โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 219 เด็กน้อยผู้มีไอคิวเป็นเลิศ

บทที่ 219 เด็กน้อยผู้มีไอคิวเป็นเลิศ

ตอนนั้นเองที่อวี๋ซือซือตกตะลึงขึ้นมา เด็กน้อยหนูไม่ต้องฉลาดขนาดนี้ก็ได้ไหมลูก เธอรู้สึกว่าไอคิวของเธอคงไม่เท่าเด็กที่ยังอายุไม่ถึงสี่ปีแน่ๆเลย

ช่างเป็นความรู้สึกพ่ายแพ้ที่พูดไม่ออกเสียจริง “หลานรัก มันก็จริงอย่างที่หลานพูด”

ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าที่หนึ่งในใจของเวยเวยคือรุ่ยรุ่ย ขอแค่รุ่ยรุ่ยเห็นด้วย เวยเวยก็อาจจะเก็บไปพิจารณาก็ได้

“หนูคิดว่าคุณลุงหลี่เป็นไงบ้าง?”

“ก็แบบนั้นครับ ไม่ได้รู้จักอะไรมาก” รุ่ยรุ่ยพูดอย่างไม่ใส่ใจ

เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้าเด็กแก้มซาลาเปาจอมอวดดี เธอก็ทำได้เพียงอดกลั้นไม่ให้ตัวเองเข้าไปหยิกแก้มเด็กน้อย “ไม่เป็นไรยังมีเวลาอีกเยอะ หลานก็ค่อยๆดูไปแล้วกันนะ”

“ผมก็คิดแบบนั้น ถึงยังไงก็น่าจะดีกว่าคุณพ่อไม่เอาไหนของผมเยอะอยู่” ถึงจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ และปฏิสัมพันธ์ของเขากับคุณลุงก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ แต่รุ่ยรุ่ยก็แยกออกว่าใครจริงใจ ใครไม่จริงใจ

คุณลุงหลี่ก็ดีกับเขาอยู่ ไม่ได้มีท่าทีเหมือนทำดีกับเขาเพื่อเอาใจคุณแม่

ส่วนคุณพ่อก็ไม่เอาไหนมากๆ คุณลุงดีกว่าอีก ถ้าเพื่อคุณแม่แล้ว ดูเหมือนคุณลุงจะดูเหมาะกว่า

ภายในห้องพักฟื้นกำลังดำเนินไปด้วยเสียงผู้ใหญ่กับเสียงเด็กน้อยคุยกันไม่หยุด

เป้ยฉ่ายเวยเดินถือโทรศัพท์มาถึงทางหนีไฟ บนหน้าจอมีชื่อที่เธอตั้งไว้ให้เฉพาะฉูเจ๋อหยางโชว์หราอยู่ มือที่กดรับสายกำลังสั่นเทา แสงหน้าจอโทรศัพท์สว่างจ้าจนแยงตา

เธอรู้ว่าไม่มีทางหนีพ้น เธอจึงหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยกดรับสาย

เสียงที่พูดออกมาราวกับพยายามพูดให้เรียบนิ่งที่สุดเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอไม่ได้กลัวอะไร

“ฮัลโหล...”

“เป้ยฉ่าย คุณคงไม่ได้ลืมหน้าที่ของคุณไปแล้วนะ” หลังจากที่ฉูเจ๋อหยางถูกเธอยั่วโมโหจนต้องเดินหนีออกมาเมื่อตอนบ่าย เมื่อลองคิดดูก็รู้สึกว่าไม่ใช่ เป้ยฉ่ายเวยไม่ใช่ผู้หญิงบูชาเงินอะไรแบบนั้น ถ้าเธอชอบเห็นแก่เงินจริงๆ สี่ปีมานี้เธอคงพูดขอออกมาแล้ว

ตอนนั้นเขาโกรธจริงๆ เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ให้ดี แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็ดูเหมือนต้องการเงินจริงๆ

เมื่อคิดเชื่อมโยงไปว่าเธออาจจะกำลังปิดบังความลับอะไรไว้อยู่ และเขาก็คิดว่ามันถึงเวลาที่ต้องล้วงเอาความลับของเธออกมาดูว่ามันคืออะไรกันแน่

