คังเสว่มี่อยากได้ผ้าซาตินที่ผู้คนเล่าลือกันมานั่นคือเรื่องจริง แต่นางนางก็ไม่อยากทำตามความต้องการของเขา! ยิ่งเห็นท่าทางแบบนั้นของจี้อี้
หันกลับไปเอ่ยกับเฒ่าแก่หงที่กำลังโล่งอกอยู่ว่า
“ เฒ่าแก่หง เจ้ารู้ว่าจะวัดสัดส่วนเช่นไรหรือไม่? ”
“ แน่นอน ไม่รู้ว่าวัดสัดส่วนอย่างไรจะเปิดร้านเสื้อผ้าได้อย่างไร ล่ะเพคะ! ” แก้ปัญหาเรื่องกระโปรงแล้ว เฒ่าแก่หงก็สบายใจมาก เหงื่อบนหน้าผากก็ลดลงไปมาก
"ตัดชุดต้องวัดสัดส่วนเช่นนั้นก็รบกวนเจ้าช่วยวัดให้ข้าก็แล้วกัน"
คังเสวี่มองจี้อี้
“ อย่างนี้แล้วข้าก็ไม่ต้องไปตำหนักจี้ โล่สุ่ยก็สามารถทำกระโปรงผืนหนึ่งให้ข้าได้จาก สัดส่วนที่วัดนะ
เจ้าอย่าบอกว่า แค่นี้นางก็ทำไม่ได้ ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด"
ขนตายาวของจื้อี้ปกปิดสายตาของเขาไว้ ผ่านไปชั่วขณะก็เงยหน้าขึ้น เอ่ยเสียงเบาว่า
“ อืม ก็ดีคนอย่างเจ้าที่ชอบสร้างปัญหาไปตำหนักจี้ ต้องก่อปัญหาอะไรอีกแน่
เช่นนั้นก็ให้เฒ่าแก่หงวัดสัดส่วนเจ้า ให้โล่สุ่ยก็ได้"
คังเสว่มี่กางแขนออก ปล่อยให้เฒ่าแก่หงวัดสัดส่วนบนไหล่ของนาง ปากยังคงเอ่ยอย่างไม่พอใจ
“ เรื่องพวกนี้เจ้าเป็นผู้สร้างปัญหาขึ้นมาแท้ๆ เพราะเหตุใดเจ้าถึงพาข้ามาที่ร้านหวินเสี่ยงเก๋อ ให้โล่สุ่ยทำให้ข้าตั้งแต่แรกก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว! "
"หากไม่ใช่เพราะกระโปรงผืนนั้นเจ้าสวมแล้วไม่เหมาะ ข้าก็ไม่อยากจะลำบากโล่สุ่ยชดใช้ให้เจ้าทั้งอย่างนี้ ข้าเสียดายมากจริงๆ"
จี้อี้เอ่ยแล้วส่ายศีรษะอย่างน่าเสียดาย ปีหนึ่งผ้าซาตินก็ออกมาน้อยมาก
มีอะไรไม่เหมาะสมอีก! ชุดนั่นก็ให้เพื่อนที่โตขึ้นมาด้วยกันของเขาแท้ๆ คังเสว่มี่มองจี้อี้อย่างมองไม่ขึ้น
ผู้ชายต้องกล้าเผชิญกับความรู้สึกของตัวเอง ทำให้เรื่องวุ่นวายเช่นนี้ทำไม
เวลานี้ จู่ๆนางก็นึกขึ้นมาได้ คุณหนูกู่ เพื่อนที่โตมาด้วยกัน เหมือนกับว่ายังไม่ได้กลับไป!
ถูกลืมไปนาน ไม่ถูก น่าจะบอกว่าทําให้ตกใจหนักมาก
กู้เมิ่งเสวียนที่ยังไม่รู้สึกตัว เวลานี้ก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา มองจี้อี้ที่ยืนอยู่หน้าร้าน
คังเสว่มี่มองใบหน้าที่ทรุดโทรมของนาง และสายตาที่มองจี้อี้อย่างลึกซึ้ง น่าจะเอ่ยคำขอบคุณกับจี้อี้มั้ง
นางไม่อยู่เป็นก้วางขวางปลาหรอก!
