หญิงสาวรูปร่างอุดมสมบูรณ์แต่งตัวดูมีฐานะกำลังยืน อยู่ตรงข้ามได้ยินเด็กสาวพูดดังนั้นก็ยกคิ้วสูงและพูด ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า
“แม่สาวน้อย เจ้านี่ก็ยังดูอายุน้อยแต่งตัวก็พอใช้ได้หน้าตาก็สวยสดงดงาม
แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนที่เห็นแก่เงินแบบนี้! ข้าเดินเล่นอยู่ที่นี่ก็ทำท่าทางหาเรื่องมาคุยกับข้าเพราะ เห็นข้าสวมสร้อยหยกนี่ก็ถามนั่นถามนี่ไม่หยุด
ข้าก็นึกว่าเจ้าแค่สนใจ
ใครจะไปรู้ละว่าพอเจ้าถามเสร็จถึงได้มาแว้งกัดกัน แบบนี้มาบอกว่าหยกนี่เป็นของเจ้า! อายุยังน้อยแต่กลับทำเรื่องหน้าไม่อายแบบนี้มีแต่จะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะ!”
เด็กสาวได้ยินดังนั้นก็โกรธจนตาแดงไปหมดพลางเดิน ไปหวังว่าจะแย่งของในมือของหญิงคนนั้น “นี่เป็นหยกที่แม่ข้าทิ้งไว้ให้ ถ้าใครไม่เชื่อก็มาเอาไปดูได้หยกนี่ทำมาจากแก้วทรงกลมภายในมีกลีบดอกโบตั๋นสองกลีบบ้านอยู่ตรงกลาง ร้อยด้วยด้ายสีแดง ปกติแล้วข้าจะสวมไว้ที่คอของข้า....”
คนรอบข้างได้ยินคำพูดของนางก็รีบกันเข้าไปมุงดูแต่ หญิงคนนั้นกลับเปิดหยกออก
“ทุกท่านคำพูดของนางที่ได้พูดกับข้าเมื่อสักครู่นี้ก็ถาม กันอย่างชัดเจนแล้ว
ว่านี่คือหยกของบรรพบุรุษสืบทอดของตระกูลข้าข้าใส่แล้ว
ติดตัวทุกวัน หยกนี่มีรอยแตกอยู่เล็กน้อย เพราะเมื่อเดือนที่แล้วข้าถือของไม่ระวังถึงได้ทำมันตก อายุยังน้อยแต่ก็เสแสร้งจอมปลอมได้ขนาดนี้ยกเรื่อง มารดามาหลอกคนอื่น ให้คนอื่นมาตัดสิน
เห็นข้าแต่งตัวแบบนี้จะไปหลอกเอาหยกของเจ้าทำไมกัน?”
ฝูงชนเห็นว่านางนั้นสวมชุดสีทองอร่ามดูยังไงก็ไม่ เหมือนกับคนที่จะมาหลอกเอาหยกไป
ผิดกับเด็กสาวคนนั้นที่แต่งตัวธรรมดาไม่เหมือนกับคน ที่ใช้หยกแก้วใสนั่นเลยสักนิด
เมื่อเห็นว่าผู้คนไม่เชื่อคำพูดของตนเด็กสาวก็โกรธจน ตาแดงราวกับกระต่ายพลางเดินไปจับมือของหญิงสาว คนนั้นแน่น
“ชัดเจนเลยว่าเจ้าจะลอกคำพูดของข้าไปเรื่องรอยร้าว ข้าเป็นคนบอกเจ้าเอง เจ้าเอาหยกคืนข้ามานะเอาคืนมาเดี๋ยวนี้!”
หญิงสาวตะโกนร้องออกมาเสียงดังพลางบีบเข้าที่มือ ของเด็กสาวอย่างแรง
“กล้าที่จะปล้นกันกลางถนนแบบนี้ สังคมแบบนี้ไม่มีกฎหมายบ้านเมืองกันหรือยังไง รีบไปบอกตำหนักซุนเทียน(สถานที่ที่เหมือนสถานีตำรวจ)ให้ส่งคนมาจับนางชั้นต่ำนี่ไปโดยไว!”