“ฉูเจ๋อหยาง บนโลกนี้ก็มีผู้หญิงอีกตั้งเยอะ ทำไมต้องเป็นฉันด้วย ในเมื่อคุณรวยขนาดนั้น อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็หาไปสิ” ทำไมต้องยืนกรานบังคับเธออยู่ได้

และเป้ยฉ่ายเวยก็จะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้ ลองนึกไปถึงเรื่องแบบนั้นที่เธอและเขาทำกันบนเตียงโดยที่ไม่มีความรัก แล้วแบบนั้นมันต่างอะไรกับสัตว์กันทำกันล่ะ

เสียงทุ้มของฉูเจ๋อหยางมีอนุภาพทำลายล้างอย่างไม่ต้องสงสัย “มันชินน่ะ”

“ฉูเจ๋อหยาง ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณนะ ถ้าคุณต้องการ ก็ไปหาหนานฉิงสิ หรือข้างนอกก็มีผู้หญิงอีกเยอะให้คุณเลือก” เป้ยฉ่ายเวยยังคงพยายามใจเย็นอย่างสุดชีวิต แต่ก็เพราะประโยคง่ายๆของเขาที่ทำให้เธอแทบจะแตกสลาย

เพราะชินกับร่างกายของเธอ เลยไม่อยากหาคนอื่นมาแทน หรือแค่รู้สึกว่าเธอมันง่าย เธอคิดว่าหัวใจตัวเองก็เจ็บจนชาแล้ว แต่ทำไมตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัวแบบนี้ ไม่มีตรงไหนอาการดีเลย

เขาใจร้ายมาก ใจร้ายจนทำให้เธอยับเยินจนอยากจะเลิกรา

ระหว่างสองคนมีแต่เสียงลมหายใจหนักๆ ถึงฉูเจ๋อหยางจะไม่เอ่ยอะไรออกมา เป้ยฉ่ายเวยก็รู้สึกได้ถึงความโกรธของเขาที่มีในตอนนี้ว่ามันมีมากแค่ไหน แล้วเขามีสิทธิ์อะไรมาโกรธ? คนที่ควรจะโกรธต้องเป็นเธอไม่ใช่หรอ?

แม้ว่าเธอจะโกรธจนจะตายเอาได้ แต่คนตัวเล็กๆอย่างเธอจะไปต่อกรอะไรกับเขาได้ เพื่อให้ตัวเองหนีไปได้อย่างราบลื่น เป้ยฉ่ายเวยจึงลดน้ำเสียงลง พูดขึ้นด้วยอย่างอ้อนวอนว่า “ฉูเจ๋อหยาง ฉันขอล่ะนะ ขอให้คุณปล่อยฉันไปได้ไหม?”

เธอเหนื่อยแล้วจริงๆ เหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรงดิ้นหนีแล้ว

ปล่อยเธอไปงั้นหรอ ปล่อยให้เธอกับหลี่จื่อเชียนไปอยู่ด้วยกันอย่างนั้นหรอ ฝันไปเถอะ ดวงตาของฉูเจ๋อหยางเผยสัญญาณอันตรายออกมา เสียงต่ำๆพูดอย่างเย็นชาว่า “เป้ยฉ่ายเวย หลังจากที่คุณเอาเงินพวกนี้ไป คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดเงื่อนไขอะไรกับผมทั้งนั้น”

เป้ยฉ่ายเวยอยากจะตะโกนใส่ฉูเจ๋อหยาง อยากจะตอกกลับเขาสักคำ อยากจะเอาเงินทั้งหมดคืนให้เขา ต่อไปนี้ทั้งสองก็จะไม่ติดหนี้อะไรกันแล้ว แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช้เงิน ยิ่งค่าผ่าตัดของรุ่ยรุ่ยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

ถึงเธอจะอวดดีแต่ก็ต้องก้มหน้ายอมรับอยู่ดี ในปากเต็มไปด้วยรสชาติขมขื่น แม้แต่จะพูดก็ไม่มีเรี่ยวแรง “ฉูเจ๋อหยาง คิดซะว่าฉันติดหนี้คุณก็ได้ ถ้าฉันมีเงินแล้วจะคืนให้คุณแน่ๆ”

เมื่อได้ยินเสียงคล้ายๆอ้อนวอนของเป้ยฉ่ายเวย หัวใจของฉูเจ๋อหยางก็เหมือนมีมีดมาทิ่มแทง เจ็บไปหมดจนเขาขมาวคิ้ว เขาไม่เข้าใจอยู่จุดหนึ่ง ทำไมเป้ยฉ่ายเวยต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นด้วย

