ก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

เขาค่อยๆสงบลงแล้ว

เมื่อเทียบกับท่านอ๋องคัง เขาก็แค่สําลักน้ำลายเท่านั้นเอง

สามารถเลี้ยงดูลูกสาวและลูกชายออกมาได้เยี่ยงนี้ ท่านอ๋องยังมีชีวิตอยู่ในวันนี้ จริงๆแล้วมันไม่ง่ายเลย

“ให้เจ้าไปเรียนหนังสือที่โก๋วจื่อเจี้ยน

เจ้าก็ยังไม่ไป

เจ้ายังจะมาใช้สำนวนพูดจามั่วซั่วให้เละเทะตุ้มเป๊ะอะไรกันอีก!"

คังเสว่มี่กระโดดขึ้นมา หันไปตบคังวี่จิ่นด้วยมือข้างเดียวผู้ชมทั้งหมดอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

“เมียว่าอะไร ผัวก็ว่าตาม.." จี้อี้ค่อยๆเขี่ยฟองที่ลอยอยู่บนน้ำชา ในท่ามกลางฝูงชน ยังคงท่าทีที่สง่างามราวกับลมเย็นจันทร์กระจ่าง แล้วเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ

“ไม่ใช่ว่าข้ารังแกเจ้า จากเรื่องนี้ก็เห็นได้ชัดว่า คังซื่อจื่อจริงๆแล้วท่านควรไปที่โก๋วจื่อเจี้ยนแล้วตั้งใจศึกษาเล่าเรียนแล้วล่ะ

หรือจะพูดสำนวนให้ถูกต้องก็คือสามีเป็นผู้นำ ภรรยาเป็นผู้ตาม”

ฉากสถานการณ์ความสับสนวุ่นวายนั้นได้เงียบสงบลงแล้ว

ทุกคนหันกลับมามองไปที่ใครบางที่กำลังดื่มชาอย่างไม่ทุกข์ร้อน

ความหมายของคำพูดนี้ ดูเหมือนว่าจะผิดเล็กน้อย แค่เห็นท่าทีที่สง่างามของจี้อี้ ก็ดูเหมือนไม่มีความหมายแฝงอันใด

และในที่สุดท่านอ๋องคังก็กลืนน้ำชาที่กลืนไม่เข้าคาย ไม่ออก ลงไปได้แล้ว แล้วหันไปที่คังวี่จิ่นส่ายนิ้วแล้วเอ่ย

“ได้ยินหรือไม่? จี้ซื่อจื่อพูดแล้วว่าเจ้าต้องไปที่โก๋วจื่อเจี้ยนแล้ว รอให้อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีหมดแล้ว ก็รีบไปเข้าเรียนให้ข้าซะ!

อย่าเอาแต่ขี่ม้าหยอกเล่นทั้งวัน เดินเตร่อยู่ในหอนางโลมสีแดงนั่น!"

คังวี่จิ่นคลำด้านหลังศีรษะตรงที่ถูกคังเสว่มี่ตบ เจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน ยังคงยืนหยัดแล้วเอ่ยออกมา

“ข้าไม่สน ถ้าน้องสาวไม่ไป ข้าก็ไม่ไป!"

ท่านอ๋องระหว่างคิ้วสลักร่องรอยจวนจะกลายเป็นอักษรคำว่า กลุ้มใจ เอาไว้อยู่แล้ว

อ๋องคังมองไปที่คังเสว่มี่ในทันทีลูกสาวปฏิเสธที่จะไม่ไป ลูกชายก็จะไม่ไป

สองคนนี้ช่างเป็นฝาแฝดกันจริงๆ ล้วนแต่เสียดสีพ่ออย่างเขาคนนี้

อาชีประคองท่านอ๋องคังขึ้น เห็นว่าคังวี่จิ่นคงไม่มีวิธีที่จะพูดโน้มน้าวใจเขาได้แล้ว จึงหันกลับไปมองที่คังเสว่มี่

วันนี้ เขาสังเกตได้ว่า คุณหนูใหญ่ทำตัวไร้เดียงสา ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ความจริงแล้วนางมีขอบเขตของการกระทำรู้ว่าเมื่อ ไหร่ควรเดินหน้าหรือเมื่อไหร่ควรถอยหลัง

ดังนั้นกุญแจสำคัญที่จะไปเรียนหรือไม่ไปเรียนที่โก๋วจื่อเจี้ยน นั้นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณหนูใหญ่เช่นเดียวกัน

บนใบหน้าชราที่ซื่อสัตย์และใจดีฉาบไปความขมขื่นของอาชี เอ่ยออกมา

“คุณหนูใหญ่ ท่านไม่อยากไปโก๋วจื่อเจี้ยน ข้าน้อยก็ไม่มีสิ่งอื่นใดจะพูด

แต่ท่านมองดูซื่อจื่อ เขาคือผู้ที่จะสืบทอดตำหนักอ๋องคังต่อในอนาคต ในทุกๆวันก็เอาแต่คอยตามไปเที่ยวเตร่กับพวกเหล่าองค์ชายทุกแห่งหนเยี่ยงนี้วันข้างหน้าท่านอ๋องมอบตำหนักอ๋องให้อยู่ในมือเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการติดต่อในหลายๆด้าน กิจการเรื่องเล็กใหญ่ในราชสำนัก เขาจะจัดการได้เยี่ยงไร?ท่านอ๋องไม่ได้ว่าเขาจะทําลายครอบครัวทั้งหมด แต่เพราะตำหนักอ๋องมีคนมากมายเยี่ยงนี้ ถ้าหากว่าท่านและเหล่าหญิงสาวมากมาย อนุภรรยา คนรับใช้จะถูกผู้คนดูถูกและกลั่นแกล้งเล่า”คังเสว่มี่มองไปที่อาชีที่ในดวงตากำลังเฝ้ารอคาดหวัง อยู่ลึกๆในใจของนางรับรู้ว่าในคำพูดของเขานั้นสื่อถึงสิ่งใดบัดนี้ตำหนักอ๋องมีเพียงคังวี่จิ่นบุรุษเพียงคนเดียว ถ้าเขาไม่มีความสามารถประคับประคองตำหนักอ๋องคังได้ในวงการราชการและราชสำนักนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลา เมื่อประสบกับกลอุบายของผู้อื่น ความขัดแย้งทั้งในที่ลับและที่แจ้งบางทีตำหนักอ่องคังก็คือ ตำหนักอ๋องในวันนี้นางมองไปที่ใบหน้าที่จนปัญญาของท่านอ๋องคัง ที่มาพร้อมกับความเหนื่อยล้าเล็กน้อยถึงแม้ว่าเขาจะไม่นับว่าเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่ง แต่เขาก็สามารถทำให้ฮ่องเต้สองสมัยคุ้มครองรักษามาได้จนถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังคงมีข้อดีของเขาอยู่อย่างน้อยในช่วงนี้ นางก็ไม่ได้ยินชวนหลันและคนรับใช้พูดถึงความชั่วร้ายของท่านอ๋องคัง พิสูจน์ได้ว่าเขาก็นับว่าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์