คังเสว่มี่จ้องมองซุ้มกล้วยไม้หิมะตรงหน้า ข้างในซุ้มนั้นมีป่าหินสีแดงฉานปรากฏขึ้น
รูปร่างแปลก ประหลาดไปหมด มองดูแล้วมืดครึ้มน่ากลัวคังเสว่มี่จ้องมองด้วยความตกตะลึง ป่าหินสีแดงฉานตรงหน้าให้ความรู้สึกราวกำลังถูกกลืนกิน ดอกกล้วยไม้ล้อมรอบกำลังหายเข้าไปในความมืดที่เย็นยะเยือก
แต่นางกลับรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เพราะว่านางไม่ได้รู้สึกถึงความกลัวและความแปลกประหลาด ภายในใจรู้สึกสงบเหมือนเกลียวคลื่นที่นิ่งสงบในทะเล คังเสว่มี่ก้าวเดินไปข้างหน้า.....
ไป๋หลี่เหลียนได้ยินเสียงตอบกลับของคังเสว่มี่ แรงกดที่ร่างกายก็หายไปจนเป็นปกติ
เขากระโดดลุกขึ้นมาเหมือนกับปลาที่เจอแหขนาดใหญ่จู่ๆก็รู้สึกคล้ายกับตัวเองกำลังตกลงไปท่ามกลางเหล็กแหลม
ร่างกายของเขานั้นเหมือนกับถูกเหล็กแหลมทิ่มแทง ความเจ็บปวดทะลุเข้าสู่ทรวงอกจนทำให้เขาตาลาย เขากล้ำกลืนความเจ็บปวดพลางหันใบหน้าที่ยังคงดูดี แล้วตะโกนไปทางคังเสว่มี่
“เสวมี่ เจ้าพูดถูก ค่ายกลของเจ้าจิ้งจอกจี้นั้นไม่ได้ทำลายกัน....ง่ายๆ!” ไป๋หลี่เหลียนเกือบไม่ได้พูดคำพยางค์สุดท้าย
เขาเห็นคังเสว่มี่เดินเข้าไปในซุ้มกล้วยไม้หิมะ! จากที่ประสบพบเจอเมื่อสักครู่ทำให้เขานั้นรับรู้ถึงความอันตรายของค่ายกลนี้
เสว่มี่เพิ่งจะคุ้นเคยกับวรยุทธ์ตัวเบาได้ไม่นาน แล้วไยยังจะเข้าไปข้างในนั้นอีก ดวงตากลมโตของไป๋หลี่เหลียนเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกและพูดอย่างร้อนรน
“เสวีมี่ อย่าเข้าไป!"
น่าเสียดายที่คังเสว่มี่ไม่ได้ยินและไม่เห็นสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว นางได้ก้าวเท้าเข้าไปในค่ายกลเสียแล้ว
สิ่งที่นางเห็นตอนนี้นั้นไม่ใช่ซุ้มกล้วยไม้หิมะแต่อย่างใด แต่กลับเป็นป่าหินสีฉาดที่อยู่ภายในความคิดของนาง
ภายในป่าหินสีฉาดนั้นนางเลยจุดที่จะตกลงไปแล้ว แต่ภายในซุ้มกล้วยไม้หิมะที่นางเข้ามานั้น คือค่ายกลแปดสิบเอ็ด
“ค่ายสังหาร!” ใบบัวบนคลื่นสีฟ้าจางๆที่เหมือนควันขยับ
ร่างที่สวมเสื้อสีม่วงอ่อนราวกับแสงอาทิตย์แรกอรุณ เหาะข้ามผ่านซุ้มกล้วยไม้หิมะแขนเสื้อปลิดปลิวเหมือน เกลียวคลื่นกำลังลากหญิงสาวออกมา ท่ามกลางปุยเมฆบนท้องนภา
ภายใต้น้ำเสียงร้อนรนของไป๋หลี่เหลียนก็มีบางอย่าง ลอยตกมายังในตำหนัก
จี้อี้โอบอุ้มหญิงสาวที่เข้าไปในค่ายกลออกมา ก็มีชั่วแวบเดียวที่ใจรู้สึกสับสนขึ้นมา เหมือนกับเรือที่ถูกคลื่นซัด ถึงแม้จะนิ่งสงบแต่กลับอันตรายเมื่ออยู่ท่ามกลางคลื่นทะเลเหล่านั้น หาไม่เจอแต่ก็สามารถพึ่งพิงได้
แต่คนที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดนั้นกลับพบว่าสถานการณ์นั้นมันไม่ถูกต้อง นางผิดปกติ เขาจึงก้มหน้าลงไปคนในอ้อมกอด สิ่งที่เห็นตอนนี้คือสีหน้าที่ของเด็กสาวแปลกตาไป
ดวงตาใสแจ๋วแต่กลับสูญเสียจุดรวมสายตาไปทั้งสองข้างราวกับพลังชีวิตทั้งหมดไม่หลงเหลือแล้ว
มันดำมืดเหมือนกับป่าทึบที่ปกคลุมไปด้วยความมืดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้รู้สึกราวกับถูกพรากวิญญาณไปเหลือเพียงร่างกายที่ไร้วิญญาณ
จี้อี้ใจอยู่ไม่สุขนักเขายกกระชับอ้อมแขนแน่นริมฝีปากบางพร่ำเอ่ย
“เด็กน้อยเจ้าตื่นสิ...”
คังเสว่มี่ยังคงนิ่งเหมือนท่อนไม้สายตาเหม่อมองไกลออกไปไม่มีจุดสิ้นสุด ร่างของนางไม่ขยับมาสักพักแล้ว
“คังเสว่มี่?”
จี้อี้ตบไปที่แก้มของนางเบาๆทำให้สายตาของของนางประสบเข้สกับสายตาของเขาที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ
เขาจ้องมองนางถึงแม้ว่านางจะมองกลับมาแต่ร่างบางก็ยังคงนิ่งไม่ขยับอยู่เหมือนเดิมไม่แม้แต่จะกะพริบตาสักครั้ง
ปลายนิ้วของจี้อี้เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ คิ้วของเขานั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยจนยากจะสังเกตเห็น เสียงทุ้มธรรมชาติเกิดการสั่นเครือ
“มี่เอ๋อ...มี่เอ๋อ เจ้ารีบตื่นขึ้นมาสิอย่าเป็นแบบนี้เลย.copy right hot novel pub