เวลานี้ถูกคังเสว่มี่ถามอีกครั้ง เหงื่อบนหน้าผากคล้ายกับ.......
เวลานี้ถูกคังเสว่มี่ถามอีกครั้ง เหงื่อบนหน้าผากคล้ายกับน้ำ ผ้าเช็ดในมือที่เช็ดเหงื่อเปียกไปตั้งนานจนจะบิดน้ำ ออกมาได้ เสื้อบนร่างก็เปียกไปหมด
พูดตามตรง ชุดนี้เป็นคุณหนูคังชอบก่อน แต่คุณหนูกู้ทางนั้นก็ไม่สามารถทำให้ไม่พอใจได้ เมื่อสักครู่นี้องค์รัชทายาทยังช่วยคุณหนูกู้พูด......
นางใช้สมองนึกวิธี เงยหน้าขึ้นมองไป๋หลี่เหลียนที่อยู่ข้างๆ นึกอะไรขึ้นมาได้
หันไปพูดกับพวกเขาว่า “ เรื่องนี้ จัดการยากจริงๆเพคะ วันนั้นคุณหนูกู้บอกให้ข้าเก็บชุดนี้ไว้ เพราะการค้าขายในร้านยุ่งมากเกินไป ข้าเองก็ลืมพูดกับคุณหนูกู้ถึงกฎระเบียบของร้าน"
“และตอนที่คุณหนูคังมา ข้าจำเรื่องในวันนั้นไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับคุณหนูคังเลยเพคะ
ไหนๆวันนี้องค์รัชทายาท องค์ชายหกอยู่ที่นี่ แล้วยังมีจี้ซื่อจื่ออยู่ในรถม้าข้างนอกด้วย
ทั้งสามพระองค์ต่างก็เป็นองค์ชายที่มีความรู้ พวกท่านสามคนมาตัดสินใจว่ากระโปรงชุดนี้ควรให้ คุณหนูผู้ใด การตัดสินใจเช่นนี้ ข้าเชื่อว่าต้องยุติธรรมแน่"
กู้เมิ่งเสวียนได้ยินสีหน้าเรียบๆก็มีความดีใจที่ซ่อนไว้ ปรากฏขึ้นมา
สายตามองออกไปยังที่จอดรถม้าทำจากไม้ประดู่บ้าน นางพยักหน้าโดยที่คนอื่นๆยังไม่พูดอะไร
“ อย่างนี้ก็ดี ในเมื่อเฒ่าแก่หงจัดการได้ไม่ดี เช่นนั้นก็เชิญจี้ซื่อจื่อ องค์รัชทายาท องค์ชายหกมาตัดสินใจด้วยกัน เชื่อว่าทุกคนก็จะรู้สึกว่ายุติธรรมมากกว่า "
ลูกค้าที่ยืนมองอยู่ทั่วบริเวณ เวลาธรรมดาจะได้เห็นคุณชายทั้งสามคนออกมาด้วย กันได้อย่างไร
วันนี้ได้เห็นองค์ชายหกและองค์รัชทายาทก็เป็นเกียรติอย่างมาก ทันทีที่ได้ยินว่าจี้ซื่อจื่อก็จะมา ทุกคนต่างก็ยื่นคอขึ้นมองหา ในดวงตารอคอย
ไป๋หลี่เหลียนเอนตัวไปข้างๆยืนดูเป็นเวลานาน เมื่อเฒ่าแก่หงเอ่ยถึงเขา เขาจึงยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ริมฝีปากยิ้มน้อยๆ แล้วหันหน้าไปเอ่ยกับฉวี่ซาง
ท่านฉวี่ สถานการณ์ที่นี่ท่านก็เห็นแล้ว เพื่อจะไม่ให้เฒ่าแก่หงลำบากใจ ท่านไปเชิญซื่อจื่อของเจ้ามา ให้เขามาดูหน่อยเถอะ บอกว่า คุณหนูกู้ก็อยู่ที่นี่ด้วย
