โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่225 ระหว่างที่คิดอยู่นั้น

บทที่225 ระหว่างที่คิดอยู่นั้น

หลี่จื่อเชียนฉลาดเฉลียวออกอย่างนั้นเขาจะไม่เข้าใจความหมายของเป้ยฉ่ายเวยได้อย่างไร เธอยังกันเขาออกไป แต่ว่าเขาก็ไม่ได้รีบร้อน ดีที่ชีวิตที่หล่อนชอบ ก็เป็นชีวิตแบบที่เขาชอบเหมือนกัน

แน่นอนว่าเป็นผู้หญิงที่เขาชอบ สิ่งที่ชอบจึงไม่ได้แตกต่างกันมาก “ผมเองก็ชอบเดินทางไปทุกหนแห่ง เราสามารถเดินทางไปด้วยกันได้”

เป้ยฉ่ายเวยเขิน เธอต้องการที่จะเปลี่ยนเรื่อง ไม่คิดเลยว่าหลี่จื่อเชียนก็ยังตามมารุก เธอได้แต่พูดอย่างคลุมเครือ “ถ้าวันหลังมีโอกาส งั้นก็ไปด้วยกัน”

“อื้อ” หลี่จื่อเชียนอมยิ้มและพยักหน้า

เป้ยฉ่ายเวยก้มศีรษะด้วยความเขินอาย

ไม่นานรถก็หยุดที่หน้าประตูโรงพยาบาล เป้ยฉ่ายเวยกล่าวลากับหลี่จื่อเชียนสั้นๆ จากนั้นเธอก็หอบถุงผ้าสัมภาระเดินเข้าไปด้านใน

ช่วงเวลาที่เธอหันหลับมา หลี่จื่อเชียนก็อดจะตะโกนหยุดเธอไว้ไม่ได้ “เวยเวย ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมแพ้ พรุ่งนี้สิบโมงเช้าผมจะมารับพวกคุณ”

พูดจบเขาก็ขับรถออกจากตรงนั้นไป ปล่อยให้เป้ยฉ่ายเวยยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้น

จื่อเชียนนี่หมายความว่ายังไง คุณยังไม่ยอมแพ้อีกหรอ คิดแล้วเป้ยฉ่ายเวยก็ปวดหัว ได้แต่ปล่อยวางเรื่องนี้เอาไว้ก่อน และเดินตรงไปยังแผนกผู้ป่วยใน

เมื่อกลับถึงห้องพักผู้ป่วยรุ่ยรุ่ยก็หลับแล้ว เขาพิงซบอยู่กับเงาร่างที่คุ้นตา

อวี๋ซือซือได้ยินเสียงจึงลืมตาขึ้นเห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยกลับมาแล้ว เธอมองรุ่ยรุ่ยที่หลับอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะลุกลงจากเตียงและเดินมาหาเธอพร้อมถามด้วยเสียงเบาๆ “กลับมาแล้วหรอ ทำไมดึกจัง”

“อื้อ ระหว่างทางติดขัดนิดหน่อย วันนี้รบกวนเธอแล้ว ซือซือเธอง่วงก็รีบกลับไปนอนเถอะ” ดึกขนาดนี้แล้วยังให้เพื่อนรักมาเฝ้า เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกอายอยู่บ้าง

อวี๋ซือซือยกมือขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ “เอาน่าไม่ต้องมาพูดไร้สาระแล้ว ลงไปดื่มกาแฟเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ รุ่ยรุ่ยเพิ่งหลับไปได้สักพักไม่ตื่นขึ้นมาหรอก”

เป้ยฉ่ายเวยอดเหลือบไปมองชายร่างเล็กบนเตียงไม่ได้ เธอลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะพยักหน้าและตามอวี๋ซือซือออกไป

พ้นห้องผู้ป่วยไปแล้ว อวี๋ซือซือจึงกล้าใช้ระดับเสียงปกติ “สาวน้อย ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้”

ในห้องมืดเกินไป ตอนนี้เดินถึงใต้แสงไฟ เห็นใบหน้าซีดเซียวได้ชัดเจนมาก โดยเฉพาะดวงตาที่ราวกับถูกน้ำทะเลชะล้าง เปียกชื้น ทำไมถึงต้อง “ร้องไห้” มา อะไรทำให้เศร้าใจขนาดนั้น

