โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 218 พลาดท่าแน่ๆ

บทที่ 218 พลาดท่าแน่ๆ

มาถึงตรงนี้เป้ยฉ่ายเวยก็ไม่อยากจะปิดบังอะไรเพื่อนรักแล้ว พูดขึ้นทันทีว่า “ก็แบบนั้นแหละ เออใช่ซือซือ สองสามวันนี่ฉันคิดว่าจะพารุ่ยรุ่ยไปพักที่บ้านเขาก่อน”

“พรืด——“ อวี๋ซือซือเกือบจะสำลักน้ำลาย ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “พวกแกพัฒนามาถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ถึงขนาดคิดจะอยู่ด้วยกันเลยหรอ”

เธอหายไปแค่ไม่กี่วัน โลกหมุนไปเร็วขนาดนี้เลยหรอ? ทำไมเวยเวยที่รักนวลสงวนตัวถึงได้ยอมไปอยู่กับหลี่จื่อเชียนเร็วขนาดนี้

“ซือซือ กำลังคิดอะไรเนี่ย ฉันไม่ได้จะไปอยู่กับเขาตลอด แค่ขออาศัยอยู่ชั่วคราว อีกอย่างเขาก็ไม่ได้กลับบ้านบ่อยๆด้วย” เป้ยฉ่ายเวยล่ะปวดหัวกับพลังจินตนาการที่ทะยานข้ามฟ้าของเพื่อนสนิทจริงๆ

อวี๋ซือซือเอามือทาบอกแล้วตบเบาๆ แสดงสีหน้าว่าโล่งใจออกมา พูดว่า “ให้ฉันพูดนะ แกก็อย่าทำอะไรตามอารมณ์นักล่ะ แต่ถึงแกอยากจะทำแค่ไหนฉันก็ไม่ว่าหรอก ถึงยังไงพวกเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เรื่องความต้องการทางร่างกายน่ะมันปกติมาก”

“นี่เธอชักจะไปใหญ่แล้วนะ” เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าเธอแค่พูดเล่น แต่ใบหน้าเล็กๆก็อดที่จะแดงไม่ได้

อวี๋ซือซือคิดๆดูแล้วก็รู้สึกทะแม่งๆ “ในเมื่อแกจะไปอยู่ที่นั่นกับเขาไม่ใช่เพราะเรื่องแบบนั้น แล้วทำไมแกต้องพาหลานฉันไปอยู่กับเขาที่นั่นด้วย”

ไม่ใช่สิ นี่ไม่ใช่ประเด็น อวี๋ซือซืออุทานขึ้นอย่างเสียงดังว่า “ชิบหาย แบบนี้ก็แปลว่าหลี่จื่อเชียนรู้ว่าแกมีรุ่ยรุ่ยแล้วสิ”

นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย

ฉูเจ๋อหยางที่เป็นพ่อแท้ๆไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกโตถึงเพียงนี้แล้ว แต่หลี่จื่อเชียนที่ไม่ใช่พ่อ กลับรู้ว่าเวยเวยมีลูก แต่ก็ไม่รู้ว่าหลี่จื่อเชียนจะมีความรู้สึกอยากเป็นพ่อบ้างไหม

“ใช่ ตอนที่รุ่ยรุ่ยอาการกำเริบคุณยายก็โทรมา ตอนนั้นเขาก็อยู่ด้วยพอดี เขาก็เลยพาฉันไปรับรุ่ยรุ่ยด้วย” เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้คิดว่ามันจะมีอะไร

อวี๋ซือซือกลืนน้ำลายลงคอ ถามว่า “แล้วเขาว่ายังไงบ้าง”

เธอหมายความว่าหลี่จื่อเชียนรู้หรือเปล่าว่าเป็นลูกของฉูเจ๋อหยางอะไรแบบนั้น เพราะถึงยังไงรุ่ยรุ่ยก็ถือได้ว่าเป็นฉูเจ๋อหยางเวอร์ชั่นย่อส่วนเลยล่ะ

“แล้วเขาควรจะว่ายังไงล่ะ? แต่ฉันดูแล้วเขาก็น่าจะชอบรุ่ยรุ่ยมากเลยล่ะ”

อย่างน้อยที่เธอเห็นก็เป็นแบบนั้น ตั้งแต่ที่พวกเขากลับมา ตลอดทางท่าทีที่จื่อเชียนมีต่อรุ่ยรุ่ยมันมองออกง่ายมาก เขาคงเป็นคนชอบเด็กจริงๆ อีกอย่างมีบางครั้งที่เธอรู้สึกว่าเขายังจะอดทนเก่งกว่าเธอที่เป็นแม่อีก

