โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 93 เป็นอาจารย์ให้นาง

ในตอนที่ทำการฝึกฝนวิชาตัวเบาในหลายวันมานี้มันก็ ค่อยๆดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่วันนี้กลับกลัวหัวหดขึ้นมาซะงั้น เมื่อมาเปรียบเทียบกัน สิ่งที่แตกต่างกันเพียงอย่างเดียวในค่ำคืนนี้ก็คือ นางใช้กำลังภายในวิ่งออกมาไกลเสียทีเดียว

หรือว่าเป็นเพราะเหตุผลนี้?

ดูเหมือนการเรียนของตัวเองยังไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ต้องหาอาจารย์ที่พึ่งพิงได้

ดวงตาของนางกลอกตาไปมา คิดว่าต้องไปหาผู้ที่สอนศิลปะการต่อสู้ของตัวเองได้ที่ ไหน

นางเบนสายตามาตกอยู่ที่ตัวของบุรุษที่อยู่ตรงหน้า และหยุดคิดไปสักพัก

นี่ก็มีคนที่สมบูรณ์แบบอยู่ตรงนี้แล้วไม่ใช่หรือ?

องค์ชายหกที่อยู่ตรงหน้าของนาง เขาเป็นหนึ่งในโอรสของจักรพรรดิที่สาม ศิลปะการต่อสู้ก็จะไปไหนเสีย

นางเม้มริมฝีปากสีชมพู ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมา ดวงตาคู่นั้นมองไปทางใบหน้ารูปงามดุจดอกบัวสีขาว ขององค์ชายหกด้วยสายตาเปล่งประกาย ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ในเมื่อเจ้าขอโทษข้าแล้ว ข้าก็ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยเช่นนั้น เพียงแค่เจ้าตอบรับเรื่องหนึ่งของข้า ข้าจะลืมสถานะที่เจ้าปกปิดเอาไว้ และเรื่องที่รังแกความบริสุทธิ์ของข้าด้วย”

เมื่อได้ยิน ป้ายหลี่เหลียนก็หลุดขำออกมา

คราเมื่อเห็นดวงตาและคิ้วที่แผ่ขยายออกแฝงไปด้วยความ เฉลี่ยวฉลาดแต่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเล็กๆของนาง

ใบหน้าดุจดอกบัวก็ได้แสดงความเชื่อมั่นและสุกสกาวออกมา รู้สึกได้ถึงความน่ารักมากทีเดียว

เขาเคยเห็นแม่นางที่สวยงามเช่นนี้มาหลายคน แต่ไม่เคยเห็นคนที่เหมือนกับนางเช่นนี้มาก่อน

ทุกอากัปกิริยา ท่าทางเลอะเลือนก็ดี ท่าทางอึ้งงันก็ดี ท่าทางดุร้ายก็ดี ท่าทางหัวเราะก็ดี

ล้วนแล้วแต่เป็นความรู้สึกที่แผ่กระจายออกมาจาก จิตใจภายในทั้งนั้น ไม่ใช่เพื่อประจบเอาใจใคร และก็ไม่ได้เพื่อปิดบังอะไรด้วย

เพียงเพราะนางคิด

รู้ว่านางไม่ได้เป็นแม่นางโง่เขลาที่เอาแต่โวยวายโดยไม่ สนใจแยแสอะไรเท่านั้น

นางฉลาดไร้คู่แข่ง สามารถแข่งขันหมากรุกกับเขาได้ ทุกย่างก้าวที่ตื่นตัว ล้วนแล้วแต่เป็นการไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งทั้งนั้น

หลังจากที่บุกทะลวงกระดานหมากรุกมังกรแล้ว ก็ไม่มีท่าทางภาคภูมิใจสักนิดแต่อย่างใด

เพราะนางสนใจแค่เป้าหมายของนาง ให้คังวี่จิ่นไม่สามารถเข้ามาในร้านอาหารจุ้ยเซียนได้อีก

หลังจากที่เข้ามาในห้อง นางก็ดูเหมือนจะไม่ได้ป้องกันแต่อย่างใด จริงๆแล้วฝ่ามือนั้นถือดาบปลายแหลมด้ามหนึ่งมาโดยตลอด

ใบหน้าที่ไร้เดียงสาแสนโง่เขลา สร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น กลับไม่ได้ส่อถึงการคิดทำร้ายคนอื่นเพื่อความ ปลอดภัยของตัวเอง

นางเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์ได้ดี ไม่บ้าคลั่งอย่างไร้เหตุผล

นางมีความว่องไวปราดเปรียวและไร้เดียงสาอย่างมาก เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแม่นางที่ร่ำรวยเงินทองที่เคย

พบเห็นเมื่อครั้งอดีตอย่างแม่นางในร้านอาหารจุ้ยเซียน เหล่านั้น นางช่างสดใสและมีชีวิตชีวา และมีความงามที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่า

ราวกับแม่น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา ที่สะอาดบริสุทธิ์ ไหลรินเข้าไปในจิตใจอย่างช้าๆ

นางไม่รู้ว่านางต้องการจะทำอะไรเพื่อรับคำขอโทษ จากเขา?

ดวงตาดุจลูกท้อคู่นั้นของป่ายหลี่เหลี่ยนแฝงไปด้วย ความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆว่า

“ได้ เพื่อให้เจ้าให้อภัยข้า งั้นข้าก็ตอบตกลงเรื่องนี้”

“องค์ชายหกเป็นคนที่สบายๆง่ายๆดั่งข่าวลือจริงๆ มีชื่อเสียงสมดั่งคำร่ำลือจริงๆ ! "

ป่ายหลี่เหลี่ยนตอบรับตรงๆโดยที่ไม่ถามว่าเป็นเรื่อง อะไรเลยด้วยซ้ำ นิสัยตรงไปตรงมาและชัดเจนเช่นนี้ เป็นนิสัยที่คังเสว่มี่ชอบ นัยน์ตาส่วนล็กแฝงไปด้วยคําชื่นชม

นางไม่ได้ดัดจริต จากนั้นก็หันไปพูดกับป่ายหลี่เหลี่ยนว่า: “ข้าชื่อว่าคังเสว่มี่ เชิญองค์ชายหก ไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่อยากจะเชิญท่านมาช่วยสอนวิชาการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวให้แก่ ข้าสักหน่อย”

ในตอนที่คังเสว่มีแนะนำตัวเองอยู่นั้น นางก็ค้นพบว่าป่ายหลี่เหลี่ยนไม่ได้แสดงออกถึงความ คาดไม่ถึงแต่อย่างใด องค์ชายหกผู้นี้ เมื่อครั้งที่เจอกับนางเมื่อครั้งที่แล้ว ก็เดาได้เลยว่านางคือใคร

ถึงอย่างไรคนแปลกหน้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องของคังวี่จิ่นอยู่แล้ว เพียงแต่ชื่อเสียงของตัวเอง นางยังได้ยินข่าวลือมา

ในตอนที่ป่ายหลี่เหลียนเจอกับนาง นอกจากความประหลาดใจแล้ว ก็ไม่มีการดูถูก เมินเฉย เอือมระอาเรื่องนี้ พิสูจน์ได้ว่าองค์ชายหกผู้นี้ก็ไม่เลวเลยทีเดียว

“วิชาการต่อสู้?” ดูเหมือนว่าป่ายหลี่เหลี่ยนจะคิดไม่ถึงว่านางจะมาขอร้องในเรื่องนี้ ในขณะที่เขามองไปทางคังเสว่มี่

คังเสว่มี่ก็พยักหน้าอย่างมั่นใจแล้ว ดวงตาดุจลูกท้อก็หรี่ลง แล้วพูดด้วยความทอดถอนใจว่า

“ข้าตอบรับเงื่อนไขนี้ของเจ้า เจ้าเพียงสอนศิลปะการต่อสู้ให้แก่ข้า ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นใด คงจะไม่เกินไปหน่อยหรอกใช่หรือไม่?”

