เขาเกิดความโมโหเล็กน้อยเพราะคำพูดของคังเสว่มี่ ในดวงตาของเขามีความดุดัน
“ เมื่อก่อนเป็นข้าที่ไม่ค่อยใส่ใจเจ้า ไม่ได้บอกกับท่านพ่อให้เร็วที่สุด หากเจ้าโทษข้า เจ้าสามารถบอกความต้องการของเจ้าออกมาได้ แค่ข้าหาได้ข้าจะต้องทําตามความปราถนาของเจ้า แน่!"
คังเสว่มี่ยกยิ้มมุมปาก ในดวงตามีความเย็นเฉียบก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงดังฟังชัด
“ เช่นนั้นถ้าหากข้าบอกให้ท่านไม่เป็นองค์รัชทายาทเล่าเพคะ? ”
สีหน้าของไป๋หลี่รุ่ยแข็งทื่อ สีหน้าไม่น่ามองมาก ม่านตาสีน้ำตาลมีพายุโทสะที่จะออกมาได้ทุกเมื่อ เขากัดฟันกรอดเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
"เสว่มี่เรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่ใช่ข้าที่จะตัดสินใจได้ ตำแหน่งรัชทายาทของข้านี้ คือท่านพ่อมอบให้ข้า ไม่ใช่แค่ตำแหน่งเท่านั้นยังหมายถึงความหวังของท่าน พ่อด้วย
ตำแหน่งรัชทายาทเปลี่ยนแปลงจะเกิดความวุ่นวาย มากแค่ไหนเจ้าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งแค่เล่นอยู่ในวังเท่านั้นจะไปรู้ ถึงอันตรายข้างในนี้ได้อย่างไร ”
ชิ พูดเยอะขนาดนี้ทำไม เพราะอาลัยอาวรณ์ตำแหน่งนี้น่ะสิ เพราะเหตุใดนางจะไม่เข้าใจ เพราะนางเข้าใจมากเลยบอกความต้องการนี้ออกมา
"เมื่อครู่นี้องค์รัชทายาทกล่าวว่าข้าสามารถบอกความ ต้องการของข้าออกมาได้ ท่านสามารถทำได้ก็จะทำให้ข้า แม้แต่ตำแหน่งรัชทายาทท่านก็ปล่อยไม่ได้ ยังจะกล่าวอะไรอีกเล่า!"
คังเสว่มี่เอ่ยอย่างไม่แยแสไป๋หลี่รุ่ยก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวสายตาอ่านไม่ออก
“ นอกจากสิ่งนี้ เจ้าเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นได้ข้าต้องทําได้แน่!"
คังเสว่มี่หันหลังกลับอย่างช้าๆ น้ำเสียงเย็นชา ในดวงตามีความเยาะเย้ย
“องค์รัชทายาทเพคะ แม้ว่าวันนี้ท่านยังคงไม่ใช่ผู้ที่สูงส่งที่สุด ยังไม่ใช่จักรพรรดิ แต่ท่านก็คือว่าที่กษัตริย์ เป็นองค์รัชทายาทของเรา
คำพูดที่ท่านเคยพูดมาทุกประโยคมีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว ในเมื่อความปรารถนาแรกท่านก็ทำไม่ได้ เพราะเหตุใดข้าจะต้องบอกความปรารถนาที่สองออกมากันเล่า?
