“อะไร?” คังเสว่มี่มองดูที่รอยยิ้มของเขา ถึงแม้ว่ายังคงเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน แต่ทว่าไม่สามารถอธิบายได้ นางรู้สึกราวกับว่านางกำลังจะมีภัยอันตรายเล็กน้อย คังเสว่มี่ขยับร่างกาย นางเอียงไปข้างหลังเล็กน้อย พร้อมที่จะหลบหนีทุกเมื่อ
“เหอะเหอะ....” จี้อี้หัวเราะ เสียงหัวเราะที่ต่ำ ดุจดั่งเสียงดีดสายพิณยามเที่ยงคืน เขาเพียงเอื้อมมือออกไปอย่างช้าๆ แล้วเคลื่อนไหว ระหว่างยกมือขึ้นนั้นเชื่องช้ายิ่งนัก
แต่ฉับพลัน พรึบ!
รวดเร็วปานสายฟ้า เขายกมือขึ้นเร็วจนทําให้คนมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ในขณะที่คังเสว่มี่ยังไม่มีทีท่าโต้ตอบ จู่ๆร่างของนางก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว
คังเสว่มี่งุนงง นี่วิชาอะไรของเขาอีก?
“ก็คือ..ในตอนที่ความสามารถของผู้ชายนั้นถูกผู้หญิงสงสัย ตามสถานการณ์ปกติแล้ว ผู้ชายมักจะต้องการบอกกับนางถึงการมีอยู่ของพละ กำลังในร่างกายที่แท้จริงว่าความจริงแล้วพวกเขานั้นมีพละกำลังมากมายเพียงใด สามารถพิสูจน์ว่า........ใช้ได้หรือไม่”
น้ำเสียงของเขายังคงเบาๆ เขาก้มศีรษะลงมาเล็กน้อย สายตาประสานเข้ากับดวงตาของนาง ในขณะที่นางกำลังแหงนมองขึ้นมา
จู่ๆนางก็ถูกเขาดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา มันเกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยที่นางไม่ทันได้ป้องกันตัว คังเสว่มี่เงยหน้าขึ้น ตาเบิกกว้างมองไปที่เขา
จากมุมของนางมองขึ้นไป ระยะห่างของเขาห่างจากนางไม่ถึงหนึ่งนิ้ว ลมหายใจของเขารินรดอยู่บนใบหน้าของนาง แม้แต่ขนที่ละเอียดอ่อนบนใบหน้าก็ถูกย้อมไปด้วยลมหายใจของเขา
เหมือนกับความรู้สึกที่ไม่รู้จัก ที่เริ่มจากปลายจมูก เข้าสู่ผิวหนังและค่อยๆรุกล้ำเข้าไปภายในหัวใจ ก่อกวนความถี่การเต้นของหัวใจนาง กลิ่นหอมจางๆนั้นลอยเข้ามาสู่หัวใจ
เมื่อเผชิญกับความเต้นถี่ของหัวใจที่เพิ่มเร็วขึ้นอย่างฉับพลัน คังเสว่มี่ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาในทันที
นางยื่นมือออกไปผลักที่หน้าอกของเขา แต่กลับพบว่าทั่วทั้งตัวกลับไม่มีพละกำลังแม้สักนิดเลย นางต้องการที่จะขยับตัว
แท้จริงแล้ว ภายในความเงียบ นางได้ถูกกักขังอยู่ในอ้อมกอดของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดูไปแล้วอ่อนโยนราวกับไข่มุกส่องแสงอ่อนๆ การเคลื่องไหวอย่างกระทันหันทําให้คนไม่คาดคิด
คังเสว่มี่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ใบหน้างามแดงระเรื่อขึ้นมาราวกับโลกจะถล่มลงมาอย่างไรอย่างนั้น บัดนี้นางเข้าใจแล้วว่า จี้อี้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาที่นางจะต่อกรด้วยได้ตามอารมณ์
นางกลัวว่าจะตกเข้าไปในดวงตาที่ย้อมไปด้วยสีหมึกของเขา กลัวที่จะถูกดึงดูดด้วยลูกนัยตาสีดำที่ไม่มีที่สิ้นสุดคู่นั้นและริมฝีปากที่แดงระเรื่อชุ่มฉ่ำนั่น มันทำให้หัวใจที่อยู่ในช่องทรวงอกเต้นเร็วขึ้นอีกครั้งโดยไม่สามารถอธิบายได้
นางขยับตัวอีกครั้ง ต้องการที่จะแยกตัวออกจากอ้อมกอดของเขา ครั้งนี้ ไม่มีการต่อสู้ดิ้นรนอย่างที่คาดการณ์ไว้ในจินตนาการ แค่ใช้แรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มือของจี้อี้ก็ค่อยๆคลายออก ปล่อยให้นางออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างง่ายดาย
ท่าทีของเขายังคงดูไม่แยแสอย่างเช่นเคย มันเหมือนกับว่าไม่เคยพูดไม่เคยทำอะไร ไม่เคยกระทำด้วยการใช้ภาษาที่พูดจากระเซ้าเย้าแหย่อย่างเมื่อครู่นี้มาก่อน นี่คือเขาบรรลุการกระทำขั้นสูงสุดแล้ว?