ป่ายหลี่เหลียนหัวเราะออกมาเบาๆ รอยยิ้มนั้นคล้ายคลึงกับกิ่งหลิวที่โอนเอนแกว่งไกว ท่ามกลางสายฝน

ไร้ท่าทางเจ้าชู้ และชั่วร้ายผิดทํานองคลองธรรม

ดวงตาคู่นั้นงดงามราวกับสรวงสวรรค์ น่าหลงใหล

กลับไม่นำมาซึ่งอารมณ์ของหญิงสาวเลยสักนิด

เซลล์ที่ถ่ายทอดของเทียนเจีย

ไป๋หลี่รุ่ย ไป๋หลี่เหลียน นางเพิ่งจะเห็นว่าทั้งสองคนล้วนแล้วแต่มีรูปร่างหน้าต่าที่งดงาม เลอค่าเช่นนี้ มิน่าล่ะถึงได้อยู่ในตำแหน่งโอรสที่เลื่องชื่อของจักรพรรดิที่สามของเมืองหลวง

ยังดีที่นางค่อนข้างมีการป้องกันการรุกรานสูงต่อชายรูปงาม

ไม่อย่างนั้นก็คงถูกมอมเมาจนวิงเวียนไปนานแล้ว

คังเสว่มี่ยิ้มดวงตาที่อ่อนละมุนที่แฝงไปด้วยความแวววาวมองไปทางไป๋หลี่เหลียน

“เจ้าหัวเราะอะไรกัน จิตใจของคนไม่สามารถโลภไปมากกว่านี้ได้ ตอนนี้ข้าไม่ขาดสิ่งใด สิ่งที่อยากเรียนเพียงสิ่งเดียวก็คือ กังฟู แต่หากองค์ชายหกยอมสอนกังฟูแก่ข้า นี่คงเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดเลย หากข้ายื่นข้อเสนอที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำละก็ เกรงว่าองค์ชายหกก็คงไม่พูดกับข้าเช่นนี้หรอกกระมัง”

“พูดได้ดีนี่! ” ป่ายหลี่เหลียนยกมือขึ้น แล้วตบมือเบาๆสองสามครั้ง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมจากนั้นก็พูดต่อ

“ทุกคนล้วนแล้วแต่บอกว่าคุณหนูคังเสว่มี่โง่เขลา แต่หลังจากที่ข้าเห็นในวันนี้แล้ว ก็คงจะโง่เขลาจริงๆ เจ้าเป็นคนที่แยกแยะทองหยกไม่ออก แต่ด้านศิลปะการต่อสู้ เจ้าอยากเรียน ข้าก็จะสอนเจ้า"เมื่อพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนเดินออกมาจากในสระอาบน้ำ ไหล่กว้างเรืองแสงอ่อนๆในห้อง ลายเส้นของกล้ามเนื้อเรียบแสดงให้เห็นความ แข็งแกร่งของบุรุษหลังจากที่คังเสว่มี่มองไปแวบหนึ่ง ก็หมุนตัวไปโดยรู้ว่าอะไรสมควรไม่สมควรถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงยุคสมัยปัจจุบัน และเคยเห็นมาไม่น้อยก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะสามารถยืนจ้องเขม็งไป ทางบุรุษที่เปลือยเปล่าได้ไม่หยุดหย่อนนี่ไม่ใช่การจัดการคังวี่จิ่น พี่ชายของตัวเอง การปฏิบัติต่อผู้อื่น จำเป็นต้องมีมารยาทเป็นหน่วยพื้นฐาน “ยังดีที่เจ้ารู้จักคำว่าอายเป็น !" ป่ายหลี่เหลียนเห็นนางหมุนตัวไปอีกทาง จึงได้ขมวดคิ้ว แล้วเดินออกจากสระอาบน้ำ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อเสียงพูดของเขาดังขึ้นราวกับดวงอาทิตย์ในยามเช้าตรู่ เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งยวดของฮ่องเต้ สดใสแต่ไม่มากเกินแต่คังเสว่มี่กลับคิดถึงเรื่องปล่อยไก่ที่ตัวเองทำไปเมื่อ สักครู่ มือน้อยๆได้กำหมัดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ส่วนมืออีกด้านก็ปัดหยดน้ำที่เกาะอยู่บนแก้มออก จนไม่ได้ยินเสียงใดๆดังมาจากด้านหลัง อุณภูมิมือที่ลดลง ก่อนพูดตามว่า:“เจ้ารีบใส่เสื้อผ้าเถอะ ข้าไม่อยากเสียเวลาในการเรียนรู้”“เร็วสิ” ป้ายหลี่เหลียนเห็นไหล่ซ้ายของนางเคลื่อนไหวโดย ไม่รู้ตัว เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อสักครู่ แขนขวาที่เรียวยาวที่ปิดตาไว้ จากนั้นก็ส่ายหน้า ก่อนจะหัวเราะโดยไร้เสียงออกมา

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์