ตามความน่าเชื่อถือของท่านที่อยู่ในใจข้านั้น ข้ารู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะบอกออกมา! "
ริมฝีปากบางของไป๋หลี่รุ่ยเม้มจนจะเป็นเส้นตรง มือที่อยู่ในชายเสื้อกำแน่น ไม่ให้อารมณ์ของตัวเองออกมาข้างนอกมากนัก
แต่โทสะในใจของเขาได้แผ่ออกมาจากดวงตาที่โกรธแค้น
คังเสว่มี่ไม่สนใจว่าสีหน้าของเขาจะน่ามองมากแค่ไหน นางหันไปมองไป๋หลี่เหลียน
“ วันนี้ได้เรียนรู้มาไม่น้อยแล้ว เรากลับไปกันเถอะเพคะ ”
ไป๋หลี่เหลียนมองท่าทางของไป๋หลี่รุ่ย นึกไม่ถึงว่าคังเสว่มี่ที่ผู้คนเล่าขานว่านางเป็นใบ้ สมองเฉื่อยชาจะพูดเก่งเช่นนี้ทำให้รัชทายาทอ้าปากไม่ออก ดวงตามีความขบขัน
เส้นเลือดบนหน้าผากกระตุกไม่หยุดแล้วยังต้องกลั้นไว้ อีกด้วย หลังจากที่ได้ยินนางพูดแล้วก็หันไปมองคังเสว่มี่
“ ไปตอนนี้เลยหรือ? วันนี้อุตส่าห์เจอจี้ซื่อจื่อ แม้แต่เรือของเขาเรายังไม่ได้นั่งเลย ยังไม่ทันได้นั่งเรือชมทะเลสาบเลยนะ ตอนนี้กลับไปก็น่าเสียดายแย่น่ะสิ”
คังเสว่มี่ชำเหลืองมองจื้อี้แล้วฉีกยิ้ม แต่วันนี้เจอไป๋หลี่รุ่ยยังมีเหยาเมิงฉิงที่เขาพามา แม้นางจะอยากดูทิวทัศน์ อารมณ์ดีๆที่มีก็หายไปหมด เลยเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า
“ชมทิวทัศน์ก็ต้องเกี่ยวกับอารมณ์ด้วย หากอารมณ์ไม่ดีไม่ว่าทิวทัศน์แบบไหนที่เห็นแล้วก็จะไม่น่ามอง อย่างนี้แล้วทั้งเสียเวลาแล้วยังเสียทิวทัศน์ที่น่ามองไป ”
เอ่ยเสร็จแล้วนางก็ยื่นมือจับผมตรงหน้าอกหันศีรษะไป ด้านข้างน้อยๆ
เผยโครงรูปสวยของลำคอที่ขาวเนียนออกคล้ายกับ จิ้งจอกขาวที่อยู่บนภูเขาฉงชิง
ยั่วยวนผู้คนให้มองไปยังจุดสิ้นสุดของปลายทาง.....
นี่แค่การกระทำง่ายๆเท่านั้น นางไม่รู้สึกตัวเลยว่าขณะนี้สายตาของพวกเขาต่างก็ อยู่บนร่างนาง
ดวงตาที่สงบราวกับน้ำนิ่งของจี้อี้มองแขนของนาง เผยแขนขาวออกมาคืบหนึ่งราวกับรากบัวที่ขาวดั่งหยก ผมนุ่มผ่านนิ้วมือของนางไปแล้วค่อยๆตกลงมา แขนชายเสื้อกว้างเลื่อนลงเพราะยกมือ นิ้วเรียวยาวยกขึ้นน้อยๆ
ดวงตาของเขามองนิ่งแล้วค่อยๆแดงก่ำคล้ายกับเมฆสีแดงในยามเย็น
แค่ชั่วขณะเท่านั้นดวงตาก็กลับมาสงบนิ่งราวกับน้ำนิ่ง แต่ในดวงตาลึกๆมีความรู้สึกแปลกๆเพิ่มขึ้นมาด้วย
ในดวงตาของไป๋หลี่เหลียนมีความหลงใหลเผยออกมา
ชั่วขณะหนึ่ง หญิงงามใต้ฟ้า โสเภณีที่ดังที่สุดในช่อง คุณหนูจากตระกูลใหญ่ หญิงสาวจากครอบครัวเล็กๆเขาเคยเห็นมานักต่อนัก แต่วันนี้กลับเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าการกระทำของหญิง สาวจะน่าหลงใหลเช่นนี้
"ไปกันเถอะ!” คังเสว่มี่วางมือลง ภาพสวยอยู่ใต้ชายเสื้อ นางจับกระโปรงแล้วกระโดดลงมาจากเรือ
