โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 113 ความหมายของคำว่า "ท้องดำ"

แต่ว่า

บัดนี้ได้ถูกมือและเท้าของนางแผ่ออกยึดครองพื้นที่ไปหมดแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ล้วนแต่เป็นพื้นที่แคบๆ

เขาจะเลือกที่จะนั่งเบียดๆอยู่ด้านข้าง หรือไม่ก็ทำได้เพียง “ตั๋วยืน” ยืนไปจนถึงร้านค้า

คังเสว่มี่ยกมือถูๆบนผ้าห่มไหมน้ำแข็งอย่างมีความสุขใบหน้าของนางบ่งบอกถึงความสบายสบาย สบาย สบายเหลือเกิน

จี้อี้มองดูนางหลับตาพริ้มอย่างสบาย บนใบหน้าเล็กๆแขวนไปด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แล้วเอ่ยปากพูดช้าๆ

“หลายปีมานี้ ข้าเคยได้นั่งบนขนของจิ้งจอกหิมะ ขนของหมีดำ พรมผ้าไหมน้ำแข็ง ผ้าห่มอูฐตะวันตก ข้าไม่เคยได้รู้ว่าการได้นั่งบนผิวหนังของคนจะให้ความรู้สึกเป็นเยี่ยงไร ในวันนี้เป็นโชคดีของคุณหนูคังแล้ว ข้าจะได้ลองนั่งสักคราว”

คังเสว่มี่ได้ยินสิ่งที่เขากล่าวมาก็คิดอยากจะลืมตา จี้อี้ต้องการจะทําอันใด ต้องการนั่งทับบนตัวของนางหรือ? จําเป็นต้องโหดร้ายเยี่ยงนี้เชียวหรือ? เขาจงใจทำให้นางลำบาก ต้องการทำให้นางตื่นตระหนกจนรีบดีดตัวลุกขึ้นมาหรือ?

นางยังคงไม่ได้ทำเช่นนั้น ลูกตากลิ้งกลอกไปสองรอบ ยิ่งคิดดวงตานางยิ่งปิดแน่นยิ่งขึ้น

จี้อี้มองดูลูกตาที่อยู่ใต้เปลือกตาของนางที่ยังคงไม่ หยุดกลิ้ง เขารู้ว่านางกำลังฟังอยู่ จึงส่งเสียงที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“อืม ดูสิว่าตรงไหนน่าจะนั่งสบายที่สุด

หน้าท้องละกัน ส่วนท้องเป็นส่วนที่เรียบที่สุด นุ่มที่สุด ต้องนั่งสบายเป็นที่สุดอย่างแน่

นั่งลงไปคงจะอ่อนยวบ"

คังเสว่มี่ยังคงหลับตา ได้ยินเพียงเสียงก้าวเท้าเบาๆ หลังจากนั้นฝีเท้าก็มาหยุดลงอยู่ตรงที่ข้างหูของนาง ในขณะที่ผ้าถูกหยิบขึ้นมันเกิดเสียดสีกันจนส่งเสียง มาพร้อมกับลมหายใจที่ใสสะอาดราวกับธารน้ำแข็งในฤดูใบไม้ผลิค่อยๆเข้ามาช้าๆ......

“ข้าไป จี้อี้ เจ้ามันโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว เจ้าเตรียมจะนั่งลงบนตัวข้าจริงๆหรือยังไงกัน!"

นางกลิ้งลุกขึ้นมา ในตอนนี้มันไม่สำคัญ อีกนิดเดียวนางจะโกรธจนเลือดพุ่งออกมาอยู่แล้ว!

จี้อี้ยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม บุคลิกสูงสง่าที่เหมือนกับคำพูดเหล่านั้นที่เพิ่งเอ่ยออกมา

เมื่อครู่นี้มันล้วนไม่ได้ออกมาจากปากของเขา มีที่ไหนกันที่มีเค้าส่อให้เห็นว่าเขาจะมานั่งบนตัวของนาง!

"ที่แท้เจ้าก็เป็นเจ้าจี้อี้ท้องดำนี่เอง!"

เขาไม่คิดที่จะนั่งบนตัวนางตั้งแต่แรก ตั้งแต่แรกเริ่มก็แค่วางแผนหลอกนางเท่านั้น ไม่ว่าจะหนังมนุษย์หรือหน้าท้องนาง เขาก็แค่ดูให้ชัดว่านางไม่ยอมปล่อยให้ผู้ใดมานั่งบน ตัวนางอย่างแน่นอน!