ไม่ใช่ฉูเจ๋อหยางป่าเถื่อนบนเตียงเกินไปใช่ไหม จนเธอรับไม่ไหว เลยร้องไห้ออกมา

“ใช่ที่ไหน อาจจะเป็นเพราะว่าคืนนี้ลมแรงน่ะ” เป้ยฉ่ายเวยยื่นมือออกมาแตะใบหน้าของตัวเองโดยไม่ทันรู้ตัว นอกจากจะเย็นชืดแล้ว ก็ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติ

“ตัวเธอเองอาจจะมองไม่ออก ฉูเจ๋อหยางมาหาเธอทำไมน่ะ” อวี๋ซือซือพูดพลางจิบกาแฟ มันเป็นกาแฟกระป๋องซึ่งซื้อมาจากตู้กดของร้านสะดวกซื้อ แน่นอนว่าเธอไม่มีเศษเหรียญ คนจ่ายย่อมเป็นเป้ยฉ่ายเวยแน่นอน

ขณะที่เธอตั้งคำถาม เสียงตู้เหล็กก็ดังขึ้นสองครั้ง “ตึง ตึง” กาแฟสองขวดตกลงมา

เป้ยฉ่ายเวยประหลาดใจโพล่งออกมา “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉูเจ๋อหยางมาหาฉัน”

พูดจบก็เพิ่งรู้ตัวว่าเธอหลุดความจริงออกมาแล้ว

อวี๋ซือซือจ้องสายตารู้ทันของเป้ยฉ่ายเวยและยัดกาแฟในมืออีกขวดไปในมือเธอ “มันเดายากตรงไหน หน้าเธอมันฟ้องชัดซะขนาดนั้น พ่อตัวแสบนั่นทำอะไรอีกล่ะ”

เธอรู้ตัวว่าถูกรุ่ยรุ่ยทำให้นิสัยเสียซะแล้ว เริ่มเรียกฉูเจ๋อหยางว่า “พ่อตัวแสบ” แต่ว่าหลังจากฟังไปไม่กี่ครั้ง ก็รู้สึกว่าคำก็เหมาะดีเหมือนกัน

อา ฉูเจ๋อหยางไม่ใช่แค่พ่อตัวแสบ ยังเป็นหัวไชเท้าจอมเจ้าชู้ ที่รักบรรยายไว้ไม่มีผิด

เป้ยฉ่ายเวยเปิดฝาและจิบกาแฟไป มือทั้งสองของเธอก็เผลอบีบขวด “ไม่มีอะไร ก็แค่พูดให้ชัดเจน ว่าต่อไปเขาจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับหนานฉิง”

“เฮ้ย แล้วไอ้งั่งนั่นว่ายังไง” คำเรียกฉูเจ๋อหยางนั้นต่ำลงหลายระดับ อวี๋ซือซือกลายเป็นเรียกเขาว่า “ไอ้งั่ง” คิดไม่ถึงว่าฉูเจ๋อหยางจะโง่อย่างไม่น่าเชื่อ

ยังจะไปบอกเวยเวยอีก ไม่รู้ว่าสมองเขาคิดอะไรอยู่

เป้ยฉ่ายเวยไม่ทันได้ตอบ เธอยกขวดขึ้นซดอีกครั้งและรู้สึกว่ามันขมมาก ขมไปถึงลิ้นเลย ทำไมเธอถึงไม่ได้รสชาติอื่นเลย

อวี๋ซือซือเห็นเป้ยฉ่ายเวยสีหน้าไม่ดี จึงหัวเราะฮ่าฮ่าและกล่าวว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องสนใจเขา ขอแค่ร่างกายรุ่ยรุ่ยแข็งแรงก็พอแล้ว”

“อื้อ ซือซือตอนนี้ดึกมากแล้ว เธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” ออกมาพักใหญ่แล้ว รุ่ยรุ่ยอยู่ในห้องคนเดียว เป้ยฉ่ายเวยเริ่มเป็นกังวล