ใบหน้าที่ละเอียดอ่อน มีความบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ดุจเทพ ใช้นํ้าเสียงที่ทําให้สะเทือนอารมณ์เช่นดังเดิม เอ่ยคำต่อคำอย่างช้าๆ
“ดังนั้น ต่อแต่นี้ไปอย่าไปพูดประโยคนี้กับชายอื่นใด เข้าใจหรือไม่?”
ทรงเกียรติและสง่างาม นางถอนคำประเมินค่าของตนเองคืน คนผู้นี้นี่คือทำความชั่วแต่มันถูกปกปิดไปด้วยรูปโฉมที่งดงามของเขา
หากผู้อื่นได้ยินประโยคเมื่อครู่นี้แล้วล่ะก็ คงไม่สามารถได้มองดูเขาด้วยความรู้สึกที่น่าเคารพเลื่อมใสกับ ท่าทีที่น่าเลื่อมใสของเขาเช่นนั้นอีกเป็นแน่
นางกัดริมฝีปากแล้วจ้องมองที่รอยยิ้มของจี้อี้
ในเวลานั้น นางดูออกว่าถึงแม้ว่าจี้อี้จะกำลังยิ้มอยู่ แต่ในรอยยิ้มแอบซ่อนไปด้วยความรู้สึกที่คาดเดาไม่ ได้ ไม่น้อยไปกว่าหนามของดอกมั่นถ้วหลัว ที่มีความแหลมคมอยู่ในความงดงาม ยิ่งงดงามเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น
จี้อี้กลับคืนสู่สภาพที่ปกติ ท่าทางของเขาไม่แยแสต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เขาเอนกายพิงผนังรถม้าที่อยู่ข้างในรถม้า จากนั้นก็ปิดตา ราวกับกําลังหลับอยู่
นางไม่รู้ว่าตนเองควรจะพูดอันใดต่อและควรทำสิ่งใด เมื่อครู่ยังรู้สึกว่าในรถม้านั้นช่างกว้างใหญ่ แต่ในเวลานี้ก็รู้สึกคับแคบขึ้นมา
เสียอย่างนั้น แม้แต่อากาศก็เปลี่ยนมาซบเซา อากาศคลุมเครือทำให้รู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ชีพจรของหัวใจในช่องทรวงอกมีการเต้นผิดปกติเล็กน้อย
เป็นเวลาที่ประจวบเหมาะ เสียงของฉวี่ซางลอยมาจากด้านนอก “ซื่อจื่อ คุณหนูคัง ถึงร้านหวินเสี่ยงเก๋อแล้วขอรับ”
ประโยคนี้เป็นเสียงที่ไพเราะน่าฟังที่สุดที่คังเสว่มี่ได้ยินในเวลานี้เลยนางรีบร้อนที่จะยกเปิดม่านขึ้นจนเท้าและมือสะเปะสะปะ ไปหมดแล้ว จากนั้นก็กระโดดลงจากรถม้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายไปทั้งร่างกาย
ที่แท้ก็เป็นเพราะอากาศในรถม้าขุ่นมัวมากเกินไป ดูเหมือนว่าอุปกรณ์ระบายอากาศด้านในจะไม่ค่อยดี
ฉวี่ซางเห็นว่านางลงมาจากรถม้าแล้ว แต่ซื่อจื่อของตนกลับไม่มีทีท่าว่าจะขยับ เลยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูด “ซื่อจื่อ ถึงร้านหวินเสี่ยงเก๋อแล้วขอรับ”
“อืม ข้าไม่เข้าไปแล้ว เจ้าไปเลือกเป็นเพื่อนคุณหนูคังไป” เสียงของจี้อี้ลอยมาจากข้างในรถม้าคังเสว่มี่แบะปาก ไม่ลงก็ไม่ลง และนางก็เข้าไปเลือกด้วยตนเองได้ เลือกเอาอันที่แพงที่สุดด้วย ให้เจ้าปวดใจไปเลย!