คังเสว่มี่ดูอยู่สักพักก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ พลางมองไปที่คนที่ยืนล้อมต่างก็ชี้ไปที่เด็กสาวคนนั้น อย่างหยาบคายเตรียมที่จะเรียกหน่วยลาดตระเวนมาจับเด็กสาวไป นางเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปอย่างเร่งรีบ
“ข้ารู้ว่าใครเป็นเจ้าของหยก!”
ฝูงชนหันกลับไปมองนางกันเป็นตาเดียวก็เห็นเพียงเด็ก สาวแต่งกายทั่วไปเดินเข้ามาใบหน้าเรียบเนียนงดงาม
รอยยิ้มของนางบานสะพรั่งราวกับดอกซากุระ ดูสุภาพเรียบร้อย มีเอกลักษณ์พิเศษที่น่าจดจําจนยากจะลืมทําให้คนที่มองเห็นรู้สึกเหมือนกับสนิทสนมกันมานาน มีคนที่เคยเห็นคังเสว่มี่ที่ร้านหวินเสี่ยงเก๋อมาก่อนก็จำ เด็กสาวที่บอบบางนิ่มนวลขึ้นมาอย่างไวพลางพูดออก ไปว่า
“นี่ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของตำหนักอ๋องคังหรือ?”
ฝูงชนตะโกนขึ้นมาแซงแซ่ ทำไมคุณหนูใหญ่ของตำหนักอ๋องคังนั้นไม่เหมือนกับ คุณหนูตำหนักอื่นกันนะทำให้คนชอบได้โดยไม่ต้องทำอะไร
คังเสว่มี่ยิ้มให้ฝูงชนรอยยิ้มของนางทำให้รู้สึกถึงความสบายใจและอบอุ่น เพราะความรักใคร่กลมเกลียวของครอบครัว บิดามารดารักกันมากพี่ชายก็พร้อมที่จะปกป้องนิสัยของนางถึงได้ร่าเริงมีชีวิตชีวาเช่นนี้
แถมเสื้อผ้าที่นางสวมใส่ก็ทำให้นางเหมือนกับเด็กสาวอายุสิบสี่นิสัยร่าเริงมีชีวิตชีวาที่เป็นเอกลักษณ์ของนางนั้นก็เหมาะสมกับวัย เพียงแต่เวลาทำงานจำต้องเปลี่ยนตัวตนให้เป็นอีกคนหนึ่งเพราะนางนั้นไม่ชอบที่จะต้องทำตัวสูงส่งและเย็นชา
ทำแบบนี้มันง่ายที่จะได้รับความรู้สึกดีๆ การรู้ว่านางนั้นเป็นคุณหนูของตำหนักอ๋องคังก็ยิ่งจะได้รับ ความเชื่อถือโดยธรรมชาติ หญิงสาวคนนั้นเมื่อได้ยินว่ามีคนกำลังเดินมาดวงตา ของนางก็ตึงขึ้นทันทีแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงแค่เด็กสาว นางก็ยิ้มออกมา
“ตายล่ะ ที่แท้ก็คุณหนูใหญ่นี่เอง มาๆ ท่านรีบช่วยข้าจับเด็กชั้นต่ำคนนี้ที นางขู่จะเอาหยกของข้าไปตอนกลางวันแสกๆ"
คังเสว่มี่พยักหน้าพลางพูดกับหญิงสาวคนนั้นว่า “เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าพวกเจ้าทั้งคู่กำลังแย่งชิงหยกกันอยู่ ไม่ทราบว่าฮูหยินจะให้ข้าดูหยกของท่านสักหน่อยได้หรือไม่?”
หญิงสาวคนนั้นเห็นว่านางกำลังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ ต่อหน้าคนหมู่มากเช่นนี้คุณหนูใหญ่แห่งวังหลวงคงไม่ เอาหยกของนางไปจึงส่งหยกชิ้นนั้นให้แก่นาง ไม่มีท่าทีให้ร้ายแต่อย่างใด
“คุณหนูใหญ่คังท่านต้องช่วยรักษาความยุติธรรมให้แก่ข้าด้วย!”