แม้จะไม่ชอบกู้เมิ่งเสวียนนางนี้ แต่นางก็ไม่สามารถหยุดยั้งเพื่อนที่โตมาด้วยกันพูดคุย กันหรอกนะ!
“ เฒ่าแก่หง วัดเสร็จหรือยัง? "
" วัดเสร็จแล้วเจ้าค่ะ นี่คือสัดส่วนของคุณหนูใหญ่คัง ท่านเก็บไว้ดีๆเพคะ ”
เฒ่าแก่หงยื่นกระดาษออกไปอย่างรวดเร็ว บนนั้นมีบอกสัดส่วนแขน เอว ความกว้างของไหล่และที่อื่นๆของคังเสว่มี่
เมื่อคังเสว่มี่ รับกระดาษแผ่นนั้นมา กู้เมิ่งเสวียนก็เดินเข้ามา คังเสว่มี่มองแล้วละสายตาจากมา หันไปเอ่ยกับจี้อี้ว่า
‘ข้าไปรอเจ้าที่รถม้านะ เจ้ากับคุณหนูกู้คุยกันก็อย่านานล่ะ ข้าหิวแล้ว! "
จากนั้นก็วิ่งไปยังรถม้า ยืนนานขนาดนั้น เหนื่อยจริงๆ รถม้าของเจ้าอุบายจี้เป็นที่พักผ่อนที่ดี
ฉวี่ซางมองคังเสว่มี่ ที่ไม่คิดมากอะไรก็วิ่งไปยังรถม้าแล้ว เขามองซื่อจื่อของตัวเองก็ไม่ได้เอ่ยปากหยุดยั้ง
แอบพูดว่า ต่อไปรถม้านี้คุณหนูคังสามารถนั่งได้ตามใจแล้วกระมัง
สายตาของจี้อี้ มองตามร่างเล็กของคังเสว่มี่
แต่ร่างเล็กหยุดอยู่ข้างรถม้าไม่ได้กระโดดขึ้นไป นางยังหันมองมาทางนี้
คล้ายกับว่ากำลังรอเขาอยู่ เร่งให้เขาขึ้นรถม้าอย่างไรอย่างนั้น
เขาหลุบตาลงต่ำน้อยๆ ใต้แสงอาทิตย์ ดวงตาเรียวมีรอยยิ้มอ่อนๆ มีอาทิตย์ส่องกระทบวูบวาบอยู่ในดวงตา
กู้เมิ่งเสวียนมองคังเสว่มี่ที่วิ่งออกไป ท่าทางเช่นนั้นไม่เหมือนคุณหนูสักนิด แอบขมวดคิ้วมุ่น
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองจี้อี้ ก็มองเห็นเขากำลังมองคังเสว่มี่อยู่ บนใบหน้าของเขายังยกยิ้มน้อยๆ
“ จี้ซื่อจื่อ "
จี้อี้ได้ยินเสียงของนางก็หันกลับมา เก็บรอยยิ้มนั้นซ่อนไว้ใต้ดวงตา หันมาขานรับกู้เมิ่งเสวียน
"หืม"
ท่าทางของเขาเหมือนกับเมื่อก่อน เฉยๆ มีมารยาทและสูงส่งมีความห่างเหิน
คำพูดที่กู้เมิ่งเสวียนจะพูดก็ติดอยู่ในลำคอ ไม่รู้ว่าจะออกมาเช่นไร
เห็นจี้อี้ยืนอยู่ที่นั่น สายตามองไปยังรถม้านางก็รีบหาเรื่องคุยว่า
“ ก่อนหน้านี้ที่ซื่อจื่อให้ข้ายืม (ตำราโล่วเก้อ) ข้าทำให้ยับโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรหรือไม่เพคะ? ”
สายตาของจื้อี้มองไปยังรถม้า เห็นคังเสว่มี่ขยับไปขยับมา คล้ายกับรอไม่ไหว
เขาเงยหน้าขึ้นมองแสงอาทิตย์ที่แสบตาก็ขมวดคิ้วน้อยๆ จนเกือบมองไม่เห็น หันมาเอ่ยกับกู้เมิ่งเสวียนว่า
“ ไม่เป็นไร หนังสือเล่มนั้น เจ้าชอบก็มอบให้เจ้าก็แล้วกัน ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำในตำหนัก ข้ากลับไปก่อนแล้ว"