รถม้าสองคันที่ตามอยู่ข้างหลังเห็นรถม้าของจี้อี้หยุดลง ก็ต่างพากันทยอยหยุดรถม้าลง ไป๋หลี่เหลียนกระโดดตรงลงมาจากรถม้า เดินไปหยุดอยู่ที่ข้างกายของคังเสว่มี่ มองดูสีหน้าของนางเหมือนจะไม่ค่อยดีจึงเอ่ยถาม
“เป็นอันใดไปหรือ ใยสีหน้าของเจ้าถึงได้ดูแปลกๆ หรือว่าจี้อี้รังแกเจ้า?”
รังแกนาง? เมื่อครู่นั้นใช่เขาได้รังแกนางไปแล้วหรือ? แต่เขาก็ไม่ได้ทําเรื่องที่เลวร้ายอะไร หากบอกว่ารังแกนาง ไป๋หลี่เหลียนถามขึ้นมาว่ารังแกอย่างไร นางจะตอบว่ายังไงล่ะหรือนางจะตอบว่าต่อแต่นี้ไปจี้อี้ไม่อนุญาตให้นางสงสัย ในความอ่อนแอของร่างกายผู้อื่น
คำพูดพวกนี้พูดออกไปคงแปลกไม่น้อย ไม่ให้เข้ารู้เรื่องเป็นดีที่สุดคังเสว่มี่ส่ายหน้า “เปล่า นั่งรถม้ามานานจนรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย ลงมาเดินสักพักก็ดีขึ้นแล้ว”ชวนหลันที่ตามอยู่ข้างหลังไป๋หลี่เหลียนเดินขึ้นมา หลังจากที่ได้ยินก็ร้อนรนรีบเข้ามาเอ่ยถาม “คุณหนู เมื่อครู่นี้ท่านนั่งรถม้าขององค์ชายหกก็ไม่เห็นเป็นอันใด ใยตอนนี้ถึงได้เวียนหัวได้ล่ะเจ้าคะ?”“ใครจะไปรู้ล่ะ” คังเสว่มี่โบกมือไปมา “บางทีอาจเป็นเพราะรถม้านี่นั่งไม่สบายก็ได้มั้ง"ไป๋หลี่เหลียนชำเลืองมองไปที่รถม้าข้างหน้าที่ส่งกลิ่นหอมที่ไม่มีอันใดเทียบได้ ในดวงตาดอกท้อเต็มไปด้วยความสนใจ ในรถม้าของจื้อี้ถูกสร้างขึ้นโดยไปเชิญช่างฝีมือที่ดีที่สุดในใต้หล้ามาสร้าง มันให้ความอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นในฤดูร้อน กลางวันและกลางคืนก็สว่างไสวเช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นคงไม่ต้องพูดถึงระดับความสะดวกสบาย เมื่อนั่งอยู่ในนั้นก็ไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าม้าจะวิ่งด้วยความรวดเร็วก็ตามในครั้งหนึ่งเขาเคยแอบเข้าไปนั่งในนั้นถึงแม้ว่าเขาจะถูกองครักษ์ของจี้อี้ไล่ล่าตามไปครึ่งชีวิต ลึกๆของหัวใจแล้วก็ยังคงรู้สึกว่ามันคุ้มค่า น่าอิจฉายิ่งนักแต่ช่างฝีมือดีอันดับหนึ่งในใต้หล้าระเหเร่ร่อนไม่มีที่อยู่อาศัยที่แน่นอน นิสัยพิลึกกึกกือ หน้าตาดูลึกลับนั้น เขาคิดจะหาก็หาไม่พบหากไม่แล้วเขาคงจะต้องสร้างตามรถม้าของจี้อี้เป็นแน่ คังเสว่มี่นั่งอยู่ข้างในรู้สึกไม่สบายตัวมันน่าแปลกใจยิ่งนัก
copy right hot novel pub