อวี๋ซือซือส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “ฉันว่านะพวกแกสองคนลองคบๆกันดูก่อนไหม หน้าต่างบานสุดท้ายนายนั่นยังทะลุเข้ามาได้ ทั้งยังรับเรื่องรุ่ยรุ่ยได้อีก หน้าตาก็ไม่เลว หาเงินก็เก่ง ทั้งอบอุ่นอีก เขาดีกับเธอและรุ่ยรุ่ยมากเลยนะ”

ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันตามจริง เธอก็คิดว่าฉูเจ๋อหยางไม่ได้เรื่องจนหาที่สิ้นสุดไม่ได้ หลี่จื่อเชียนจึงนำห่างเขาไปหลายโข

“ซือซือเธอกำลังคิดอะไร ฉันกับจื่อเชียนไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ อีกอย่างฉันก็พูดกับเขาจนเข้าใจกันแล้ว” ในตอนนี้เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกปวดหัวจริงๆ เหมือนกับว่าใครยอมรับเรื่องรุ่ยรุ่ยได้ เธอก็ต้องจับคู่กับคนนั้นงั้นหรอ?

อวี๋ซือซือซือรู้สึกผิดนิดหน่อย จึงแลบลิ้นออกมาทำสีหน้าแหยๆแล้วพูดว่า “แหะๆ ฉันคงตื่นเต้นไปหน่อย แต่เธอจะไม่พิจารณาจื่อเชียนจริงๆหรอ?”

“อืม ตอนนี้ฉันคิดแค่เรื่องผ่าตัดของรุ่ยรุ่ยให้ผ่านไปด้วยดี เรื่องอื่นฉันไม่คิดหรอก” เป้ยฉ่ายเวยหลุบตาลงต่ำ ซ่อนความอัดอั้นเอาไว้

เธอไม่อยากจะเจ็บปวดรวดร้าวในการฝันลมๆแล้งๆอีกต่อไป เธอไม่สามารถรักษาผู้ชายคนที่เธอรักมาตลอดสี่ปีได้แล้ว ถึงอย่างไรเมื่อจากกันไปโลกก็ยังต้องหมุนไปตามปกติ ดวงอาทิตย์ก็ยังต้องขึ้นทางทิศตะวันออกอยู่ดี

ถึงข้างกายฉูเจ๋อหยางจะไม่มีเธอ ก็คงไม่มีผลอะไรกับเขาหรอก

ความสัมพันธ์ที่มีแต่เธอคิดอยู่ฝ่ายเดียว เธอคือผู้แพ้ราบคาบ แม้แต่หัวใจก็ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้

เธอเชื่อว่าเวลาจะคอยเยียวยาบาดแผลได้ ถ้าสี่ปีนี้มันยังไม่พอ เธอก็สามารถใช้เวลาที่นานกว่านี้เพื่อรอให้บาดแผลสมาน ถึงตอนนั้นเจอกันก็คงไม่รู้สึกอะไรแล้ว

“นี่ เอาเถอะ แกจะทำอะไรก็ทำเถอะ”” อวี๋ซือซือก็ไม่รู้จะยุยงเพื่อนอย่างไรแล้ว ส่วนฉูเจ๋อหยางนี่ก็คิดไปเองเก่งเหลือเกิน

เขามั่นใจเกินไปแล้ว เชื่อสิว่าต้องพลาดท่าแน่ๆ หวังว่าต่อจากนี้หลังจากที่เขารู้ความจริงจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองในภายหลังนะ

ทั้งสองจึงจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้

เพราะว่ารุ่ยรุ่ยสุขภาพไม่ดี เป้ยฉ่ายเวยเลยไม่กล้าซื้อของมีน้ำมันเยอะ ส่วนใหญ่จึงซื้ออาหารที่ลูกชอบกินมา แล้วก็เพื่อเป็นการเอาใจลูก เธอยังตั้งใจไปที่ร้านเค้ก เพื่อซื้อคัพเค้กกลับมาให้ลูกด้วย

เป้ยฉ่ายเวยเดินถือของเข้ามา และเมื่อรุ่ยรุ่ยเห็นเค้กก็ดีใจอย่างที่คิดไว้จริงๆ ดวงตาสองข้างที่กลมโตสดใสยิ้มหยีจนตากลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว

ใกล้เวลากลางคืน คุณหมอเจ้าของไข้ก็เข้ามาตรวจ เมื่อตรวจดูอาการของรุ่ยรุ่ย ก็พบว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถ้าอยากจะออกจากโรงพยาบาล ก็สามารถทำเรื่องที่เคาท์เตอร์ได้ตลอดเวลา