ไป๋หลี่รุ่ยมองการกระทำของนาง ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยสักนิด
แต่เขากลับไม่รู้สึกว่าหยาบคาย รู้สึกว่าคล้ายกับผีเสื้อเบาๆ ร่าเริงเป็นธรรมชาติ
ตามด้วยไป๋หลี่เหลียนที่ขึ้นไปอยู่บนฝั่งด้วยวิชาตัวเบา พัดพัดจีนขาวช้าๆเดินไปยืนอยู่เคียงข้างนาง
“ คำพูดของเสว่มี่ช่างที่มีเหตุผลมากนัก การชมทิวทัศน์นั้นเกี่ยวกับอารมณ์จริงๆ หากอารมณ์ดีไม่ว่าที่ไหนก็คือทิวทัศน์สวย "
“ อืม ยังเป็นเจ้าที่เข้าใจข้า เจ้าเข้าใจได้เร็วจริงๆเลยนะ "
ยังคงเป็นเขาที่ดี คุยกับเขาไม่ต้องเป็นห่วงอะไรและไม่ต้องนึกอะไร ไป๋หลี่เหลียนก็สามารถเข้าใจความหมายของนาง ประโยคเดียว ไม่รู้สึกว่านางแปลกสักนิด
เมื่อพูดคุยกันเสร็จนางก็ไม่ลืมที่จะหันกลับหลังไปมองจี้อี้ ชวนหลันตามติดอยู่ด้านหลังของคังเสว่มี่
น่าเสียดาย เมื่อครู่นี้คุณหนูกำลังคุยกับจี้ซื่อจื่ออยู่แท้ๆ หากไม่ใช่องค์รัชทายาทปรากฏตัวออกมาดื้อๆ ยังจะคุยได้นานกว่านี้อีก
นางรู้สึกว่าจี้ซื่อจื่อดีกว่า เทียบกับองค์รัชทายาทแล้วดีกว่าอยู่มาก
กําลังก้มศีรษะผิดหวังเล็กน้อยก็มองรอยขาดด้านหลัง กระโปรงของคังเสว่มี่ แล้วรีบวิ่งไปด้านหน้าเอ่ยว่า
“ คุณหนู ทำไมกระโปรงของท่านถึงขาดล่ะเจ้าค่ะ? ”
คังเสว่มี่หันไปมอง ใช่สิ นางเกือบลืมเรื่องกระโปรงไปแล้ว เงยหน้าขึ้นตะโกนพูดกับจี้อี้ว่า
“ นี่ จี้อี้ ท่านยังไม่รีบมาชดใช้กระโปรงของข้าอีกหรือ?"นางตะโกนชื่อของจี้อี้แบบนี้ ท่าทางสบายๆของนางนั้นไม่มีไป๋หลี่รุ่ยไว้ในสายตาดวงตาของไป๋หลี่รุ่ยขรึมลง ความเย็นบนร่างค่อยๆเยอะขึ้นกว่าเดิม นกน้อยบนฝั่งรู้สึกความเย็นจากเขาที่แผ่ออกมาทำให้ ตกใจ นกน้อยร้องแล้วบินจากไปจี้อี้ยกเสื้อคลุมขึ้นเบาๆราวกับมีบันไดล่องหนอยู่กลาง อากาศ ชุดที่สวมไม่ยุ่งเหยิงสักนิด เขาก้าวลงมาจากกระดานเรืออย่างสง่าช้าๆ ท่าทางสบายๆ เดินมาถึงฝั่ง ใบหน้าสวยไม่มีผู้ใดเทียบได้“ ในเมื่อข้าสัญญากับเจ้าแล้วก็ต้องไม่ลืมแน่นอน"เขาเดินมาความเย็นเฉียบที่มาจากร่างของไป๋หลี่รุ่ยถูกเขาบกบังแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจทําให้เหลือเพียงภาพของเขาที่น่ามอง คล้ายคลึงกับสายลมฤดูใบไม้ผลิที่แผ่วเบา“ ผู้ใดจะรู้กันล่ะ ข้ากลัวว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเจ้าจะไม่ชดใช้ให้ข้าเมื่อข้าลืม ไป! ” คังเสว่มี่บ่นจี้อี้หลุบตาลงต่ำแล้วดึงชายเสื้อขึ้นอย่างช้าๆ “ วาจาที่ข้า จี้อี้ กล่าวแล้ว ต้องนับอยู่แล้ว "ไป๋หลี่เหลียนเพิ่งมองเห็นรอยขาดบนกระโปรงด้านหลังของคังเสว่มี่เขามองนิ่งไปชั่วขณะแล้วใช้พัดจีนขาวชี้แล้วเอ่ยว่า"เมื่อเช้าข้ารับเจ้าออกมายังดีๆอยู่เลย เพราะเหตุใดถึงขาดไปในช่วงเวลาที่รวดเร็วเช่นนี้? "
copy right hot novel pub