จี้อี้ยิ้มไม่สามารถซ่อนเสน่ห์นั้นได้
ตรงหน้าของกู้เมิ่งเสวียนสดใส เมื่อรู้สึกตัว ร่างสูงสง่าเดินไปยังหน้ารถม้าอย่างช้าๆแล้ว
เขาก้มหน้าลงน้อยๆพูดอะไรบางอย่างกับคังเสว่มี่
คังเสว่มี่ก็ตอบกลับไม่กี่คำจากนั้นก็กระโดดขึ้นรถม้าของเขาไป
หลายปีมานี้ นางรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่สามารถเข้าใกล้คนอื่นได้ แต่นางเท่านั้นที่สนิทกับเขามากที่สุด
วันนี้ได้เห็นกับตาว่ามีคนเข้าใกล้เขามากกว่านางอีก
ในดวงตามีความเจ็บผ่านวูบไป กู้เมิ่งเสวียนกำมือแน่น
"พี่เสวียน พี่ดูสิ ข้าพูดไม่ผิดเลย จี้ซื่อจื่อดีกับคังเสว่มี่อย่างที่ไม่เหมือนผู้ใด
แล้วยังให้นางนั่งรถม้าของเขาได้ ข้าจําได้ว่าพี่เสวียนยังไม่เคยนั่งด้วยซ้ำ! "
เหยาเมิ่งฉิงดึงกระโปรงไว้ สายตาริษยาและมองไปยังที่ไกลอย่างอิจฉา“ข้าว่า พี่ควรจะไปบอกคังเสว่มี่คนนั้นว่า พี่ต่างหากที่เหมาะกับจี้ซื่อจื่อมากที่สุด นางนึกว่าตัวเองคือใครกัน! ”“ พอได้แล้ว! ” กู่เมิ่งเสวียนขมวดคิ้วแล้วขัดจังหวะนาง การพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับผู้คนต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก จะทำให้ภาพลักษณ์ของนางเสียหายเหยาเมิ่งเสวียนเห็นสีหน้าไม่ดีของกู้เมิ่งเสวียนก็ฮึดฮัด สองเสียง ทั้งสองคนเดินไปยังรถม้าด้วยกันหลังจากที่ขึ้นรถม้าแล้ว กู้เมิ่งเสวียนก็มองหนังสือมากมายบนโต๊ะ นิ้วเรียวลูบผ่านหนังสือหยาบๆนั้น คล้ายกับกำลังรู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของจี้ซื่อจื่อเหยาเมิ่งฉิงมองนาง แล้วเบะปาก ก้มหน้ามองเสื้อผ้าในอก เอ่ยเสียงเบาอย่างประจบว่า“ พี่เสวียน พี่อย่าโมโหเลยนะ กระโปรงผืนนี้พี่ชอบมากไม่ใช่หรือ? จี้ซื่อจื่อยังบอกว่าพี่เหมาะกับกระโปรงผืนนี้ หากพี่สวมแล้วยืนอยู่ตรงหน้าเขา ความงดงามของพี่ต้องทำให้เขาละสายตาไปไม่ได้แน่ ""หุบปากของเจ้าซะ! ” ดวงตามีโทสะ กู้เมิ่งเสวียนหยิบหนังสือขึ้นมาฟาดลงบนใบหน้าของเหยาเมิ่งฉิง!เหยาเพิ่งฉิงครางออกมาด้วยความเจ็บ นางทนไว้ ในดวงตามีน้ำตาคลอมองกู้เมิ่งเสวียนที่สีหน้าเคร่มขรึมนางไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป กระโปรงผืนนี้ดีมากเลยนี่!สายตาของกู้เมิ่งเสวียนหยุดอยู่บนกระโปรงผืนนั้น ม่านตาหดเล็ก กระชากกระโปรงมาไว้ในมืออย่างรุนแรง
copy right hot novel pub