บนใบหน้าของเป้ยฉ่ายก็ยกยิ้มขึ้นมา โค้งส่งคุณหมออย่างเคารพ จากนั้นก็กลับมานั่งอยู่ข้างเตียงเหมือนเดิม มองใบหน้าซาลาเปาที่ดูน่ารักด้วยแววตาอ่อนโยนพร้อมพูดขึ้นว่า “รุ่ยรุ่ย เราอยู่นี่อีกแค่คืนเดียวเนอะ พรุ่งนี้แม่จะพาหนูกลับบ้านดีไหมครับ”

“ครับ” รุ่ยรุ่ยตอบกลับอย่างแข็งขัน ขอแค่มีแม่อยู่ด้วย อยู่ที่ไหนเขาก็อยู่ได้หมดนั่นแหละ

ตอนนั้นเองที่โทรศัพท์เป้ยฉ่ายเวยสั่นครืดๆขึ้นมา จากนั้นสีหน้าของเป้ยฉ่ายเวยก็เปลี่ยนสีไปทันที มือขาวจับเตียงไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว ราวกับโทรศัพท์ที่สั่นอยู่นั้นไม่ใช่โทรศัพท์อีกต่อไป แต่เป็นสัญญาณสั่งตาย

“เวยเวย ทำไมไม่รับโทรศัพท์” อวี๋ซือซือมองเห็นสีหน้าประหลาดๆของเป้ยฉ่ายเวย จึงถามอย่างสงสัย “คงไม่ใช่ว่าเป็นใช่โรคจิตอีกนะ ให้ฉันช่วยแกรับไหม”

ในวินาทีที่อวี๋ซือซือยื่นมือออกมาจะหยิบโทรศัพท์ไป เป้ยฉ่ายเวยก็รีบแย่งโทรศัพท์กลับมา อวี๋ซือซือชะงักไปเล็กน้อย การกระทำของเวยเวยเมื่อกี้เรียกว่ากระชากได้หรือเปล่า?

เป้ยฉ่ายเวยรู้ตัวว่าการกระทำของเธอดูลนลานเกินไป ข่มความประหม่าในใจเอาไว้ พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูเรียบนิ่งว่า “ซือซือไม่ต้องหรอก อาจจะเป็นจื่อเชียนก็ได้ งั้นฉันออกไปรับสายก่อนนะ เธอรออยู่นี่แหละ”

พูดไปก็ไม่กล้ามองตาเพื่อนสนิทไปด้วย เธอก้มหน้าลง เดินออกไปด้วยความเร่งรีบ อวี๋ซือซือมองตามเพื่อนที่ดูประหม่าและหวาดกลัวอย่างครุ่นคิด คิดอยู่ตลอดว่าต้องเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับเพื่อนตัวเองแน่ๆ แต่ด้วยนิสัยที่ดื้อรั้นของเพื่อน เธอก็จนปัญญาที่จะไปคาดคั้นแล้วเหมือนกัน เธอไม่สามารถไปไล่จี้ถามได้ตลอดหรอก จู่ๆรุ่ยรุ่ยก็เอ่ยเสียงเล็กๆขึ้น “คุณป้าครับ ผมคิดว่าสายที่โทรมาต้องเป็นคุณพ่อแน่ๆเลย” อวี๋ซือซือเลิกคิ้ว ขยับศีรษะเข้าไปใกล้หลาน จ้องมองแก้มซาลาเปาที่น่ารักของหลานแล้วพูดขึ้น “หลานรัก บอกป้ามา ทำไมหนูคิดแบบนั้น” รุ่ยรุ่ยใช้สายตาที่บ่งบอกว่าคุณป้าโง่จังพร้อมจ้องตาของอวี๋ซือซือ พูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “ง่ายมากเลย นอกจากคุณพ่อแล้วจะมีใครอีกที่ทำให้คุณแม่มีท่าทางแบบนั้น” อวี๋ซือซือพูดอะไรไม่ออก นอกจากฉูเจ๋อหยางที่มีอิทธิพลต่อเวยเวย ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีใครอื่นอีก แต่ว่าเวยเวยก็บอกเองไม่ใช่หรอว่าเธอและเขาไม่อะไรกันแล้ว แล้วจะโทรมาหาอีกทำไม? “หนูลูกบอกความจริงกับป้ามา หนูว่าอะไรไหมถ้าแม่จะมีพ่อใหม่?”รุ่ยรุ่ยคิดสักพัก จากนั้นยักไหล่เล็กๆของตัวเองขึ้นแล้วพูดว่า “ขอแค่คุณแม่ชอบรุ่ยรุ่ยก็ชอบหมดนั่นแหละ ถึงพ่อจะไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่แม่เป็นแม่แท้ๆของผมแน่นอน ไม่ว่ายังไงคุณแม่ก็สนใจผมที่สุดอยู่ดี”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์