พวกเขาอยู่ด้วยกันมาสี่ปี เขาไม่เคยทำตัวไม่ดีกับเธอเลย และไม่เคยได้ยินว่าเธอมีปัญหาอะไร หรือว่าเงินก้อนนี้ไม่ใช่เธอที่จำเป็นต้องใช้ แต่เป็นใครอีกคนแทน

“เป้ยฉ่ายเวยถ้าคุณไม่อยากติดหนี้ผมจริงๆ ก็ตอบคำถามผมมาหนึ่งข้อ” เป็นครั้งแรกที่เขารีบร้อนอยากได้คำตอบขนาดนี้

เป้ยฉ่ายเวยจับโทรศัพท์ไว้แน่น รู้สึกแสบจมูก พูดเสียงขาดๆหายๆว่า “ถามมา”

“เงินก้อนนี้เพื่อใครกันแน่” นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉูเจ๋อหยางจะให้เป้ยฉ่ายเวยได้สารภาพออกมา ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอะไร แค่เธอยินยอมที่จะบอก เรื่องที่แล้วมาเขาก็จะปล่อยให้มันแล้วๆไป และถ้ามันจำเป็นจริงๆ เขาก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยด้วย

แต่ทว่า เป้ยฉ่ายเวยยอมที่จะรับข้อเสนอแสนน่าอับอายของเขา ดีกว่ายอมพูดเหตุผลของเธอออกไป

“ฉูเจ๋อหยาง ฉันรับข้อเสนอของคุณ”

แววตาของฉูเจ๋อหยางพันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก หัวใจก็เต้นหนักหน่วงขึ้น เสียงเย็นๆราวกับเสียงของปีศาจที่มาจากนรก ทำให้เป้ยฉ่ายเวยสั่นสะท้านถึงสุดขั้วหัวใจ

“ไห้ คุณพูดเองนะเป้ยฉ่ายเวย มาตอนนี้เลย” เป้ยฉ่ายเวยถือโทรศัพท์ที่ตัดสายไปแล้วทาบกับหน้าอกที่เจ็บจนใกล้จะทนไม่ไหว ริมฝีปากอวบอิ่มอ้าออก สูดอากาศสดชื่นเขาไปเยอะๆ ทำเหมือนกับวินาทีต่อไปเธอจะเป็นลมเพราะขาดอากาศหายใจอย่างไรอย่างนั้น เธอจะล้มอยู่ที่นี่ไม่ได้ ก็แค่เซ็กส์เองไหม ไม่ได้มีอะไรยากเกินไปซักหน่อย ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย อีกอย่างลีลาฉูเจ๋อหยางก็ดี เธอก็ไม่ได้ถือว่าเสียเปรียบซะทีเดียวหนิ ถูกไหม? ถึงจะทำใจได้อยาก ก็ถือซะว่าถูกหมากัดหมาเลียก็แล้วกัน เป้ยฉ่ายเวยสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ยื่นมือออกมาเช็ดน้ำตาแรงๆ กระทืบเท้าดังปั่กๆ เพื่อทำให้ตัวเองเปลี่ยนจากสภาพที่ดูเหมือนคนกึ่งๆตายให้กระฉับกระเฉงขึ้นมาเมื่อกลับมาถึงห้องผู้ป่วย ก็ยกยิ้มพูดขึ้นว่า “รุ่ยรุ่ย ขอโทษนะ แม่มีธุระต้องออกไปทำนิดหน่อย อยู่กับคุณป้าไปก่อนนะ” รุ่ยรุ่ยที่ไม่รู้เรื่องว่าเป้ยฉ่ายเวยจะไปที่ไหน เสียงใสๆจึงตอบกลับว่า “ครับ ไม่เป็นไร ผมจะเป็นเด็กดีรอคุณแม่” เมื่ออวี๋ซือซือถูกพูดถึงขาดนี้แล้ว ก็คงต้องอยู่ต่อ และแน่นอนว่าเพื่อนไม่ได้มีธุระอะไรหรอก แต่แค่ไม่รู้ว่าจะออกไปไหนแค่นั้นเอง สายตาเป็นห่วงจ้องมองเธออย่างมีคำถามอะไรกัน? ไปอีกแล้ว

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์