ใต้หล้านี้ยังจะมีคนที่ไร้ยางอาย หน้าเนื้อใจเสือยิ่งไปกว่าเขาอีกหรือ?

นางจ้องมองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“โชคดีที่เจ้านั้นเป็นองค์ชายองค์หนึ่งขององค์จักรพรรดิ ใครๆก็ล้วนบอกว่าเจ้าสูงส่งสง่างาม ซื่อสัตย์เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร เจ้าไปหลอกลวงผู้อื่นได้เยี่ยงไร

ข้าว่าเจ้าไม่น่าจะเป็นองค์ชายอันดับหนึ่ง เจ้ามันเป็นไอ้ท้องดำอันดับหนึ่งต่างหาก!”

ตาและคิ้วของจื้อี้ไม่ได้ขยับ สงบอารมณ์กริ้วโกรธที่มีต่อคังเสว่มีไว้ ความโกรธเคือง ความเศร้าที่แสดงออกอยู่ในแววตา เขาค่อยๆก้าวเดินเข้าไปภายในรถม้าและเลือกที่นั่ง เพลินไปกับท่าทีการกระดกเท้าของคังเสว่มี่ หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิดปัญหาแล้วนั่งลงอย่างช้าๆ เอ่ยถาม

“ข้าได้ยินเจ้าตะโกนว่าท้องดำหลายคราวแล้ว ท้องดำมันมีความหมายว่าอันใดหรือ?”

ความโกรธเมื่อครู่นี้ทำให้ท้องของคังเสว่มี่พองขึ้นมา ประหนึ่งกับปลาทองที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยน้ำออกมา ที่นางโกรธอยู่ในนี้ สิ่งที่เขาได้เห็นทั้งหมดมันไม่ใช่ใจความสำคัญเลยหรือ

เอามือทั้งสองข้างกอดไขว้กันไว้ที่หน้าอก นางนำบั้นท้ายนั่งลง ชำเลืองไปที่จี้อี้แล้วเอ่ย

“เหอะ ไม่ใช่เจ้าพูดเองหรอว่าเจ้าอ่านหนังสือมานับไม่ถ้วน ตอนอายุแปดขวบก็เข้าไปในโก๋วจื่อเจี้ยนไปอภิปราย วรรณกรรมก็ไม่เป็นสองรองใคร

โค่นล้มเหล่าอาจารย์ทั้งหลายและสอบได้ตำแหน่งจอ หงวน(เป็นตำแหน่งราชบัณฑิตซึ่งได้คะแนนอันดับหนึ่ง ในการสอบขุนนางของประเทศจีนสมัย สมบูรณาญาสิทธิราชย์)

อายุสิบขวบถูกกองกำลังพลทหารบีบบังคับให้ถอยทัพ กลับต้าฉี”

จี้อี้ไม่รู้จะขยับนิ้วของเขาไปไว้ที่ใด แต่เดิมบนรถม้าราบเรียบไม่มีสิ่งของอันใด บัดนี้พบว่ามีโต๊ะน้ำชาสีดำอยู่ ตั้งอยู่กลางห้อง เขาหยิบชุดน้ำชาออกมาจากด้านล่าง วางไว้ข้างบนโต๊ะ

“เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยพูดกับไป๋หลี่เหลียนหรือว่า ทุกสิ่งที่เจ้าพูดเหล่านั้นล้วนอาศัยความรู้สึกในจิต หนังสืออันใดเจ้าก็มิเคยอ่าน ทุกสิ่งที่เจ้าคิด คือจิตวิญญาณของเจ้า

แม้ว่าข้าจะอ่านหนังสือมามากมาย อย่างประวัติศาสตร์พงศาวดาร ตำรารอบรู้ เพลงบทกวี ดาราศาสตร์ภูมิศาสตร์ ร้อยปราชญ์หลากสำนัก แต่ก็ไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับความรู้สึกในจิตใจของมนุษย์ มันก็เป็นธรรมดาที่ข้าจะถามเจ้า"

