โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 121 อยากตบหน้าเขา

เหยาเมิ่งฉิงก้าวมาข้างหน้าสองก้าว ยืนอยู่ตรงหน้าคังเสว่มี่

“ เจ้าอย่าทําเกินไปนะ เจ้าดูถูกข้าที่ทะเลสาปชิงเยว่ก็ช่างเถอะ แม้แต่กระโปรงที่พี่เสวียนชอบ เจ้ายังจะแย่งไป...... ไม่ผิดที่เจ้าคือลูกสาวจากตำหนักอ๋องคัง แต่ท่านพ่อของพี่เสวียนก็เป็นถึงเฉิงเสี้ยง อย่านึกว่าเจ้ามีคนช่วยก็รังแกผู้อื่นได้! "

คังเสว่มี่มองทุกอย่างอยู่ในสายตา นึกได้ว่าในเมืองหลวง ฐานะของกู้เฉิงเสี้ยงต้องสูงมากแน่ ดังนั้นกู้เมิ่งเสวียนจึงทำให้ผู้อื่นต่างก็รีบมาประจบนาง

ยิ่งเป็นเช่นนี้ นางยิ่งรู้สึกสนุก

นางไม่อยากมองใบหน้าของเหยาเมิ่งฉิง กลอกตา เอ่ยอย่างไม่รู้สึกรู้สาว่า

"สุนัขที่ดีจะไม่ขวางทาง เจ้าหลีกทางด้วย ข้าจะไปเปลี่ยนชุด ”

เหยาเมิ่งฉิงโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ “ เจ้าด่าผู้ใดคือสุนัข? ”

คังเสว่มี่เบะปาก “ ผู้ใดขวางทาง ข้าก็ด่าผู้นั้น? หรือว่าเมื่อครู่นี้เจ้ายังร้องไห้ไม่พอ อยากจะร้องไห้ที่นี่อีกครั้งหรือ? ”

ทั้งสองคนยืนอยู่ที่เดียวกัน

เหยาเมิ่งฉิงกลับรู้สึกว่าสายตาของคังเสว่มี่คือแบบที่ เลียนแบบไม่ได้ สูงส่งและมองนางจากฐานะที่สูง

เกิดความรู้สึกด้อยกว่าขึ้นมา นางหันกลับไปมองกู้เมิ่งเสวียน แล้วพูดอย่างไม่ยอมว่า “ เจ้าไปก็ไป กระโปรงถอดลงมา นั่นเป็นกระโปรงที่พี่เสวียนให้เฒ่าแก่เก็บไว้ให้ตั้งนาน แล้ว! ”

สายตาของกู้เมิ่งเสวียนอยู่บนร่างของคังเสว่ มี่ความคิดผ่านวูบไปในดวงตาลึก

“ เสว่มี่ เจ้าแย่งกระโปรงของคุณหนูกู้ไป เหตุใดเจ้าถึงได้ไร้เหตุผลเช่นนี้! ”

เสียงเข้มงวดดังเข้ามาจากหน้าประตู แสงทองส่องเข้ามาในร้านหวินเสี่ยงเก๋อ คังเสว่มี่ขมวดคิ้วน้อยๆมองไปยังหน้าประตู

เห็นไป๋หลี่รุ่ยมือวางอยู่ด้านหลัง ดวงตามีโทสะจ้องนางนิ่ง น้ำเสียงไม่พอใจ ดึงดูดสายตาของทุกคนไปยังบนร่างนาง

ไป๋หลีุ่รุ่ยท้าทายความอดทนของนาง หากไม่ใช่เพราะชีวิตของนางที่ต้องเป็นสายลับเลยได้ ฝึกฝนความอดทนในใจ

ต่อหน้าเรื่องราวมากมาย ผู้คนต่างๆ นางก็ต้องเจอด้วยใจที่เข้มแข็ง ไม่อย่างนั้นนางอยากจะไปสะบัดตบไป๋หลี่รุ่ยจริงๆ!

นางบอกตัวเองไม่หยุดว่า ต้องใจเย็น ต้องใจเย็นตบหน้าองค์รัชทายาทต่อหน้าคนมากมาย

ต้องเป็นการหาทางตายแท้ๆเลย หากจะตบหน้า นางก็ต้องแอบหาเวลาตบ!