คังเสว่มี่ รับหยกชิ้นนั้นมาพิจารณาดู หยกชิ้นนี้มีขนาดประมาณฝ่ามือเด็กทารก ใสราวกับแก้วข้างบนมีกลีบดอกโบตั๋นอยู่สองกลีบ มีกลีบหนึ่งมีรอยแตกเล็กน้อย ถึงจะเป็นเช่นนี้แต่ใครที่ได้หยกไปก็น่าจะขายได้สักสองสามหมื่นไม่แปลกที่จะมีคนหลอกเอาหยกนี่ไป
นางทำท่าที่ดูอย่างไม่สนใจเท่าไรนักจากนั้นก็ชั่งน้ำหนักหยกด้วยมือพลางถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามว่า
“สายตาพวกเจ้านี่ยังไงกันถึงเรียกหยกชิ้นนี้ว่าเป็นของดี? นี่ดูแค่แวบเดียวก็รู้แล้วของเป็นของปลอม!"
“เป็นไปไม่ได้!”
“ท่านอย่ามาหลอก!”
หญิงสาวและเด็กสาวต่างก็พูดออกมาคังเสว่มี่กลอกตาไปมา
“ข้าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตำหนักอ๋องคัง ข้าโตมาพร้อมกับเงินทองเพชรจินดามณีทั้งหลายแหล่ แค่หยกแก้วแบบนี้จะดูไม่ออกได้อย่างไรกัน?”
ผู้คนก็มีทั้งคนเชื่อและคนที่สงสัยพวกเขานั้นไม่ได้พบ เจอเครื่องหยกบ่อยนักเลยดูไม่ออกว่าอันไหนของจริง อันไหนของปลอม
หญิงสาวคนนั้นกวาดสายตามองก็มีท่าทีไม่เชื่อพลาง ถามอย่างสงสัยว่า
“นี่ไม่มีทางเป็นของปลอม ก็เห็นอยู่ว่ามันเป็นหยกเนื้อดีที่หาได้ยาก!"
คังเสว่มี่จ้องนางเขม็งและยิ้มเย็นในใจ นางกลอกดวงตาอันฉลาดเฉลียวไปมาพลางโยนหยกที่ อยู่มือไปทางแม่น้ำข้างๆจนหายวับไปกับตา “พวกเจ้าคิดนานเกินไปมันช่างเสียเวลาจริงๆ! แย่งอะไรกันนักหนาของมันไม่มีแล้วก็หมดเรื่องแล้วละกันนะ! ยังจะมาขวางทางเดินกันอีก!"ผู้คนต่างตะลึงอ้าปากค้างเห็นเพียงแค่หญิงสาวยกมือ ขว้างหยกในมือทิ้งไปในแม่น้ำหยางโปข้างถนนใหญ่ หญิงสาวเห็นว่าหยกนั้นโดนทิ้งลงไปในแม่น้ำก็ตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด “หยกของข้า หยกของข้า!”ในส่วนเด็กสาวเมื่อเห็นเช่นนั้นก็หน้าขาวซีดพูดอะไรไม่ออกทำได้แค่วิ่งไปทางแม่น้ำและทำท่าเหมือนจะกระโดดลงไปแต่ด้วยความเร็วของคังเสว่มี่ตอนที่กำลังจะโยนหยกทิ้ง ไปนั้นนางก็ได้สำรวจท่าทางของทั้งสองคน เมื่อเห็นเด็กสาววิ่งไปทางแม่น้ำก็ดึงรั้งนางไว้พลางพูดว่า “ก็แค่ของปลอมเจ้าจะไปงมมันขึ้นมาทำไม?”เด็กสาวสะบัดแขนของนางออก ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยน้ำตาขอร้องอ้อนวอน “นั่นเป็นหยกของแม่ข้าถึงแม้จะของปลอมแต่มันก็เป็นของที่แม่ข้าเหลือไว้ให้ข้า! ท่านปล่อยข้าเถอะให้ข้าได้ไปงมมันขึ้นมา!" คังเสว่มี่ตัดสินใจแบฝ่ามือออกหยกชิ้นนั้นนอนนิ่งอยู่ในฝ่ามือขาวซีด“ไม่ต้องโดดแล้วเมื่อกี้ที่ข้าขว้างไปนะก็แค่ก้อนหินเท่านั้นหยกนะอยู่นี่!"เด็กสาวตะลึงเมื่อเห็นหยกจากนั้นก็หยุดร้องไห้และยิ้ม ออกมาและรับหยกชิ้นนั้นกลับคืนไป...
copy right hot novel pub