ไป๋หลี่เหลียนเติมประโยคสุดท้ายอย่างตั้งใจ ทำให้กู้เมิ่งเสวียนยิ้มออกมาอย่างมองไม่ออก มือในชายเสื้อกำแน่นอย่างตื่นเต้น
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวงก็ได้เห็นจี้ซื่อจื่อ
นางไม่ได้เห็นเขามาหนึ่งเดือนไม่รู้ว่าเขายังเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่
เหยาเมิ่งฉิงเห็นองค์รัชทายาทก็ดีใจมาก ตอนนี้ได้ยินว่าจะเชิญจี้ซื่อจื่อมาด้วยก็ดีใจจนกำมือแน่น
“ พี่เสวียน พี่ว่าเดี๋ยวจี้ซื่อจื่อก็มาแล้ว คังเสว่มี่ไม่สำคัญอะไร จี้ซื่อจื่อต้องช่วยพี่แน่ ”
คังเสว่มี่เหลือบมองกู้เมิ่งเสวียนที่มีความดีใจน้อยซ่อนไว้ไม่อยู่ หางตาเหลือบมองออกไปข้างนอก
ได้ยินเหยาเมิ่งฉิงพูดในใจก็เข้าใจทันทีเหมือนกระจก
ก็ว่าทันทีที่กู้เมิ่งเสวียนเข้ามาในร้านก็มองชุดบนร่างเธอ แล้วมาแย่งโดยการใช้ปากของเหยาเมิ่งฉิง
ต้องเป็นเหยาเมิ่งฉิงบอกกับกู้เมิ่งเสวียนเรื่องในหลาย วันนี้ที่จี้อี้ดีกับนางแน่
เป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กของจี้อี้ คู่ที่ทุกคนเห็นด้วย ในใจของกู้เมิ่งเสวียนต้องรู้สึกไม่ดีแน่นอน ยืมกระโปรงผืนนี้หาเรื่องนาง
ตอนนี้ได้ยินว่าจี้อี้จะออกมาอยากจะให้คังเสว่มี่รู้ว่านางคือคนที่เหมาะสมกับจี้อี้มากแค่ไหน
มือข้างหนึ่งของคังเสว่มี่วางอยู่บนบาร์ร่างกายเอียงพิงไว้
ใบหน้าเล็กๆอ่อนหวานมองทุกคนอย่างสบายๆ
หากนางไม่อยากเอากระโปรงผืนนี้ให้กู้เมิ่งเสวียน นางมีร้อยวิธีที่จะทำให้กู้เมิ่งเสวียนเอากระโปรงผืนนี้ไปไม่ได้
ดังนั้นนางเองก็ไม่หยุดยั้ง ปล่อยให้ฉวี่ซางไปเชิญจี้อี้ด้วยรอยยิ้มที่หยั่งลึกและ คาดเดาไม่ได้
ฉวี่ซางเดินไปยังที่ที่จอดรถม้า เขายังไม่ได้พูดอะไร จี้อี้ก็เปิดม่านเดินออกมาก่อนแล้ว ฉวี่ซางอ้าปากแล้วปิดปาก
วิชาการต่อสู้ของซื่อจื่อต้องฟังเรื่องราวในร้านหวินเสี่ยงเก๋อหมดแล้วเป็นแน่
ดังนั้นซื่อจื่อลงมาจากรถม้าเพราะคุณหนูกู้อยู่ข้างใน?
หลายปีมานี้ คุณหนูกู้คือหญิงสาวผู้เดียวที่คุยกันได้กับซื่อจื่อ
หน้าตางดงาม ตระกูลก็คู่ควรกับตำหนักจี้ แต่รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ขาดไป เขาเองก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน
“ ยังไม่รีบตามมา?"
