โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

ตอนที่ 102 การรวมตัวของสามองค์ชาย 1

ไป๋หลี่เหลียนแกล้งทำเป็นถอนหายใจออกมาแล้วพูดเสียงใสขึ้นมาว่า

“ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาเพื่อฝึกวรยุทธ์ แต่ที่นี่ก็เป็นสถานที่ ที่สามารถเพลิดเพลินกับการพักร้อนที่ดีเลยทีเดียว”

จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ทะเลสาบที่อยู่ด้านหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า “ชื่อของทะเลสาบแห่งนี้ ถูกตั้งขึ้นตามลักษณะของมัน ทะเลสาบแห่งนี้ไหลมาจากแม่น้ำกว้างใหญ่สายหนึ่ง แล้วก็เชื่อมต่อกันจนกลายเป็นทะเลสาบผืนนี้

เจ้าดูนั่นสิข้างหนึ่งของทะเลสาบดูคล้ายกับดวงดาวที่อยู่บนฟ้า อีกข้างหนึ่งมีลักษณะเหมือนพระจันทร์บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน ไม่เพียงแต่จะสวยงาม

อากาศของที่นี่ก็เย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว บางคนไม่มีธุระอะไรก็สามารถมาเที่ยวและพักผ่อนที่นี่ได้”

ขณะที่คังเสว่มี่กำลังฟังที่ไป๋หลี่เหลียนแนะนำสถานที่อยู่นั้น นางก็สังเกตุเห็นว่า ในยามที่เขาเอื้อนเอ่ย ดูคล้ายกับว่า เขาจะเอ่ยทุกอย่างออกมาอย่างสบายๆ ราวกับกำลังทอดถอนใจ

จริงๆแล้วเขาไม่ได้บอกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในทะเลสาบซิงเยว่ให้นางฟังเลย เพราะเขาเพียงพูดในสิ่งที่ทุกคนควรจะทราบก็เท่านั้น

แต่สำหรับคังเสว่มี่ ที่เมื่อก่อนตัวเองมีนิสัยไม่ค่อยชอบออกจากตำหนักมาเที่ยวเล่นรอบๆบริเวณสถานที่ที่ไม่คุ้นตาเช่นนี้มากสักเท่าไหร่

ดังนั้น ความประทับใจที่นางมีต่อไป๋หลี่เหลียนจึงเริ่มดีขึ้นกว่าเดิมมาก ดวงตาที่สดใสเหมือนน้ำก็มองตามมือของเขาไปยัง สถานที่ ที่เขาชี้แล้วพูดว่า

“ยืนอยู่ตรงนี้มันมองเห็นไม่ค่อยชัดนะ”

“นั่นมันก็แน่นอนอยู่แล้ว ลักษณะภูมิประเทศของสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ราบเรียบพอๆกับพื้นผิวทะเลสาบเลย ถ้าอยากชมทิวทัศน์ทั้งหมดของทะเลสาบซิงเยว่ ทางที่ดีที่สุดก็คือจะต้องบินไปดูที่ภูเขาชานเมือง ถ้าหากข้างบนมีสุรารสเลิศสักสองจอก ประดับดวงดาวให้ทั่วท้องฟ้า ดื่มด่ำกับค่ำคืนในทะเลสาบซิงเยว่ เช่นนั้นสิถึงจะเรียกว่าสวยเกินคำบรรยาย เดินดูเพลินจนลืมกลับบ้าน”

ไป๋หลี่เหลียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม มีความเคลิบเคลิ้มและเพลิดเพลินเล็กน้อยอยู่ในแววตา เห็นได้ชัดว่าเคยเห็นทัศนียภาพที่งดงามดังกล่าวแล้ว

ก่อนหน้าที่คังเสว่มี่ยังไม่ข้ามมิติมาอยู่ที่นี่ การท่องเที่ยวก็คือสิ่งที่นางชอบมากที่สุด นางคิดว่าคนเราต้องเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวจึงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมวิธีหนึ่งของนาง