อวี๋ซือซือตบไหล่เป้ยฉ่ายเวยพร้อมพูดว่า “ได้ เธอก็รีบนอนล่ะ มีเรื่องอะไรก็อย่าปิดบัง ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะไม่นับเธอเป็นเพื่อนแล้ว”

“รู้แล้ว ต่อไปยังมีเรื่องต้องรบกวนเธออีกน่า” เป้ยฉ่ายเวยเม้มปากแสร้งทำเป็นพูดติดตลก

“ถ้างั้น ฉันไปก่อนนะ เริ่มจะเป็นหญิงแก่ละ นอนดึกไปจะไม่ดี” อวี๋ซือซือยืดมือบิดขี้เกียจพลางโบกมือและเดินจากไป

หลังจากที่เป้ยฉ่ายเวยเห็นอวี๋ซือซือออกไปแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปในห้องพักของรุ่ยรุ่ย

เมื่อกลับถึงห้องผู้ป่วย เป้ยฉ่ายเวยมองดูรุ่ยรุ่ยที่หายใจสม่ำเสมอและราบรื่น สายตาเธอพลันอ่อนโยน เธอถอดรองเท้า นอนตะแคงข้างๆเขา มองดูใบหน้าเขาหลับอย่างเงียบๆ ดูเหมือนว่าจะมีแค่วิธีนี้ จิตใจของเธอจึงจะไม่คิดสับสนว้าวุ่น

------

พอหนานฉิงได้รับสายจากฉูเจ๋อหยาง เธอจะปลื้มจนพูดอะไรไม่ออก ตั้งแต่เธอกลับประเทศมา นี่เป็นครั้งแรกที่อาเจ๋อเริ่มโทรหาเธอก่อน และยังให้เธอไปที่อพาร์ทเม้นต์เขาอีก

ตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว ดึกขนาดนี้หญิงสาวชายโสด เรื่องมันชัดมาก

เธอรับปากในทันที รีบวางสาย ซ่อนความตื่นเต้นบนใบหน้าเอาไว้ไม่อยู่ คืนนี้จะได้นอนกับอาเจ๋อจริงๆแล้วใช่ไหม เธอเผลอนึกถึงหน้าอกอันแข็งแกร่งของเขา ใบหน้าเธอก็แดงขึ้นมาทันใดระหว่างขาก็เปียกชื้น เธอก็เป็นผู้หญิง ก็มีความต้องการ ทุกครั้งที่นึกถึงคนรักในตอนกลางดึก เธอก็อดคิดเรื่องพรรค์นั้นไม่ได้ ได้แต่พยายามสะกดมันเอาไว้แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าทำไมอาเจ๋อถึงได้เปลี่ยนไปในคืนนี้ แต่มันก็เป็นโอกาสทองสำหรับเธอไม่ว่ายังไงคืนนี้ก็ต้องจัดการอาเจ๋อให้อยู่หมัดหนานฉิงครุ่นคิด มุมปากยกขึ้นทันใด เธอตั้งใจเลือกชุดชั้นในเซ็กซี่จากตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็เลือกชุดกระโปรงที่ค่อยข้างจะเผยให้เห็นเนื้อหนังแม้ว่าจะลบเครื่องสำอางออกหมดแล้ว แต่เธอก็ยินดีที่จะแต่งใหม่อีกครั้ง ถ้าหากว่าเวลาไม่เร่งรัดแล้วล่ะก็ เธอไม่อยากให้อาเจ๋อรอนาน เธอจะแต่งให้ปังกว่านี้อีกเมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว หนานฉิงก็ไม่ได้ให้คนขับคนขับไปส่ง แต่เธอเดินตรงไปที่รถ ขับรถสปอร์ตออกไป ตรงไปที่อพาร์ตเม้นต์ของฉูเจ๋อหยางกลางดึกอันเงียบสงัด มีรถวิ่งอยู่ไม่มาก ครู่เดียวหนานฉิงก็มาถึงด้านล่างอพาร์ตเม้นต์ของฉูเจ๋อหยาง ยังไม่ทันได้จอดรถให้ดีก็แทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะทะยานเข้าไปข้างในใจเธออดทนอย่างร้อนรุ่ม

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์