คังเสว่มี่สำลักขึ้นมา นี่ไม่ใช่คำที่นางเพิ่งจะพูดกับไป๋หลี่เหลียนไปเมื่อครู่นี้ หรอกหรือ คนผู้นี้มีความสามารถในการจำดียิ่งนัก

สามารถนำมาพลิกแพลงใช้ให้มันดีกว่าเดิม อีกไม่นานนางคงจะถูกเขาเอามาอุดปากนางเป็นแน่

ดูเสร็จก็จํา

นางหยุดชะงักในทันที ก่อนจะจ้องเขม็งไปที่จื้อี้แล้วเอ่ย

“เช่นนั้นเจ้าก็จงฟังให้ดี ท้องดำความหมายของวลีนี้ ข้าจะบอกเจ้าตอนนี้แหละ

“วลีนี้ใช้อธิบายถึงรูปลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า ดูแล้วก็เหมือนกับความสูงส่งสง่างามของเจ้า เป็นคนซื่อสัตย์อ่อนโยน”

ความเป็นจริงแล้วภายในจิตใจที่หนาแต่มองไม่เห็น ดำแต่ไม่มีสี ใจคอโหดเหี้ยม เจ้าเล่ห์เพทุบาย ดูแล้วให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเปลือก ภายนอกที่ได้เห็น ถ้าหากว่าเจ้ายังคงไม่เข้าใจ แค่เจ้ามองที่ตัวเจ้าเองเจ้าก็จะทราบแล้ว เจ้ามันเป็นแบบฉบับของท้องดำแท้ๆเลย!

แน่นอนว่าคำพูดเหล่านี้นางไม่ได้พูดออกมา

หลังจากที่ อี้ฟังจบ สายตาก็จ้องมองต่ำไปที่คังเสว่มี่ทันที และค่อยๆโน้มตัวเข้าไปในตู้รถของรถม้า ผมสีดำโปรยอยู่ข้างหลัง ท่าทีผ่อนคลาย เผาให้เห็นถึงความเกียจคร้าน ส่งเสียงพึมพำเบาๆ

“ข้ารู้สึกว่า บางครั้งความนึกคิดในจิตใจของเจ้ามันก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว วลีนี้ช่างเหมาะกับความในใจของข้ายิ่งนัก ข้าไม่คิดเลยว่าในหัวใจของเจ้าจะประเมินค่าของข้าไว้สูงเยี่ยงนี้”"__" คังเสว่มี่หมดคําจะเอ่ยประโยคไหนของนางกันเล่าที่ไปเยินยอเขา “จี้อี้ เจ้าอย่าหลงตัวเองเกินไปหน่อยเลย คำพูดเหล่านั้นที่ข้าเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้ คําไหนกันที่มันสื่อว่าชมเจ้า วลีนั้นเป็นคําเยินยอเจ้าหรอกหรือ?”“เมื่อกี้เจ้าไม่ได้กำลำเยินยอว่ารูปลักษณ์ภายนอกของ ข้าสูงศักดิ์สง่างาม ซื่อสัตย์อ่อนโยนหรอกหรือ? คำพูดเหล่านี้ พรรณนาได้ดียิ่งนัก นี่ต้องเป็นความรู้สึกในหัวใจเจ้าที่มีให้กับข้าอย่างเป็นแน่ ข้าปลื้มใจยิ่งนัก” จี้อี้พูดเบาๆ ยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย และส่งรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งไปให้นางจะเป็นลม ที่นางพูดไปแปดพยางค์เมื่อครู่นี้เพื่อที่จะดึงตัวตนของ คนหนังหนาโหดเหี้ยมใจดำอำมหิตที่อยู่ด้านหลังนั้น ออกมาเถอะ คนผู้นี้ฟังความเลือกฟังแต่คำพูดที่น่าฟัง คำอื่นๆทําเป็นหูทวนลมซะงั้น!ยังมีอีก หัวใจของนางไปมีความรู้สึกอะไรต่อเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ กัน! ประโยคนี้ทำไมฟังดูแล้วมันแปลกๆจี้อี้ยิ้มเบาๆ หยิบขวดลายครามหยกขาวคอยาวออกมาจากด้านล่าง ค่อยๆยกขึ้นระหว่างมือ ของเหลวสีเหลืองอำพันไหลออกมาจากปากของขวดลายคราม แค่เพียงชั่วขณะก็ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วรถม้า

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์