เวลานี้เห็นไป๋หลี่รุ่ย ชวนหลันมองต่อไปไม่ได้อีกต่อไป อะไรก็ไม่พูดก็ต่อว่าคุณหนูของตัวเอง ก็ไม่สนใจฐานะตัวเองอะไร พูดกับไป๋หลี่รุ่ยว่า

“องค์รัชทายาทเพคะ เมื่อครู่นี้รถม้าของท่านตามตลอด เห็นกับตาว่าคุณหนูคังเข้ามาในร้านหวินเสี่ยงเก๋อก่อนและลองกระโปรงก่อนด้วย เป็นคุณหนูคังแย่งกระโปรงของคุณหนูกู้ได้อย่างไรเพคะ! ”

ร้านหวินเสี่ยงเก๋ออยู่ไม่ไกลจากที่พวกเขาจอดรถม้า ไป๋หลี่รุ่ยมีกำลังภายในต้องฟังเรื่องราวในร้านหวินเสี่ยงเก๋อทั้งหมดแล้วแน่

เป็นคังเสว่มี่ชอบกระโปรงนี้ก่อนจริง แต่ผู้ที่แย่งกระโปรงกับคังเสว่มี่คือกู้เมิ่งเสวียน สถานการณ์เลยไม่เหมือนกัน

ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ท่านอ๋องคังบาดเจ็บกลับมา จากสนามรบ แม้จะเป็นท่านอ๋อง แต่ในเมืองหลวงเป็นแค่หน้าที่ที่ไม่ต้องทำอะไร

ไม่เหมือนกู้เฉิงเสี้ยง หน้าที่คืออยู่ในตำแหน่งสูงสุดของเหล่าขุนนางและเป็น ขุนนางชั้นสูงที่มีอำนาจมากกล่าวได้ว่าเขาเป็นหนึ่งใน

ผู้ทรงอำนาจหนึ่งในสองของแคว้นเลยก็ว่าได้

ผู้ใดไม่รู้ว่ากู้เฉิงเสี้ยงรักกู้เมิ่งเสวียนที่สุด ทำให้กู้เมิ่งเสวียนมีความสุขคือทำให้กู้เฉิงเสี้ยงมีความสุข

เมื่อเทียบกันแล้ว ไป๋หลี่รุ่ยต้องเต็มใจอยู่ฝ่ายกู้เมิ่งเสวียน และอีกอย่าง กระโปรงผืนนี้เป็นจี้อี้ที่ชดใช้ให้คังเสว่มี่

หากไม่สามารถชดเชยได้ แล้วยังถูกผู้อื่นแย่งไป ความประทับใจที่คังเสว่มี่ที่มีต่อจี้อี้ก็จะเลวร้ายลงอีกขั้น นี่เป็นผลที่ไป๋หลี่รุ่ยต้องการ

เขาขมวดคิ้วน้อย สายตามองไปยังชวนหลัน เลิกคิ้วสูง เอ่ยเสียงต่ำว่า

“ ข้าได้ยินมาชัดเจนแล้ว กระโปรงผืนนี้ คุณหนูกู้ให้เฒ่าแก่หงเก็บไว้ให้นาง ความจําของเฒ่าแก่ไม่ดีเลยให้เสว่มี่ลองสวม

ตอนนี้คุณหนูกู้ก็มาแล้ว เสวมี่ต้องคืนกระโปรงให้กับเจ้าของอยู่แล้ว อย่าสร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล! ”

กู้เมิ่งเสวียนเห็นองค์รัชทายาท ก็ลุกขึ้นถวายคำนับให้เขาอย่างเงียบๆ รอยยิ้มมีมารยาท

"เมิ่งเสวียนถวายคํานับองค์รัชทายาทเพคะ"

ไป๋หลี่รุ่ยยิ้ม พยักหน้าช้าๆ “ คุณหนูกู้ ลุกขึ้นเถอะ เสว่มี่อายุน้อยไม่รู้อะไร สร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล เจ้ามีความรู้และเข้าใจผู้คน อย่าคิดมากกับนาง ”