น้ำเสียงของจื้อี้ดังมาจากข้างหน้า ฉวี่ซางรู้สึกตัวได้ว่าตัวเองเหม่อไป ก็รีบตามไปเดิน อยู่ข้างหลังของจี้อี้
กู้เมิ่งเสวียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นางไม่ได้เจอเขามาหนึ่งเดือนแล้ว
นางยับยั้งตัวเองจากการมองเข้าไปในกระจกเพื่อที่จะตกแต่งตัวเอง และทำให้นางดูเย็นชาและมีอารมณ์เย่อหยิ่งต่อหน้า ผู้คนแม้นิ้วมือของนางก็ยังจะสั่นเล็กน้อย
แสงอาทิตย์สีทองส่องลงมา คล้ายลําแสงที่ส่องลงมาตรงหน้า
จี้อี้ยิ้มบางๆอย่างเช่นทุกครั้ง เดินมาอย่างช้าๆสง่า ชายเสื้อกว้างส่ายไปมาเล็กน้อยตามลม คล้ายดั่งเทพเซียนจุติลงมาที่โลกมนุษย์ งดงามและเงียบสงบ
ทุกคนหันศีรษะ และสายตาไปตามการกระทำของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ อยากจะบอกว่าเขาดีงามไปหมดบอกออกมาทางสายตาไม่ละไปไหน
คังเสว่มี่ถอนหายใจ มองความตกตะลึงของทุกคนอยู่ในสายตา
จี้อี้ผู้นี้ เดินไปที่ไหนที่นั่นก็กลายเป็นภาพสวยงาม คล้ายกับว่าสีสันมากมายรวมอยู่บนร่างของเขาหมด
ทุกการกระทำ ทุกๆ มุมมองเมื่อมองไป เป็นเส้นที่ละเอียดอ่อนแบบสามร้อยหกสิบองศาโดยไม่มีจุดสิ้นสุด
อยู่ต่อหน้าเขา ไม่มีผู้ใดกล้าบอกว่าตัวเองเป็นหญิงสาวที่สวยงามที่สุด
หลังจากที่เขาเดินเข้ามาในร้านหวินเสี่ยนเก๋อ สายตามองไปรอบๆคล้ายมีดวงจันทร์อยู่ในดวงตาของเขา เงยหน้าขึ้นมามองไปยังทุกคนอย่างช้าๆ สุดท้ายแล้วสายตาหยุดอยู่บนใบหน้าของไป๋หลี่รุ่ยและ ไป๋หลี่เหลียน เสียงไพเราะคล้ายเสียงดนตรีก็ดังขึ้น
“พวกเจ้าเรียกกันออกมาหมดหรือยัง? "
ใบหน้าของเขาสง่างาม แต่ท่าทางของเขานั้นสูงส่งและมีความห่างเหินน้อยๆถ้าผู้อื่นทำสิ่งนี้มันจะทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญ แต่เขาทำออกมามันจะทำให้ความรู้สึกเอื้อมไม่ถึงแต่ที่คังเสว่มี่ถอนหายใจก็คือ เมื่อครู่นี้จี้อี้ไม่ได้อยู่ในร้านแต่นั่งอยู่ในรถม้าแท้ๆเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในร้านโดยไม่มีผู้ใดบอกกับเขา วิทยายุทธเช่นนี้น่าจะเรียกว่าฟังเสียงรู้ตำแหน่งต่อไปหากมีคนซ่อนอยู่รอบด้านแอบทำอะไรบางอย่าง หากนางฝึกได้ นางก็จะรู้ได้ทันทีกู้เมิ่งเสวียนมองจี้อี้ ความหยิ่งผยองในดวงตาก็หายไปมีแต่ความดีใจที่หญิงสาวเห็นคนในดวงใจ มือกำกันแน่นมีความกังวลน้อยๆ เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวเสียงอ่อนโยน"จี้ซื่อจื่อ ไม่ได้เจอกันนานเลยเพคะ ”จี้อี้พยักหน้าพร้อมยิ้มน้อยๆ “ คุณหนูกู้พักผ่อนอยู่ที่นอกชานเมือง สีหน้าดูแล้วดีกว่าเมื่อก่อนมากนัก"กู้เมิ่งเสวียนยืนห่างออกจากเขาสามศอก ได้ยินเขาบอกว่าสีหน้าตัวเองดีกลับรู้สึกว่าหัวใจทั้งดวง สั่นขึ้นมานางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองจี้อี้ตรงๆ เพียงแค่พยักหน้าน้อยๆที่นางพยายามแสดงออกมาให้เห็นว่านางนั้นไม่ได้ดีใจขนาดนั้นที่ได้เจอเขาแล้วเอ่ยว่า“ อากาศนอกชานเมืองเย็นสบาย ทันทีที่กลับเข้ามาในเมืองหลวง เดิมทีนึกว่าพรุ่งนี้ค่อยไปตำหนักจี้ไปเยี่ยมท่านอ๋องจี้ นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอกันที่นี่ ”
copy right hot novel pub