ได้ดูทัศนียภาพที่สวยงามและรับประทานอาหารที่ อร่อยล้ำทั่วโลก

คือความมุ่งมาดปรารถนาของนางเลยล่ะ

บัดนี้ได้ข้ามมาถึงยุคสมัยนี้แล้ว ความชอบนี้ของนางก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ในสายตาของนางแสดงความสนใจอย่างมากออกมา

แล้วจึงพูดว่า

“ดังที่เจ้ากล่าวมานั้น ถ้าหากมีโอกาส เช่นนั้นข้าจะต้องไปดูสักครั้งอย่างแน่นอน”

“ถ้าเสว่มี่สนใจ คราวหน้าหาเวลาเหมาะๆ พวกเราบินไปชมทัศนียภาพยามค่ำคืนที่ภูเขาด้วยกันก็แล้วกัน”

ลูกตาดำขลับของไป๋หลี่เหลียนเปล่งประกาย ทำให้นางรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก

“อืม วันนี้เราเรียนปรับลมปราณไปก่อนก็แล้วกัน วันหน้าเวลาเราขึ้นไปบนภูเขาจะได้ตัวเบามากยิ่งขึ้น” คังเสว่มีไม่ลืมว่าเรื่องที่จะมาทำในวันนี้คืออะไร

“วิธีปรับลมปราณนี้ ค่อนข้างเรียนง่ายมาก เจ้าดูวิชาตัวเบาของจื้อี้แค่รอบเดียวก็สามารถเรียนได้แล้ว วิชานี้คงไม่ยากเกินไปสำหรับเจ้าหรอก”

ไป๋หลี่เหลียนพาคังเสว่มี่เดินไปถึงด้านข้างของทะเลสาบ

หลังจากนั้นก็พูดอธิบายวิธีการปรับลมปราณหนึ่งรอบ ให้กับนาง

“สิ่งสำคัญในการปรับลมปราณก็คือจะต้องรวบรวม สมาธิให้ได้

กระตุ้นการเคลื่อนที่ของซี่แท้ที่อยู่ภายในร่างกายและทิศทางการขึ้นลงเปิดปิดของชี่ จากนั้นชี่หลังกำเนิดก็จะเปลี่ยนไปเป็นซี่ก่อนกำเนิด เช่นนี้ก็จะสามารถไหลเวียนกลับมาใหม่ได้แล้ว...”

“เช่นนี้ กำลังภายในก็จะไม่หยุดชะงักลงกลางคันในทันที

ยิ่งกำลังภายในล้ำลึก ก็ยิ่งสามารถพยุงได้นานยิ่งขึ้น เข้าใจไหม?” หลังจากที่ไป๋หลี่เหลียนพูดจบ ก็ถามคําถามนาง

คังเสว่มี่ ขมวดคิ้ว เมื่อสักครู่นี้ไป๋หลี่เหลียนพูดวกไปวนมา ทั้งจุดตันเถียน ทั้งชีพจรทั้งห้า นางจึงเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็มีส่วนที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งอยู่นิดหน่อย

พอเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของนาง ไป๋หลี่เหลียนเลยเดินไปอยู่ตรงหน้านาง จับมือของนางและปิดไปที่จุดตันเถียนของนางแล้วพูด ว่า “เจ้าหลับตาซิ ค่อยๆนะ หายใจเข้าหายใจออกช้าๆ มีอากาศกลุ่มหนึ่งไหลออกมาจากจุดตันเถียนหรือไม่

การปรับลมปราณก็คือการที่จะต้องทำให้มันไหลเวียน ไม่ขาด ไม่หยุดเป็นพักๆ เจ้าค่อยๆชักนำมัน ทำให้มันถ่ายเทกลับมาตามเส้นเอ็นและหลอดเลือด...”