กู้เมิ่งเสวียนพยักหน้าน้อยๆ สายตาเหลือบมองผ่านคังเสว่มี่มีความไม่พอใจซ่อนอยู่

"จริงๆแล้ว กระโปรงผืนนี้ไม่ใช่ว่าข้าต้องเอาให้ได้ แต่คุณหนูคังพูดกับน้องฉิงอย่างนั้น ไม่เหมือนคุณหนูเลย "

หลังจากฟังคำพูดของกู้เมิ่งเสวียนแล้ว ไป๋หลี่รุ่ยก็แสดงความชื่นชมออกมาบนใบหน้าของเขา และหันไปมองคังเสว่มี่ดวงตาของเขาก็กลายเป็นความดุดันในทันที

“ เสวมี่ คุณหนูกู้ให้เฒ่าแก่เก็บไว้ให้ ต่อมา เจ้าลองสวมดูแบบนี้ไม่ถูกต้อง ตอนนี้คุณหนูกู้ก็กล่าวแล้วว่าไม่คิดอะไร เจ้ายังไม่รีบถอดกระโปรงออกคืนให้คุณหนูกู้อีกหรือ?"

คังเสว่มี่รู้สึกถึงความหมายนี้ อะไรที่เรียกว่าทนจนทนไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องทน

เขาก็จะทําให้นางได้ เมื่อครู่นี้ตอนที่ไป๋หลี่รุ่ยอยู่ที่ทะเลสาปชิงเยว่ ยังกล่าวกับนางว่าแค่นางกล่าวความต้องการออกมา

ตอนนี้ห่างจากที่พูดประโยคนี้ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ ไป๋หลี่รุ่ยก็ช่วยหญิงสาวอีกคน แย่งกระโปรงที่นางได้มาก่อนไป

ไป๋หลี่รุ่ยกับกู้เมิ่งเสวียนเข้ากันได้ดี แย่งของที่คนอื่นชอบก่อนแท้ๆยังไม่รู้สึกผิดอะไรสักนิด

นางมองไป๋หลี่รุ่ยอย่างดูถูก ยิ้ม เอ่ยเสียงเบาว่า "องค์รัชทายาทเพคะ ก่อนหน้านี้ที่คุณหนูกู้จองกระโปรงผืนนี้ ท่านอยู่ข้างๆและได้เห็นหรือไม่เพคะ? ”สีหน้าของไป๋หลี่รุ่ยแข็งทื่อ เขาไม่ได้เห็น แต่ยังคงกล่าวเสียงเข็งว่า “ คุณหนูกู้คือหญิงที่เก่งที่สุดในแคว้นฉีเทียนของเรา คำพูดที่นางเคยกล่าวต้องไม่โกหกแน่ ”กู้เมิ่งเสวียนยิ้มน้อยๆ สายตามองผ่านคังเสว่มี่ไป สายตามีความเยาะเย้ยซ่อนอยู่คังเสว่มี่ยิ้มเย็น เยาะเย้ยกู้เมิ่งเสวียนกลับไปอย่างไม่เกรงใจว่า “ คุณหนูกู้ ในเมื่อเจ้าไม่เอาก็ได้ เพราะเหตุใดยังต้องพูดไม่หยุด กล่าวตามตรงแล้ว เจ้าเห็นข้าซื้อเลยอยากจะแย่งไปต่างหาก! ”สีหน้าของกู้เมิ่งเสวียนเปลี่ยนไป ไม่เคยมีผู้ใดที่กล้าพูดอย่างนี้กับนางมาก่อน ดวงตาของนางมีความเย็นชาปรากฏออกมา ท่าทางคล้ายกับว่าคังเสว่มี่ไร้เหตุผลและไม่สุภาพ สีหน้ายังคงหยิ่งผยองสูงส่ง เอ่ยว่า"คุณหนูคัง..…………... "“ ไม่ต้องพูดแล้ว! ”“เฒ่าแก่หง เป็นเจ้าที่เปิดร้านเสื้อ เจ้าพูดกับพวกเขาว่าเป็นข้าที่มาซื้อก่อน หรือว่าคุณหนูกู้ชอบก่อน? ”ตั้งแต่ที่ไป๋หลี่รุ่ยเข้ามา สีหน้าก็ซีดไปหมดแล้ว นางเป็นแค่คนๆหนึ่งที่ทำการค้าขาย ต่อหน้าอิทธิพลของราชวงศ์กษัตริย์ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์