คังเสว่มี่หลับตาอย่างเชื่อฟัง ขณะที่กำลังฟังไป๋หลี่เหลียนพูดว่า จะนำประสาทสัมผัสทั้งห้ามารวมอยู่ที่จุดตันเถียน นางรู้สึกว่าจุดตันเถียนที่อยู่ใต้ฝ่ามือของนางมีความ ร้อนแผ่ขึ้นมาเล็กน้อยอย่างชัดเจน หลังจากนั้นก็ดึงด้ายสีขาวที่อยู่ในก้อนเหมือนกับก้อน ไหมพรมสีขาวบริสุทธิ์หนึ่งก้อนออกมาจากข้างใน เริ่มแผ่กระจายเข้าไปในเส้นเอ็นและหลอดเลือด

ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งแผ่กระจายไปทั่วร่าง ก้อนไหมพรมสีขาวบริสุทธิ์ก็ยิ่งเล็กเช่นเดียวกัน จนกระทั่งนางใช้วิธีที่ไป๋หลี่เหลียนบอกเส้นด้ายสีขาว เส้นนั้นก็ออกมาจากอีกฝากหนึ่งแล้วค่อยๆผสมเข้าไป

ในก้อนไหมพรม ทีละนิด ทีละนิด ก้อนไหมพรมนั้นก็รักษาความสมดุลกันและมีขนาดใกล้ เคียงกันตั้งแต่ต้นจนจบ

เป็นเหมือนสายน้ำที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ถ่ายเทลงไปในแม่น้ำทั้งหมด ทันใดนั้นนางก็ได้เบิกตาโพลงโตแล้วพูดว่า

“ข้าเข้าใจแล้ว!”

เพียงในระยะเวลาอันสั้น นางก็สามารถเรียนการปรับลมปราณได้เข้าใจและ ควบคุมการไหลเวียนของชี่แท้ได้อย่างมั่นคงได้แล้ว ไป๋หลี่เหลียนมองด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน

เพราะว่าเขาวางมือไว้บนหลังมือของนาง จึงรู้สึกได้ว่าจุดตันเถียนมีกำลังภายในมหาศาลเลยพูด ด้วยความประหลาดใจว่า

“ถ้าเข้าใจแล้ว ตอนนี้ก็ลองบินอ้อมไปบนผิวทะเลสาบรอบหนึ่งดูซิ ในครั้งนี้ถ้ากำลังภายในไม่หยุดชะงักกลางครั้นอีก นั่นก็แสดงว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”“ได้!” คังเสว่มรู้สึกฮึกเหิมมาก นางถูฝ่ามือไปมา สายตามองลงไปบนพื้นผิวของทะเลสาบสีเขียวใสนั้น นางจ้องมองแล้วจ้องมองอีก ขนตาหนาๆก็ดูเหมือนมีไอน้ำเกาะอยู่เล็กน้อย“เดี๋ยวก่อน ข้ากำลังบินอยู่บนผิวน้ำ ถ้าเกิดตกลงไปจะทำเช่นไร แล้วก็เปียกชุ่มไปทั้งตัวอีก คงลำบากแย่เลยอ่ะ!ไป๋หลี่เหลียนคลี่ผัดหยกสีเขียวมรกตออกมา โบกพัดลมที่เย็นสบายสองสามครั้ง พัดจนจอนผมทั้งสองข้างของเขาพริ้วไหวไปตาม สายลม“ในเมื่อข้าพาเจ้าออกมาต่อหน้าต่อตาอ๋องคัง ข้าก็ต้องดูแลความปลอดภัยของเจ้าอยู่แล้ว เจ้าก็บินของเจ้าไป ข้าจะคุ้มกันการบินอยู่ข้างๆเอง ถ้ามีบางอย่างผิดปกติ ข้าจะเข้าไปช่วยเจ้าทันที ไม่ปล่อยให้เจ้ากลายเป็นผีอยู่ในน้ำหรอกน่ะ!”“เจ้าน่ะสิผี พอตกน้ำแล้วข้าไม่ใช่ผีซะหน่อย!” คังเสว่มีประณามเขาไป๋หลี่เหลียนโบกพัดและยิ้ม มองด้วยดวงตาเป็นดั่งเช่นสุราที่ทำให้คนมัวเมา แล้วพูดว่า “วันนี้เจ้าสวยเช่นนี้ ถ้าตกลงไปในน้ำ แล้วมีคนอื่นเห็น คงคิดว่าเจ้าเป็นเทพธิดาหรือภูติตัวเล็กที่อยู่ในน้ำแน่ๆเลย”ที่จริงแล้วเขาก็ชมนางทางอ้อมว่านางสวยนั่นต่างหาก

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์